หัวข้อ: เที่ยวชมวัดราชประดิษฐาน สุดเก่าแก่-แสงสีอลังการ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มกราคม 09, 2020, 06:10:21 am (https://www.dailynews.co.th/admin/upload/20200106/news_wKQbTmdqfZ105405_533.jpg) เที่ยวชม "วัดราชประดิษฐาน" สุดเก่าแก่-แสงสีอลังการ สัปดาห์นี้พาไปเที่ยววัดราชประดิษฐาน เมืองกรุงเก่า ชมโบราณสถานและวัตถุเก่าแก่ล้ำค่า แถมโดดเด่นเรื่องแสงสียามค่า ปีใหม่ที่เพิ่งผ่านพ้น ไปเที่ยวอยุธยา ไปทำบุญสวดมนต์ข้ามปีที่วัดตูม การสวดมนต์ข้ามปีที่วัดตูม เริ่มต้นสวดกันตั้งแต่สี่โมงเย็นใช้เวลาสวดเพียงหนึ่งชั่วโมงรวมนั่งสมาธิสิบนาที ทุกอย่างรวดเร็วเรียบง่าย นัยว่าอะไรที่ปรารถนาก็จะได้มาไม่ยาก เที่ยวอยุธยาครั้งนี้พักในตัวเมืองที่โรงแรมคลาสสิค คามิโอ ห้องพักสะอาด อาหารดี ความปลอดภัยดี ยามเย็นที่อยุธยาเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน สวยงามเหมือนภาพวาด สายน้ำจากคูคลองรอบตัวเมืองดูมีชีวิต ที่ "วัดราชประดิษฐาน" ยามค่ำมีเปิดไฟโดยรอบโบราณสถาน (https://www.dailynews.co.th/admin/upload/20200106/news_sijERhkEJN105405_533.jpg?v=20200108006?v=7708) วัดนี้ ตั้งอยู่ริมคลองประตูข้าวเปลือก ฝั่งตะวันตก ถนนอู่ทอง ตำบลหัวรอ อำเภอพระนครศรีอยุธยา สร้างมานานครั้งกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ไม่ปรากฏหลักฐานว่าผู้สร้างคือ ผู้ใด ปัจจุบันเป็นวัดราษฎร์ แต่กระนั้นก็สันนิษฐานว่า ผู้สร้างน่าจะเป็นกษัตริย์ ด้วยเหตุที่ว่า ล้วนแล้วแต่เชื้อพระวงศ์ที่ทรงผนวชและจำพรรษา ที่วัดนี้ พระเฑียรราชา หรือ พระเจ้าจักรพรรดิ ก็ทรงผนวชที่วัดนี้ ก่อนลาผนวชเพื่อขึ้นครองราชเป็นพระมหาจักรพรรดิ ในปี พ.ศ. 2091 พระเจ้าอุทุมพร กรมขุนพรพินิต หรือ ขุนหลวงหาวัด ที่ทรงผนวชอยู่วัดประดู่ทรงธรรม ก่อนเสียกรุงครั้งที่สอง ในปี พ.ศ. 2310 ยังเสด็จมาจำพรรษาที่วัดราชประดิษฐาน เมื่อเสียกรุง พม่าได้กราบทูลเชิญไปยังประเทศพม่า (https://www.dailynews.co.th/admin/upload/20200106/news_twBkwFNiiW105405_533.jpg?v=20200108006?v=8299) ความเก่าแก่ และความสำคัญของวัดราชประดิษฐาน ก่อนหน้าปี พ.ศ. 2091 ค่อนข้างเลือนไม่ได้มีการกล่าวถึง วัดราชประดิษฐานนี้ถือได้ว่า เป็นวัดในกำแพงเมืองชั้นใน เดิมเคยมีคลอง ที่เรียกว่า "คลองประตูข้าวเปลือก" สันนิษฐานว่า เคยใช้เป็นที่ขึ้นลงข้าวเปลือก ปัจจุบันไม่มีคลองแห่งนี้แล้ว เพราะถูกถมเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของวัด ทั้งยังได้รวมพื้นที่วัดท่าทรายที่เคยตั้งอยู่ตรงข้ามกับปากคลองข้าวเปลือกมารวมเป็นส่วนหนึ่งของวัดราชประดิษฐานอีกด้วย คลองประตูข้าวเปลือก (ตอนบน) และ คลองประตูจีน (ตอนล่าง) คือ ชื่อคลองในครั้งอยุธยายังรุ่งเรือง เป็นคลองที่อยู่บนเกาะเมืองในกรุงเก่า เพื่อเชื่อมแม่น้ำลพบุรีทางทิศเหนือ กับ แม่น้ำเจ้าพระยาทางทิศใต้ ในอดีตคลองนี้สำคัญมากทีเดียวเพราะเป็นเส้นทางหลักที่ติดต่อระหว่างเกาะเมืองในกับเกาะนอกเมือง (https://www.dailynews.co.th/admin/upload/20200106/news_NFQZpcaove105406_533.jpg?v=20200108006?v=9960) บริเวณด้านหน้าพระอุโบสถมีป้อมโบราณ เรียกว่า “ป้อมประตูข้าวเปลือก” จากจำนวนทั้งหมด 29 ป้อม ปัจจุบันปรากฏหลักฐานให้ชมเพียง 2 ป้อม คือ ป้อมประตูข้าวเปลือก และ ป้อมเพชร ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะเมือง วัดราชประดิษฐาน นี้ยังมีเรื่องเล่าในสมัยพระเจ้าปราสาททอง ครั้งเมื่อทรงลดยศสมเด็จพระอาทิตย์วงศ์ ให้ไปอยู่เรือนเสาไม้ไผ่ที่วัดท่าทราย มีข้ารับใช้สองคน ตามประวัติศาสตร์บริเวณปากคลองข้าวเปลือก เคยเกิดสงครามแย่งชิงบัลลังก์ระหว่างเจ้าฟ้าอภัย โอรสของพระเจ้าท้ายสระที่ชอบเสวยปลาตะเพียนมาก ถึงขึ้นห้ามราษฎร์กินปลาตะเพียน และกรมพระราชวังบวรสถานมงคล (เจ้าฟ้าพร) ภายหลังเจ้าฟ้าพรรบชนะ สถาปนาตัวเองขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ที่วัดราชประดิษฐานนี้ไม่ได้มีดีแค่แสงสียามค่ำที่กรมศิลปากรใช้งบประมาณไปกว่า 90 ล้านบาท เพื่อนำสายไฟลงดิน แต่ยังมีโบราณสถานและวัตถุที่รอการบูรณะอย่างละเอียดรอบคอบอีกหลายรายการ. คอลัมน์ : ชำเลืองเมือง โดย “แรมทาง” ขอบคุณภาพประกอบจาก Facebook : เจ้าพระยา ริเวอร์ ขอบคุณที่มา : https://www.dailynews.co.th/article/750538 (https://www.dailynews.co.th/article/750538) อังคารที่ 7 มกราคม 2563 เวลา 11.00 น. |