หัวข้อ: พระพุทธสิหิงค์ รัชกาลที่ 1 กับการเมืองไทย สมัยคณะราษฎร เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ธันวาคม 12, 2019, 06:01:59 am (https://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2019/12/พุทธสิหิงค์.jpg) ภาพถ่ายนาคพระยาพหลพลพยุหเสนาในหมู่สงฆ์ หน้า "พระพุทธสิหิงค์ รัชกาลที่ 1" ที่ประดิษฐานในพระอุโบสถวัดพระศรีมหาธาตุ (ภาพจาก นริศ จรัสจรรยาวงศ์. "หลอมนิกาย มหาสังฆกรรมคณะราษฎร อุปสมบทพระยาพหลฯ พ.ศ.2484" นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับมิถุนายน 2561. น.117)พระพุทธสิหิงค์ รัชกาลที่ 1 กับการเมืองไทย สมัยคณะราษฎร เมื่อกล่าวถึง “คณะราษฎร” และ “พระพุทธสิหิงค์ รัชกาลที่ 1” ท่านผู้อ่านนึกถึงอะไร คาดว่าคนส่วนใหญ่จะนึกถึงการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตย ปี 2475 และพระพุทธรูปองค์หนึ่งที่ประดิษฐานอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร (ตามลำดับ) แล้วทั้ง 2 เรื่องเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันอย่างไร วิศรุต บวงสรวง นักศึกษาปริญญาเอก สาขาวิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อธิบายถึงความสัมพันธ์ดังกล่าวไว้ในบทความชื่อว่า ” ‘พระพุทธสิหิงค์ รัชกาลที่ 1’ กับการเมืองไทยสมัยคณะราษฎร ทศวรรษ 2470-90″ ที่ตีพิมพ์ใน “ศิลปวัฒนธรรม” ฉบับเดือนธันวาคม 2562 ความสัมพันธ์ของพระพุทธรูปองค์หนึ่ง กับ คณะบุคคลกลุ่มหนึ่ง ขอรวบรวมบางส่วนมานำเสนอ ดังนี้ เริ่มตั้งแต่การจำลองรัฐธรรมนูญประจำจังหวัด ในปี 2477 ของรัฐบาล สำหรับมอบให้เป็นสัญลักษณ์รัฐธรรมนูญประจำจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยรัฐธรรมนูญจำลองทั้งหมดอัญเชิญมาประดิษฐานบนพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ เบื้องหน้าพระพุทธสิหิงค์ รัชกาลที่ 1 เพื่อรอให้ผู้แทนแต่ละจังหวัดมารับไปยังจังหวัดของตนเอง (https://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2019/12/2-50.jpg) ภาพพระพุทธสิหิงค์ รัชกาลที่ 1 เมื่อครั้งประดิษฐานในพระอุโบสถวัดพระศรีมหาธาตุ (วัดประชาธิปไตย) ในฐานะพระพุทธปฏิมาสำคัญของคณะราษฎร (ภาพจาก “ประวัติวัดพระศรีมหาธาตุสำนักนายกรัฐมนตรี, 2495. น.16.)ซึ่งหลวงวิจิตรวาทการอธิบายว่า “…พระพุทธสิหิงค์เป็นที่เคารพสักการะของพระราชาธิบดีและประชาชนชาวสยามมาตลอดเวลากว่า 600 ปี รัฐธรรมนูญฉบับจำลองที่ประดิษฐานอยู่ในจังหวัดต่างๆทั่วพระราชอาณาจักรสยามนั้น ก็ได้ทำขึ้นและรักษาไว้ภายใต้อานุภาพของพระพุทธสิหิงค์ และด้วยเหตุนี้จึงกล่าวได้แน่นอนว่า พระพุทธสิหิงค์เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของประเทศสยาม…” ภายหลังประกอบพิธีสมโภชรัฐธรรมนูญจำลองประจำจังหวัดแล้ว ในช่วงเวลาดังกล่าวยังมีการจำลองพระพุทธสิหิงค์ รัชกาลที่ 1 ไปประดิษฐานตามต่างจังหวัด โดยความสนับสนุนของรัฐบาลและกรมศิลปากรด้วย เช่น จังหวัดภูเก็ตที่จำลององค์พระพุทธสิหิงค์ประจำจังหวัดขึ้น เมื่อ พ.ศ.2479 ซึ่งกรมศิลปากรกำหนดให้มีพิธีกรรมการหล่อขึ้นที่พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร มีคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เททองหล่อ เมื่อหล่อพระพุทธสิหิงค์องค์จำลองเสร็จแล้ว มีการฉลอง ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ เบื้องหน้าพระพุทธสิหิงค์องค์จริง จากนั้นอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์องค์จำลองไปยังจังหวัดภูเก็ตโดยทางรถไฟ (https://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2019/12/3-44.jpg) งานหล่อและอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ (จำลอง) ไปภูเก็ตประมาณ พ.