สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ กันยายน 30, 2019, 06:16:56 am



หัวข้อ: นางมาคันทิยา สตรีผู้ตามจองล้างจองผลาญพระพุทธเจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 30, 2019, 06:16:56 am

(https://i0.wp.com/goodlifeupdate.com/app/uploads/2019/09/samawadi-2.jpg)


นางมาคันทิยา สตรีผู้ตามจองล้างจองผลาญพระพุทธเจ้า

ครั้งพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ กรุงโกสัมพี เชื่อว่าหลายท่านอาจจำได้ว่าครั้งที่พระองค์ตรัสรู้เป็นพระอนุตรสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว บิดาและมารดาของ นางมาคันทิยา ซึ่งอยู่ในวรรณะพราหมณ์ และมีความชำนาญในการดูนรลักษณ์ เมื่อได้เห็นพระวรกายของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วก็รู้ทันทีว่าพระองค์ทรงเป็นมหาบุรุษ จึงยกธิดาเพียงคนเดียวที่มีความงดงามให้เป็นภรรยา

พระพุทธองค์ทรงปฏิเสธเพราะทรงมิข้องเกี่ยวกับกามคุณทั้งหลายแล้ว ทำให้นางมาคันทิยาเจ็บแค้นใจ เพราะการที่ผู้หญิงในสมัยนั้นถูกปฏิเสธเป็นเรื่องที่เสียเกียรติมาก นางจึงผูกอาฆาตพระพุทธองค์นับแต่นั้นมา

ต่อมานางมีวาสนาได้เป็นพระมเหสีอีกพระองค์ของพระเจ้าอุเทน นางค่อมชื่อว่า “ขุชชุตตรา” ได้ฟังธรรมจากพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วนำมาเล่าถวายให้พระนางสามาวดีผู้เป็นพระอัครมเหสีแห่งพระเจ้าอุเทนสดับ ทำให้พระนางสามาวดีและบริวารอีก 500 นางบรรลุเป็นพระโสดาบัน

@@@@@@

เมื่อนางมาคันทิยารู้ว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ในกรุงโกสัมพี และพระอัครมเหสีทรงเลื่อมใสในพระองค์มาก ทำให้ไฟแค้นของนางประทุขึ้นมาอีกครั้ง

นางมาคันทิยาไม่สามารถทำอะไรพระอัครมเหสี รวมถึงบริวารอีก 500 นางที่เลื่อมใสในพระบรมศาสดาได้ จึงหันไปเล่นงานพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยการจ้างให้คนไปยืนด่าทอพระพุทธองค์ต่าง ๆ นานา

พระอานนท์ พุทธอนุชาทรงเห็นดังนั้นจึงทูลขอให้พระพุทธองค์เสด็จไปประทับที่เมืองอื่น พระองค์จึงตรัสตอบว่า “เราไปที่ไหนไม่ได้หรอกอานนท์ เพราะมีแต่คนว่ากล่าวเรา” พระอานนท์จึงทูลขอให้พระพุทธองค์เสด็จไปจากกรุงโกสัมพีอีกครั้ง แต่กลับไม่เป็นผล

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสสอนพระอานนท์ว่า “ผู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ย่อมไม่ต่างจากช้างศึกที่สามารถทนทานต่อลูกศรที่พุ่งมาจากทิศทั้งหลายได้ ตถาคตสามารถทนต่อคำว่ากล่าวอันหยาบคายเหล่านั้นได้ อานนท์”

@@@@@@

ดังนั้นพระบรมศาสดาจึงไม่เสด็จไปประทับที่อื่น ยังคงประทับอยู่ที่เมืองแห่งนี้ต่อไป แต่เพลิงแค้นของนางมาคันทิยายังคงลุกโชติช่วงอยู่ และนับวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ  ทำให้นางทำการวางเพลิงสังหารหมู่พระอัครมเหสีและบริวารอีก 500 นาง แต่ทุกพระองค์ล้วนเป็นพระโสดาบันแล้วจึงไม่ตื่นกลัวต่อภัยที่เกิดขึ้น ยังคงกำหนดกรรมฐานจนสิ้นใจในกองเพลิง อย่างไรก็ตามผู้สำเร็จเป็นพระโสดาบันเกิดอีก 7 ชาติก็เข้าสู่พระนิพพานในชาติสุดท้าย บางนางได้สำเร็จเป็นพระอนาคามี เกิดเป็นพรหมแล้วเข้าสู่พระนิพพานบนนั้นไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก

จุดจบของนางมาคันทิยาเรียกได้ว่ามาตายน้ำตื้น เพราะหลังจากพระเจ้าอุเทนโทมนัสที่พระอัครมเหสีสวรรคตในกองเพลิง แต่ทรงเก็บพระอาการไว้ และทรงประกาศว่าจะประทานรางวัลแก่ผู้ที่ลอบวางเพลิงพระนางสามาวดี เพราะพระนางทรงคิดไม่ซื่อต่อพระเจ้าอุเทนมานาน ซ้ำยังวางแผนลอบปลงพระชนม์พระองค์อยู่หลายครั้ง นางมาคันทิยาได้ยินดังนั้นจึงเปิดเผยว่านางเองที่เป็นคนวางเพลิง

พระเจ้าอุเทนทรงทราบแล้วว่านางมาคันทิยาเป็นผู้สังหารพระอัครมเหสีจึงประหารนางด้วยการถูกเฉือนเนื้อออกมาแล้วนำไปทอด และให้นางกินเนื้อจากกายของนางแทนอาหาร ทำอย่างนี้จนกระทั่งนางสิ้นใจ หลังจากนั้นสถานที่นางจะไปถึงคือนรกภูมิสถานเดียว


 
ที่มา : อรรถกถา ธรรมบท เรื่องของพระองค์ นางสามาวดี จุดจบของพระนางมาคันทิยา
ภาพ : www.pexels.com (http://www.pexels.com) , www.dhammajak.net (http://www.dhammajak.net)
https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/176149.html (https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/176149.html)