หัวข้อ: คำ “เถ้าแก่-เจ้าสัว” ในไทยมีที่มาอย่างไร.? เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ เมษายน 20, 2020, 06:36:33 am (https://www.silpa-mag.com/wp-content/uploads/2018/10/%E0%B8%9B%E0%B8%AD2-696x420.jpg) เถ้าแก่ และเจ้าสัวที่่เป็นคณะกรรมการมูลนิธิปอเต็กตึ้งสมัยที่ 1 อุเทน เตชะไพบูลย์ (แถวนั่งจากซ้ายสุด) คำ “เถ้าแก่-เจ้าสัว” ในไทยมีที่มาอย่างไร.? ทั้ง “เถ้าแก่” และ “เจ้าสัว” เป็นคำที่คนไทยคุ้นเคยกันมานาน ทั้ง 2 นี้ เป็นคำยืมจากภาษาจีนมาใช้ในภาษาไทยโดยออกเสียงตามสำเนียงภาษาแต้จิ๋ว คำว่า “เถ้าแก่” สำเนียงแต้จิ๋วว่า “เถ่าแก่” (头家 หัว+บ้าน) มี 3 ความหมายคือ 1. เจ้าของกิจการที่มีฐานะ ภรรยาเถ้าแก่จะเรียก “เถ้าแก่เนี้ย” 2. ผู้ใหญ่ที่เป็นประธานในพิธีแต่งงาน 3. ผู้นำครอบครัว ถ้าเป็นภาษาปัจจุบันเถ้าแก่ก็น่าจะเทียบได้กับบรรดานายห้างทั้งหลาย @@@@@@ ส่วนคำว่า “เจ้าสัว” สำเนียงแต้จิ๋วว่า “จ่อซัว” (座山ที่นั่ง+ภูเขา) เป็นการแปลเปรียบเทียบว่า นั่งอยู่บนกองเงินกองทอง จึงหมายถึง ผู้ร่ำรวย มักใช้กับเศรษฐีที่มีเชื้อสายจีนเป็นหลัก เช่น เจ้าสัวชิน โสภณพนิช -ผู้ก่อตั้งธนาคารกรุงเทพฯ , เจ้าสัวเทียม โชควัฒนา-ผู้ก่อตั้งเครือสหพัฒน์, เจ้าสัวอุเทน เตชะไพบูลย์-ผู้ก่อตั้งธนาคารศรีนคร ที่ยกมาข้างต้นนี้เป็นเจ้าสัวผู้ชายทั้งสิ้น แต่จริงๆ เจ้าสัวใช้กับผู้หญิงก็มี เช่น ท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ เป็นต้น นี่คือเจ้าสัวรุ่นแรกๆ ของไทย ต่อมาก็มีเจ้าสัวอีกมากมาย เมื่อ “จ่อซัว” มาใช้ในภาษไทยก็มีเพี้ยนไปบ้างเป็น เจ๊สัว, เจ้าสัว เช่น เจ๊สัวเนียม หรือพระศรีทรงยศ บุคคลสมัยรัชกาลที่ 2 พัฒนาที่ดินตรอกเจ๊สัวเนียม ตลาดที่พ่อค้าจีนให้ความนิยมสูงสุดของกรุงเทพฯ ตลอดสองร้อยกว่าปีที่ผ่านมา จนคนทั่วไปขนานนามตลาดสองฟากทางของตรอกนี้ว่า “ตลาดเก่า” ขอบคุณ : https://www.silpa-mag.com/culture/article_21845 (https://www.silpa-mag.com/culture/article_21845) ผู้เขียน : เสี่ยวจิว เผยแพร่ : วันเสาร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ.2563 เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก เมื่อ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2561 |