สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

หลวงปู่ครูบาบุญยัง ปัญญาวโร พระแท้ที่มีชีวิตเรียบง่ายกลางป่าเขา

พระมหาไกรพิทักษ์ จิตฺตีกาโรได้เล่าเหตุการณ์ที่ท่านได้พบกับพฤฒาจารย์ หลวงปู่ครูบาบุญยัง ปัญญาวโร พระภิกษุอาวุโสผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ อาศัยอยู่กลางป่า ยึดหลักธุดงควัตรปฏิบัติตลอดชีพ

พระมหาไกรพิทักษ์ จิตฺตีกาโร พระอาจารย์หนุ่มเจ้าของเฟซบุ๊ก “พระมหาไกรพิทักษ์ จิตฺตีกาโร (ผ่านทุกข์ได้จึงพบสุข)” ได้เล่าเรื่องราวที่พระอาจารย์ได้พบกับหลวงปู่ครูบาบุญยัง เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2560 ผ่านเฟซบุ๊กของท่านว่า


”กว่าจะดั้นด้นเข้าไปถึงได้กราบผู้เฒ่า สุดแสนจะลำบากบุกป่าฝ่าดงเข้าไป และได้กราบสมใจ หลวงปู่ครูบาบุญยัง อายุ 109 ปี วัดบ้านหนองโค อำเภอแจ้โด่ง จังหวัดกอกะเร๊ ประเทศพม่า หลวงปู่มีเชื้อสายบรรพบุรุษเป็นชาวเวียงจันทร์ประเทศลาวที่อพยพมาอยู่พม่าตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา

”หลวงปู่เล่าประวัติการออกปฏิบัติกรรมฐานเดินธุดงค์อยู่รุกขมูลในป่าเขา ปฏิบัติเอาเป็นเอาตายแลกเอาธรรม เคยเดินธุดงค์พบกันและสนทนาธรรมกับหลวงปู่แหวน, หลวงปู่ตื้อ, หลวงปู่ครูบาพรหมจักร และครูบาอาจารย์สายกรรมฐานของประเทศไทยอีกหลายองค์


”หลวงปู่เปรียบดังช้างเผือกที่เก็บตัวอยู่ในป่าเขาไม่ปรากฎตัว น้อยคนนักที่จะรู้จัก แต่ใครจะนึกละว่า..ในหลวง ร.9 ได้ส่งคณะแพทย์ที่รักษาพระองค์ไปตรวจสุขภาพร่างกายหลวงปู่ทุกปี และได้ส่งอาหารเสริมนมผงไปถวายหลวงปู่ประจำ ท่านต้องไม่ธรรมดาแน่นอน และแม้หลวงปู่จะอายุ 109 ปีแล้วท่านยังฉันข้าวมื้อเดียวนะ”

ข่าวสดเสนอข้อมูลการธุดงค์และปฏิบัติกรรมฐานของหลวงปู่ครูบาบุญยังไว้อย่างน่าสนใจว่า ในอดีตหลวงปู่ครูบาบุญยังได้พบกับหลวงปู่ครูบาพรหม ซึ่งตอนนั้นได้พักอยู่ที่วัดพระพุทธบาทตากผ้า จังหวัดลำพูน นานถึง 7 ปี จึงได้แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องกรรมฐานกันและกัน พบว่าการภาวนาพุท-โธดีที่สุด เมื่อศึกษาและปฏิบัติกรรมฐานจนรู้สึกอิ่มใจแล้วจึงเดินทางกลับเมียนมา


ทั้งยังได้ร่วมเดินทางมากราบหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จึงได้ร่วมกับคณะธุดงค์ของหลวงปู่มั่น ซึ่งเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่แหวน หลวงปู่ตื้อ หลวงปู่ชอบ หลวงปู่ขาว ครูบาพรหม ครูบาวัง ท่านธุดงค์ตามสถานที่ต่าง ๆ ในป่าเขาแถบชายแดนไทย-พม่าได้ร่วมธุดงค์ขึ้นไปเชียงใหม่กับหลวงปู่แหวน จนเลยเข้าไปถึงภาคอีสานในประเทศไทยไปทั่วตามป่าเขาและเคยเข้ามากรุงเทพฯ ได้มีโอกาสกราบพระแก้วมรกต
Advertisement

จากนั้นหลวงปู่ครูบาบุญยังได้เดินธุดงค์ข้ามไปยังประเทศลาว และข้ามกลับมาประเทศไทยก่อนจะกลับเมียนมาก็ไปหาหลวงปู่แหวน แล้วธุดงค์ไปภาคเหนือของเมียนมาจนไปถึงสิบสองปันนา ระหว่างทางได้พบเจอกับครูบาอาจารย์ต่าง ๆ มากมาย ทั้งไทย เมียนมา กะเหรี่ยง


หลวงปู่ครูบาบุญยังไปพักที่หนองจะมังและช่วยสร้างวัด สร้างเจดีย์อีก 3 แห่ง ก่อนจะมาอยู่จำพรรษาที่วัดหนองโค อำเภอไจ้โด่ง จังหวัดอาจินเซะจี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา และได้สร้างโบสถ์ สร้างศาลา ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิดของท่าน

ท่านจำวัดอยู่ในกุฏิไม้หลังเล็กอย่างเรียบง่ายเปรียบดั่งนักบุญแห่งป่าใหญ่ ด้วยจริยวัตรที่เปี่ยมล้น ด้วยความเมตตา กรุณา รักสันโดษ สมถะ เรียบง่าย ไม่สะสม อาศัยกุฏิไม้หลังเล็กๆ สวดมนต์เจริญภาวนากรรมฐาน ท่านจึงเป็นที่เคารพของชาวบ้านทั้งเมียนมาและกะเหรี่ยง คนไทยตามแนวชายแดน และชาวอุ้มผาง


ที่มาและภาพ : www.facebook.com/immabud (http://www.facebook.com/immabud) , www.khaosod.co.th (http://www.khaosod.co.th)
ขอบคุณ : https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/dhamma/181360.html (https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/dhamma/181360.html)
ฺัBy nintara1991 , 30 October 2019

 st11 st12 st12