หัวข้อ: 'วัดสุทัศน์เทพวราราม' แกนกลางของจักรวาล เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มกราคม 30, 2020, 05:50:07 am (https://www.dailynews.co.th/admin/upload/20200126/news_QMRyzaLRFf111326_533.jpg) 'วัดสุทัศน์เทพวราราม' แกนกลางของจักรวาล สัปดาห์นี้พาไปรู้จักความเป็นมา “วัดสุทัศน์เทพวราราม” แกนกลางของจักรวาล และความวิจิตรงดงามในพระอุโบสถ พร้อมกราบไหว้พระศรีศากยมุนี” พระพุทธรูปหล่อใหญ่สุดในไทย วลีที่ติดปากคุ้นหูของคนที่รู้จัก “วัดสุทัศน์เทพวราราม” หรือ ต่อไปจะเรียกว่า วัดสุทัศน์ ก็คือ เรื่องของเปรตวัดสุทัศน์ ที่มักจะถูกกล่าวถึงและพ่วง กับประโยคที่ว่า แร้งวัดสระเกศ ชื่อเต็มๆ ของวัดสุทัศน์ ก็คือ วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร บานประตูพระวิหารของวัดสุทัศน์ จำหลักลายโดย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ในหลวงรัชกาลที่ 2 ในราชวงศ์จักรี (https://www.dailynews.co.th/admin/upload/20200126/news_WEPTQZGjbO111337_533.jpg?v=20200129003?v=7993) ในหลวงรัชกาลที่ 2 ไม่ได้ทรงมีพระปรีชาสามารถด้านบทกวีเท่านั้น พระปรีชาสามารถในด้านศิลปะ และ สถาปัตยกรรม ยังงดงามยิ่ง พระประธานในวิหารที่วัดสุทัศน์ชื่อเดิมว่า “หลวงพ่อโต” รัชกาลที่ 4 พระราชทานนามใหม่ว่า “พระศรีศากยมุนี” เป็นพระพุทธรูปหล่อที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย ความเก่าแก่ของพระศรีศากยมุนี สร้างสมัยราชวงศ์พระร่วง กรุงสุโขทัย ในยุคก่อน 25 พุทธศตวรรษอัญเชิญมาจากวัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย ล่องแพมาตามน้ำเจ้าพระยา และมาขึ้นที่ท่าช้าง (https://www.dailynews.co.th/admin/upload/20200126/news_likQXrhEdS111337_533.jpg?v=20200129003?v=6677) วัดสุทัศน์ มีชื่อเดิม ว่า วัดมหาสุทธาวาส ตามพระราชประสงค์ของในหลวงรัชกาลที่ 1 แต่การก่อสร้างมาแล้วเสร็จในรัชกาลที่ 2 และพระราชทานนามวัดใหม่ว่า สุทัศน์เทพวราราม พระอุโบสถของวัดสุทัศน์ มีความยาวที่สุดในประเทศไทยเมื่อเทียบกับวัดอื่นๆ พระพุทธตรีโลกเชษฐ์ คือ พระประธานที่ประดิษฐานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย คงจำกันได้ถึงการประกอบพิธีเสกน้ำศักดิ์สิทธิ์ เพื่อนำมาใช้งานพระราชพิธีราชาภิเษก เมื่อวันที่ 6 เมษายน ปีที่ผ่านมา ที่พระวิหารหลวง วัดสุทัศน์ เป็นที่ประกอบพิธีสำคัญนี้ โดยมีความเชื่อว่า สถานที่แห่งนี้ เป็นศูนย์กลางจักรวาลหรือ ศูนย์กลางพระนคร พระวิหารหลวงวัดสุทัศน์ เป็นวิหารที่มีขนาดใหญ่ ขนาดความกว้าง23.84 เมตร ความยาว 26.25 เมตร ฐานรากของวัดถูกวางในสมัยรัชกาลที่ 1 แล้วเสร็จสมบูรณ์ทั้งวัดในสมัยรัชกาลที่ 3 ฝีมือช่างของวัดสุทัศน์ที่เป็นตัวอาคาร จึงเป็นฝีมือของช่างในรัชกาลที่ 2 และ รัชกาลที่ 3 (https://www.dailynews.co.th/admin/upload/20200126/news_DWVbhSsCwX111337_533.jpg?v=20200129003?v=6350) งานฝีมือช่างสมัยรัชกาลที่ 2 ลักษณะอาคารแบบประเพณีนิยม มีเสาย่อมุมไม้สิบสอง เสามีบัวประดับหัวเสาฯลฯ ส่วนฝีมือช่างสมัยรัชกาลที่ 3 เป็นงานนิยมอาคารแบบจีน ไม่มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ เสาก็นิยมทำเป็นแท่งเหลี่ยม ไม่มีการย่อมุม ไม่มีบัวประดับหัวเสา ใครที่นึกภาพสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ไม่ได้ ต้องมาวัดสุทัศน์ เพราะงานศิลปกรรมที่นี่จำลองภาพสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ในจินตนาการออกมาได้งดงามยิ่งนัก พระระเบียงคดรอบวิหารแทนสัญญลักษณ์ของกำแพงจักรวาลที่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุ พระวิหารหลวงจึงเปรียบได้กับเขาพระสุเมรุ ที่เป็นแกนกลางของจักรวาล ศาลาประจำมุมทั้งสี่ทิศเหมือนทวีปทั้งสี่ ภาพจิตรกรรมในพระวิหารหลวงเป็นเรื่องราวของไตรภูมิ คือ โลกสวรรค์ โลกมนุษย์ และ นรกภูมิ ไปถึงวัดสุทัศน์ หลังกราบไหว้พระประธานแล้ว อย่าลืมไปกราบเทพอัปสรสุนทรีวาณี เทพนารีแห่งปัญญา ที่คนเชื่อและศรัทธาว่า ไหว้แล้วจะเกิดปัญญาหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง เมื่อมีปัญญาหลุดพ้นแล้ว โชคลาภก็จะตามมา อาทิตย์นี้ไปไหว้พระที่วัดสุทัศน์กันดีกว่า. คอลัมน์ : ชำเลืองเมือง โดย “แรมทาง” ขอบคุณภาพประกอบจาก : @WatSuthatBangkok ขอบคุณที่มา : https://www.dailynews.co.th/article/754090 (https://www.dailynews.co.th/article/754090) อังคารที่ 28 มกราคม 2563 เวลา 11.00 น. |