หัวข้อ: โกรธยังไงให้มีสติ ! ไม่วีน ไม่เหวี่ยง ไม่ทำร้ายใคร เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มีนาคม 23, 2020, 06:05:11 am (https://i0.wp.com/goodlifeupdate.com/app/uploads/2020/03/โกรธยังไงให้มีสติ-ไม่วีน-ไม่เหวี่ยง-ไม่ทำร้ายใคร.png?w=846) โกรธยังไงให้มีสติ.! ไม่วีน ไม่เหวี่ยง ไม่ทำร้ายใคร เพราะบางสถานการณ์ที่ต้องเจอ เราคงไม่สามารถที่จะข่มอารมณ์โกรธ หรือกดอาการอารมณ์เสียที่เกิดขึ้นเอาไว้ได้ ซึ่งเราจะมีวิธีรับมือและแก้ไขปัญหาเหล่านี้ยังไง เพื่อไม่ให้ตัวเองแอบเผลอวีนเหวี่ยงออกไปจนดูแย่ในสายตาคนรอบข้าง และ ไม่ทำร้ายใคร ตามมาฟังคำแนะนำจาก GoodLife กันค่ะ @@@@@@ 1. โพสต์ลง Social แต่ตั้งให้เห็นเฉพาะตัวเอง เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็มักชอบโพสต์เรื่องราวที่ตัวเองเจอลงบนโซเชียล เพราะเปรียบเสมือนกับมีเพื่อนคอยรับฟังอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถ้าหากเราอยากลองโพสต์ระบายอารมณ์ดูบ้าง แต่ไม่อยากให้ใครผ่านเข้ามาเห็น งั้นใช้วิธีเปลี่ยนการตั้งค่าเป็น “เฉพาะฉัน หรือ only me” เพียงเท่านี้ก็ได้ระบายอารมณ์แบบสวยๆ ไม่ต้องกังวลว่าจะดูไม่ดีแล้วค่ะ 2. เขียนระบายความรู้สึกใส่กระดาษ แล้วค่อยขยำทิ้ง นับเป็นอีกหนึ่งวิธีสุดคลาสสิคที่หลายคนต้องเคยทำกันอย่างแน่น่อน ซึ่ง GoodLife ว่าการทำแบบนี้มันก็มีข้อดีอยู่ไม่น้อยเหมือนกันนะคะ เพราะนอกจากจะได้ใช้สติจดจ่ออยู่กับการเขียนแล้ว มันยังช่วยทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายจากอารมณ์ที่เกิดขึ้น จนค่อยๆ เลือนหายไปด้วย @@@@@@ 3. ฟังเพลงแล้วร้องตามดังๆ ใครที่ชอบร้องเพลงอยู่แล้วเป็นทุนเดิม สามารถลองใช้วิธีนี้จัดการกับอารมณ์ที่เป็นอยู่ได้นะคะ เพราะบางคนเวลาโมโหหรือไม่พอใจ มักจะชอบพูดตะคอกหรือตะโกนจนเสียงดังไปทั่ว ฉะนั้น ลองเปลี่ยนจากการบ่นด่า มาเป็นการร้องเพลงเสียงดังๆ แทน ก็อาจจะช่วยทำให้รู้สึกดีขึ้นมาได้ทันทีเลย 4. หลบหนีความวุ่นวายต่างๆ แม้พฤติกรรมแบบนี้ อาจทำให้เราดูเหมือนเป็นคนที่คอยเอาแต่หนีปัญหา ไม่ยอมลงมือแก้ไข แต่ถ้าหากมองในอีกมุมหนึ่ง การหนีปัญหาเพื่อไปจัดการความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้น แล้วค่อยกลับมาเผชิญหน้าใหม่อย่างใจเย็นและมีสติมากพอ ก็ดูจะเป็นเรื่องที่ไม่ได้หน้าเขินอายอะไรเลยนะคะ 5. ให้เวลาตัวเองบ้าง อย่ากดดันตัวเอง การให้เวลาตัวเอง ก็เหมือนกับการให้โอกาสตัวเองได้ลองคิดทบทวน ซึ่งข้อดีคือเรามักจะได้ใช้สติพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้น ว่าควรทำยังไง แก้ไขปัญหาตรงนี้โดยเริ่มจากจุดไหน เมื่อมีสติ มีความใจเย็น ก็จะสามารถช่วยลดอารมณ์วีนเหวี่ยง และอาการหัวเสียที่เกิดขึ้นได้นั่นเองล่ะค่ะ ขอบคุณ : Pinterest ที่มา : https://goodlifeupdate.com/lifestyle/199104.html By sineenow ,21 March 2020 |