สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

พระอนาคามี : พระอริยบุคคล ผู้ไม่กลับมาเกิด อีกต่อไป

พระอนาคามี เป็นพระอริยบุคคลระดับที่ 3 ในพระพุทธศาสนา “อนาคามี” มีความหมายว่า “ผู้ไม่มาเกิดอีก”

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตฺโต) กล่าวถึงความหมายของพระอนาคามีไว้ว่า หมายถึง พระอริยบุคคลผู้ได้บรรลุอนาคามิผล มี 5 ประเภทด้วยกัน คือ

1. อันตราปรินิพพายี ผู้ปรินิพพานในระหว่างอายุยังไม่ถึงกึ่ง
2. อุปหัจจปรินิพพายี ผู้ปรินิพพานเมื่อจวนจะถึงสิ้นอายุ
3. อสังขารปรินิพพายี ผู้ปรินิพพานโดยไม่ต้องใช้ความเพียรนัก
4. สสังขารปรินิพพายี ผู้ปรินิพพานโดยต้องใช้ความเพียรมาก
5. อุทธังโสโต อกนิฏฐคามี ผู้มีกระแสในเบื้องบนไปสู่อกนิฏฐภพ (ชั้นสูงสุดในพรหมโลก)

ผู้ที่จะเป็นพระอนาคามีต้องละ สังโยชน์ 5 ประการ (กิเลสที่ทำให้สัตว์เวียนว่ายตายเกิด) ได้แก่
     1. สักกายทิฏฐิ (ถือมั่น)
     2. วิจิกิจฉา (สงสัยในพระรัตนตรัย)
     3. สีลัพพตปรามาส (หลงใหลในศีล)
     4. กามราคะ (ติดใจในกามคุณ) และ
     5. ปฏิฆะ (ขุ่นเคือง)

ในสมัยพุทธกาลมีเศรษฐีคนหนึ่งชื่อ วิสาขเศรษฐี สามีของนางธัมมทินนา (พระธัมมทินนาเถรี) ที่ได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าแล้วบรรลุอนาคามีทันที

@@@@@@

ผู้ที่ได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าโดยตรง หรือฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า จากผู้อื่นแล้วบรรลุเป็นพระอนาคามี มีอยู่ด้วยกันหลายคน เช่น

พราหมณ์เฒ่า อายุ 120 ปี ชื่อว่า “พรหมายุ“มีความเชี่ยวชาญในพระเวทมาก แต่มีศาสตร์หนึ่งที่ชำนาญเป็นพิเศษคือ ทำนายลักษณะของมหาบุรุษ อาศัยอยู่ในเมืองมิถิลา แคว้นวิเทหะ ได้ส่งอุตตรมาณพ ผู้เป็นศิษย์ไปดูว่าพระสมณโคดมทรงมีพระมหาปุริสลักษณะหรือไม่

ผลปรากฏว่า พระองค์ทรงมีพระมหาปุริสลักษณะครบทั้ง 32 ประการจริง ต่อมาพรหมายุได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าก็พบว่าพระองค์ทรงมีลักษณะแห่งมหาบุรุษครบทั้ง 32 ประการ จึงเชื่อแล้วว่าพระองค์ทรงเป็นพระพุทธเจ้า พราหมณ์เฒ่าได้ทูลถามปัญหาธรรมต่าง ๆ แล้วเกิดความเลื่อมใส และบรรลุเป็นพระอนาคามีในที่สุด

พราหมณ์ผู้หนึ่งชื่อว่า “พาวรี“เป็นอาจารย์ใหญ่สอนพระเวทอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโคธาวารี สุดเขตแคว้นอัสสกะ ได้ส่งลูกศิษย์ทั้ง 16 คนไปทูลถามปัญหากับพระพุทธเจ้า เพื่อทดสอบว่าพระสมณโคดมทรงเป็นพระพุทธเจ้าจริงหรือไม่ จนกระทั่ง 1 ใน ลูกศิษย์ มีชื่อว่า “ปิงคิยะ” ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลาน ได้กลับมาและเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง ทำให้พาวรีได้ฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าผ่านปิงคยะ จึงทำให้เขาบรรลุเป็นพระอนาคามีในที่สุด

พราหมณ์ทั้งสองหลังจากสิ้นบุญก็ไปเกิดเป็นพรหมบนชั้นสุทธาวาส ไม่กลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป

@@@@@@

พระพุทธเจ้าตรัสยืนยันเรื่องนี้กับพระอานนท์ว่า “นันทาเถรี เมื่อมรณภาพแล้วเกิดเป็นอุปปาติกะ และจะนิพพานในภพนั้น” หมายความว่า พระเถรีผู้เป็นพระอนาคามีรูปนี้ เมื่อมรณภาพแล้ว ไปเกิดเป็นพรหมชั้นอกนิฏฐภพ เมื่อสิ้นอายุขัยแห่งพรหมแล้วจะไม่เกิดอีกต่อไป (นิพพาน)

พระอนาคามีบางท่านเกิดเป็นพรหมชั้นหนึ่งชั้นใดในสุทธาวาส (สุทธาวาสประกอบด้วย อวิหาสุทธาวาส, อตัปปาสุทธาวาส, สุทัสสาสุทธาวาส, สุทัสสีสุทธาวาส และ อกนิฏฐาสุทธาวาส) ก็จะบำเพ็ญจนกระทั่งเคลื่อนขึ้นมาอยู่ชั้นอกนิฏฐภพแล้วเข้าสู่พระนิพพาน


ที่มา :-
www.84000.org/พรหมายุสูตร (http://www.84000.org/พรหมายุสูตร)
www.84000.org/วัตถุกถา (http://www.84000.org/วัตถุกถา)
www.84000.org/อนาคามี (http://www.84000.org/อนาคามี)
วังคีสะ หมอดู ผู้พยากรณ์ ชาติหน้า ของ คนตาย ด้วย หัวกะโหลก
พระธัมมทินนาเถรี ภิกษุณี ที่ พระพุทธเจ้า ทรงชมเชยว่าเป็น นักปราชญ์
ทัวร์พรหมโลก ดินแดนแห่งผู้สร้างบุญด้วยสมาธิ
ภาพ : https://pixabay.com (https://pixabay.com)
ขอบคุณ : https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/163826.html (https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/163826.html)
By nintara1991 ,13 July 2019