หัวข้อ: ม่านหมอก แห่ง “อวิชชา” เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ เมษายน 29, 2020, 06:06:39 am (https://i0.wp.com/goodlifeupdate.com/app/uploads/2020/04/golden-hour-photo-163323.jpg?w=846) “ม่านหมอกแห่งอวิชชา” ธรรมะดีๆ โดย หลวงพ่อโพธินันทะ การปลดปล่อยสรรพชีวิตทั้งปวงให้เป็นอิสระเป็นคุณธรรมของวิสุทธิบุคคลและเป็นความก้าวหน้าในการปฏิบัติภาวนา การพำนักอยู่อย่างสันโดษ อย่างไม่หวั่นไหวต่อสิ่งรบกวน มันเป็นวิถีทางปกติธรรมดาสำหรับผู้แสวงหาความหลุดพ้น ธรรมชาติที่แท้จริงของจิตประภัสสรนั้น สว่างไสวอยู่เหนือถ้อยคำอธิบายที่เต็มไปด้วยทัศนะที่สุดโต่งทั้งสอง ไม่มีการเกิดและการดับ ไม่มีอะไรทำอันตรายมันได้ ไม่สามารถตกแต่งสีสันรูปลักษณ์มันได้ มันเป็นเช่นนั้นเองตามที่มันเป็น ถ้าเราเข้าถึงมัน กาลเวลาจะสิ้นสุดลง เพราะอวิชชาทำให้เกิดมิจฉาทิฏฐิที่เห็นว่า มีตัวตนเป็นผู้กระทำ และสิ่งที่ถูกกระทำมีอยู่จริง แต่มันเป็นเพียงภาพมายาดั่งเมฆหมอกหรือน้ำลวงตา ที่เกิดจากการสะท้อนของเปลวแดดในทะเลทราย ด้วยการอาศัยจักขุวิญญาณที่เกิดจากอวิชชาในระดับจิตสามัญสำนึก @@@@@@ มองภาพเป็นดั่งม่านหมอกที่สังขารปรุงแต่งขึ้น ด้วยกระบวนความคิดที่หลั่งไลมาจากจิตสามัญสำนึกด้วยอวิชชา สร้างกาลเวลาอันหาจุดจบไม่ได้ในสังสารวัฏ มายาภาพทั้งหลายเหล่านี้จึงไม่มีอะไรที่เป็นแก่นสาระของชีวิต การพิจารณาเห็นโทษภัยของชีวิตที่ถูกร้อยรัดพันธนาของโลกธรรม ๘ ประการ และมหันตภัยของกฎแห่งกรรมในสังสารวัฏ พึงถือเอาดวงแก้วทั้งสามคือพระรัตนตรัยมาเป็นสรณะ การบำเพ็ญภาวนาบนวิถีของจิตหนึ่งเดียว “เอกายนมรรค” จึงจะสามารถขจัดเมฆหมอกแห่งอวิชชาลงได้ และบรรลุถึงสุญญตภาวะอันสมบูรณ์ด้วยสัมมาญาณทัศนะ สว่างไสวอยู่ในอาณาจักรที่ไม่อาจสร้างขึ้นหรือทำให้สูญสลายไปได้ ย่อมไม่หวั่นไหวขณะดำรงชีวิตอยู่หรือกำลังจะตาย หมายเหตุ : เอกายนมรรค หมายถึง ทางอันเอก คือข้อปฏิบัติอันประเสริฐที่จะนำผู้ปฏิบัติไปสู่ความพ้นทุกข์ (นิพพาน) ได้แก่สติปัฏฐาน ๔. ที่มา : ทีฆนิกาย มหาวรรค…ไตร – เล่มที่ ๒ ข้อ ๓๐๐ หน้า ๒๗๗ ที่มา : ทางสายกลางสู่อิสรภาพแห่งชีวิต โดย หลวงพ่อโพธินันทะ สำนักพิมพ์อมรินทร์ธรรมะ Photo by Pixabay from Pexels Secret Magazine (Thailand) ขอบคุณ : https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/dhamma/202738.html By ying ,26 April 2020 |