|
หัวข้อ: หนึ่งเดียวในน่าน “ต้นเทียนพระพุทธเจ้า” ที่วัดหนองแดง จ.น่าน เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 23, 2019, 08:38:21 am (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_23_06_19_8_16_09.jpeg) หนึ่งเดียวในน่าน “ต้นเทียนพระพุทธเจ้า” ที่วัดหนองแดง จ.น่าน ศรัทธาหลั่งไหลแห่ชมแน่นวัด ที่วัดหนองแดง ต.เปือ อ.เชียงกลาง จ.น่าน มีประชาชนเดินทางไปกราบไหว้และถ่ายรูป “ต้นเทียนพระพุทธเจ้า” ซึ่งเป็นต้นไม้ที่แปลกและหาชมได้ยากกันเป็นจำนวนมาก ต้นเดียวในวัดหนองแดง ที่มีผลเป็นฝักแท่งยาวสีเหลือง ผิวสัมผัสนุ่มนิ่ม มีลักษณะคล้ายเนื้อเทียน และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ความยาวฝักส่วนใหญ่ประมาณ 8-15 นิ้ว แต่มีบางฝักยาวถึงประมาณ 3 ฟุต โดยฝักที่เหลืองบางส่วนได้ร่วงหล่นใต้ต้น ทางด้าน พระครูพิบูลนันทวิทย์ เจ้าอาวาสวัดหนองแดง และเจ้าคณะตำบลเปือ เล่าถึงประวัติที่มาของ ต้นเทียนพระพุทธเจ้า ว่า เมื่อประมาณปี พ.ศ.2538 หรือประมาณ 22 ปีที่แล้ว ทางวัดได้ช่วยกันถางป่ารกร้างภายในบริเวณวัดเพื่อนำพื้นที่มาพัฒนาใช้ประโยชน์ จนได้พบกับหน่อของต้นไม้ดังกล่าวซึ่งบางส่วนถูกถางฟันทิ้งไปแล้ว แต่ต้นไม้ก็ยังพยายามเติบโต จนเจ้าอาวาสได้เก็บรักษาดูแลไว้ และเจริญเติบโตงอกงาม (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_23_06_19_8_16_49.jpeg) (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_23_06_19_8_14_38.jpeg) (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_23_06_19_8_15_24.jpeg) จากนั้น 3 ปีต่อมา เป็นช่วงเข้าพรรษาในช่วงฤดูฝนเจ้าอาวาสพบว่าฝักของต้นไม้ดังกล่าว มีลักษณะเหมือนเทียน จึงเกิดเป็นคติธรรมว่า ขนาดต้นไม้ยังออกฝักเป็นเทียนเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา จึงได้ตั้งชื่อว่า “ต้นเทียนพระพุทธเจ้า” จากนั้นได้สืบหาข้อมูลของต้นไม้ดังกล่าว ซึ่งพบว่าต้นไม้ชนิดนี้ เป็นพันธุ์ไม้ จากประเทศปานามา แถบเมริกากลาง และมีชื่อเรียกว่า “ต้นเทียน” ซึ่งก็ใกล้เคียงกับชื่อที่ได้ตั้งขึ้นไว้เอง โดยเคยลองสอบถามและค้นหาว่ามีต้นไม้ชนิดนี้ในพื้นที่อื่นๆ ของจังหวัดน่านอีกหรือไม่ ซึ่งปรากฏว่าในช่วง 4-5 ปี ก็ไม่มีข้อมูลว่ามีต้นเทียนแบบนี้อีก จึงคาดว่าน่าจะมีต้นเทียนพระพุทธเจ้า เพียงต้นเดียวในจังหวัดน่านและจะออกผลครั้งหนึ่งอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน ในช่วงเดือน พฤษภาคม-มิถุนายน ของทุกปี (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_23_06_19_8_15_02.jpeg) (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_23_06_19_8_16_29.jpeg) (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_23_06_19_8_17_08.jpeg) โดยต้นเทียนพระพุทธเจ้า จะมีใบเขียวขจีและฝักเหลืองเต็มต้นมากที่สุดในช่วงเข้าพรรษา ฤดูฝนจนถึงฤดูหนาว ส่วนในช่วงฤดูร้อน ใบจะร่วง แต่ก็ยังมีฝักออกตลอด โดยพุทธศาสนิกชนสามารถมาเยี่ยมชมได้ตลอดเวลา ซึ่งภายในวัดนอกจากจะมีต้นเทียนพระพุทธเจ้าแล้ว ยังมีโบราณสถานที่ซ่อนปริศนาและคติธรรมต่างๆ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้นำคำสอนของพระพุทธเจ้า ไปใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตประจำวันได้ด้วย กิจกรรมของวัด หากประชาชนเข้าไปกราบไหว้พระในวัดแล้ว ชาวบ้านจะแต่งกายวิถีของคนไทลื้อที่ไม่เหมือนจังหวัดอื่น จะประกอบพิธีสืบชะตาแบบไทลื้อ ตามด้วยพิธีบายศรีสู่ขวัญโดยคนไทลื้อ และการกรวดน้ำผ่านตัวปลามงคลลงไปสู่ภพภูมิ และพิธีห่มโพธิ์ ค้ำโพธิ์ เชิญตุงปราสาท สรงน้ำพระเจดีย์แห่งความเมตตา จะทำให้มีคนเมตตารักใคร่ เหมาะทางการค้าขาย ซึ่งวัดจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาทำบุญทุกวัน (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_23_06_19_8_15_46.jpeg) (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_23_06_19_8_28_15.png) (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_23_06_19_8_28_54.png) (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_23_06_19_8_28_35.png) เรียบเรียงโดย : ทีมงานเมียงน่านแจ๋วจริง ขอบคุณที่มา : http://www.nanjaewjing.com/16478?fbclid=IwAR3Q1kSxlFie9JJCqhdOTgDwUsUz1vCJY1uHJrLX2CEpEUmwetoNH1I28VI (http://www.nanjaewjing.com/16478?fbclid=IwAR3Q1kSxlFie9JJCqhdOTgDwUsUz1vCJY1uHJrLX2CEpEUmwetoNH1I28VI) 22 มิถุนายน 2019 |