หัวข้อ: ย้อนมติมหาเถรสมาคม ย้ำชัด "พื้นที่วัดห้ามนำสัตว์มาปล่อย" เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 04, 2019, 04:51:25 pm (https://news.thaipbs.or.th/media/G0DL5oPyrtt5HBAi4oAiu3oa1dsm27Z1A75TK5dH6h3HxxfGAGnC6X.jpg) ย้อนมติมหาเถรสมาคม ย้ำชัด "พื้นที่วัดห้ามนำสัตว์มาปล่อย" ย้อนมติเถรสมาคม ออก 3 มาตรการ ห้ามนำสัตว์มาปล่อย ห้ามซื้อ-ขาย ชีวิตสัตว์ในเขตวัด และให้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า อย่างเคร่งครัด จากกรณีที่พบการจับนกกระจอกใส่ถุงพลาสติดขายในตลาดเช้า จ.กาษสินธุ์ โดยแม่ค้าอ้างว่าเพื่อให้ประชาชนที่ใจบุญซื้อเพื่อนำไปปล่อย ทีมข่าวไทยพีบีเอสออนไลน์ ได้ตรวจสอบพบว่า ก่อนหน้านี้ที่ประชุมเถรสมาคมได้ร่วมแก้ปัญหาป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ โดยออกหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติ 3 ข้อ ดังนี้ 1. ให้กำหนดพื้นที่วัดเป็นเขตห้ามเจ้าของสัตว์ นำสัตว์มาปล่อย ละทิ้ง หรือกระทำใด ๆ ให้สัตว์พ้นจากการดูแลของตนโดยไม่มีเหตุอันสมควร 2. ให้กำหนดเขตพื้นที่วัดเป็นเขตห้ามซื้อขายหรือการทำธุรกิจเกี่ยวกับการค้าชีวิตสัตว์ภายในเขตวัด 3. ให้วัดต่าง ๆ ถือปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมสัตว์และการจัด สวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2553 และ พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 โดยเคร่งครัด ทั้งนี้ มติดังกล่าวมีเนื้อหาดังนี้ @@@@@@ มติที่ 410/2561 เรื่อง การจัดทำหลักเกณฑ์ วิธีการ ในการปล่อยสัตว์ในวัด ในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 19/2561 เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2561 เลขาธิการ มหาเถรสมาคมเสนอว่า สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทยได้มีหนังสือ ที่ ท.ปก. 455 /61 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2561 แจ้งว่า สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) ก่อตั้งขึ้นมากว่า 24 ปี เพื่อรณรงค์หาทางป้องกันและแก้ไขปัญหาการทารุณสัตว์โดยสันติวิธี ด้วยการดำเนินงานในรูปแบบต่างๆ เช่น การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง และเสริมสร้างจิตสำนึกแห่งความเมตตาให้แก่สาธารณชนและเยาวชนโดยทั่วไป ให้มีในการสอดส่องป้องกันการทารุณสัตว์และมีบทบาทในการรณรงค์แก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิสัตว์ โดยเป็นผู้นำภาคประชาชนในการรณรงค์ผลักดัน พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 @@@@@@ เนื่องจากในพื้นที่เขตวัดได้กำหนดเป็นเขตอภัยทาน ตามคำสั่งมหาเถรสมาคม เรื่อง กำหนดเขตอภัยทานในพื้นที่วัด พ.ศ.2538 โดยกำหนดความมุ่งหมายเพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์บก สัตว์น้ำ ตลอดถึงปักษีทวิชาติที่ไม่เป็นพิษเป็นภัย โดยได้อาศัยความร่มเย็นเป็นสุขปราศจากการถูกเบียดเบียน หรือรบกวนด้วยประการใด ๆ แต่ในปัจจุบันพบว่า พื้นที่วัดส่วนใหญ่ได้มีผู้นำสัตว์มาปล่อยละทิ้งเป็นจำนวนมาก ไม่ว่า สัตว์ป่า เช่น นก เต่า หมูป่า หรือจะเป็นสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัขและแมว เป็นต้น ทำให้เกิดการแพร่กระจายขยายพันธุ์ของสัตว์นั้นเป็นจำนวนมาก บางครั้งอาจจะสร้างความเดือดร้อนรำคาญ เป็นภาระกับพระภิกษุ สามเณร ในการปฏิบัติศาสนกิจรวมถึงประชาชนในพื้นที่รอบข้าง อีกทั้งบางพื้นที่บางวัดมีการจัดจำหน่ายทำธุรกิจการค้าชีวิตสัตว์เพื่อนำมาปล่อย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเพราะส่วนใหญ่จะเป็นการทำลายวงจรชีวิตสัตว์ตามธรรมชาติและเป็นการทารุณสัตว์อันไม่สมควร @@@@@@ พระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมสัตว์และการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 มาตรา 23 กำหนดห้ามมิให้เจ้าของสัตว์ ปล่อย ละทิ้ง หรือกระทำการใด ๆ ให้สัตว์พ้นจากการดูแล ของตนโดยไม่มีเหตุอันสมควร มาตรา 32 กำหนดว่า เจ้าของไม่ปฏิบัติ หรือฝ่าฝืนมาตรา 23 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 40,000 บาท พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 16, 19, 20 ประกอบมาตรา 47 กำหนด ห้ามล่า ครอบครองและการค้า สัตว์ป่าคุ้มครอง ถ้าไม่ปฏิบัติหรือฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทยพิจารณาเห็นควรกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเพื่อปฏิบัติ ดังนี้ 1. ให้กำหนดพื้นที่วัดเป็นเขตห้ามเจ้าของสัตว์ นำสัตว์มาปล่อย ละทิ้ง หรือกระทำใด ๆ ให้สัตว์พ้นจากการดูแลของตนโดยไม่มีเหตุอันสมควร 2. ให้กำหนดเขตพื้นที่วัดเป็นเขตห้ามซื้อขายหรือการทำธุรกิจเกี่ยวกับการค้าชีวิตสัตว์ภายในเขตวัด 3. ให้วัดต่างๆ ถือปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมสัตว์และการจัด สวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 และ พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 โดยเคร่งครัด และขอให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาตินำเสนอมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดทราบ ที่ประชุมรับทราบ ขอบคุณ : https://news.thaipbs.or.th/content/284855 12:21 | 4 ตุลาคม 2562 |