ศ.2482 (ภาพจาก สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ https://www.nat.go.th (https://www.nat.go.th)) ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2482-2483 จังหวัดยะลาก็ได้ดำเนินการ ให้มีการสร้างพระพุทธสิหิงค์จำลองประจำจังหวัดยะลาขึ้นด้วยเช่นกัน หรือเมื่อสมาชิกคณะราษฎรและรัฐบาลในขณะนั้น มีความประสงค์จะสร้างวัดประชาธิปไตย (วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน) ขึ้นเพื่อเป็นวัดประจำคณะราษฎร รวมถึงเป็นที่บรรจุอัฐิบรรดาผู้ก่อการและผู้สละชีพในการปราบกบฏบวรเดช ขึ้นที่ทุ่งบางเขน อันเป็นพื้นที่ที่รัฐบาลคณะราษฎรมีชัยชนะเหนือกบฏ ในการประชุมของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการจัดสร้างวัดดังกล่าว ได้มีการกล่าวถึงพระประธานจะประดิษฐานที่พระอุโบสถว่าจะเป็นพระพุทธรูปองค์ใด หลวงประดิษฐ์มนูธรรมถามในที่ประชุมว่า “พระประธานสำหรับวัดนี้จะเอาที่ไหน” เมื่อหลวงวิจิตรวาทการเสนอว่า “ข้าพเจ้าพร้อมที่จะให้พระพุทธสิหิงค์…” ที่ประชุมก็เห็นชอบ (https://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2019/12/4-37.jpg) ภาพถ่ายทางอากาศวัดพระศรีมหาธาตุ (วัดประชาธิปไตย) ดังนั้น เมื่อสร้างวัดประชาธิปไตยเสร็จแล้ว ก็จะได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ไปประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถ นอกจากนี้ เมื่อพลเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา หัวหน้าคณะราษฎรจะอุปสมบท ณ วัดประชาธิปไตย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการทำพิธีอุปสมบทเป็นปฐมฤกษ์ของวัด แม้ในขณะนั้นการก่อสร้างต่างๆ ยังไม่เรียบร้อยดีนัก รัฐบาลก็กราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาตอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์รัชกาลที่ 1 ไปประดิษฐานเป็นการชั่วคราว 1 วัน สำหรับงานอุปสมบทดังกล่าว การอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ รัชกาลที่ 1 (5 กรกฎาคม 2484) มาประดิษฐานเพียงวันเดียวครั้งนั้น รัฐบาลแจ้งเรื่องไปยังสำนักพระราชวัง หลวงวิจิตรวาทการเห็นว่า เนื่องจากเป็นการประดิษฐานชั่วคราว จึงจัดพิธีพอสังเขป (https://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2019/12/1-64.jpg) “พระพุทธสิหิงค์ รัชกาลที่ 1” ประดิษฐานบนพระแท่นบุษบก พระที่นั่งพุทไธสวรรย์พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร (ภาพถ่ายโดย พิชัย ยินดีน้อย)โดยเชิญไปทางรถไฟหรือรถยนต์เงียบๆ แล้วพักรักษาไว้ที่กองทัพอากาศดอนเมือง ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงกับวัด 1 คืนก่อน แล้ววันรุ่งขึ้นจึงค่อยแห่โดยใช้กระบวนเครื่องสูงมายังพระอุโบสถ แต่เลขาธิการพระราชวังเสนอให้ถวายพระเกียรติยศเป็นพุทธบูชาต่อพระพุทธสิหิงค์ รัชกาลที่ 1 ตามจารีตแบบราชสำนักอย่างเต็มที่ และเสนอความเห็นว่า "ไม่ควรใช้รถยนต์อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ รัชกาลที่ 1 ตามดำริของรัฐบาล แต่ควรใช้ราชรถน้อยการอัญเชิญจึงจะควรแก่เกียรติยศของพระพุทธรูป ถ้าพระราชทานหรือโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้รัฐมนตรีท่านหนึ่ง นำสายสะพายราชอิสริยาภรณ์มหาวชิรมงกุฎ จำเพาะแพรแร่งไม่มีดวงตรา ไปคล้องพระหัตถ์ขวาองค์พระพุทธสิหิงค์ได้ก็จะดี เมื่อพระพุทธสิงหิงค์ รัชกาลที่ 1 ไปถึงวัดแล้ว ควรที่จะมีการสมโภชด้วยมหรสพและดอกไม้ไฟด้วย ฯลฯ (https://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2019/12/6-27.jpg) พระพุทธสิหิงค ์ประดิษฐานที่พระที่นั่งพุทไธสวรรย์พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครในปัจจุบัน ที่กล่าวมาข้างต้นนี้ คงพอได้เห็นความสำคัญของพระพุทธสิหิงค์ รัชกาลที่ 1 องค์นี้ และความสัมพันธ์ระหว่างคณะราษฎรและพระพุทธสิหิงค์ รัชกาลที่ 1 ที่ชัดเจนยิ่ง หากน่าสนใจว่าทำไมต้องเป็น “พระพุทธสิหิงค์ รัชกาลที่ 1” ทำไมคณะราษฎรจึงเลือกพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปองค์นี้มีความสำคัญอะไร มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ซึ่งขอเชิญท่านหาคำตอบที่เหลือไปด้วยในนิตยสาร “ศิลปวัฒนธรรม” เดือนธันวาคมนี้ (https://www.silpa-mag.com/wp-content/uploads/2019/12/ปกธันวา62-1.jpg) ที่มา : หน้าประชาชื่น มติชนรายวัน ผู้เขียน : วิภา จิรภาไพศาล wipha_ch@yahoo.com เผยแพร่ : วันที่ 11 ธันวาคม 2562 ขอบคุณ : https://www.matichon.co.th/prachachuen/prachachuen-scoop/news_1806098 (https://www.matichon.co.th/prachachuen/prachachuen-scoop/news_1806098) วันที่ 11 ธันวาคม 2562 - 17:15 น. |