หัวข้อ: วัดสะพานหิน อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย กับ พระอัฏฐารศ พ่อขุนรามฯ ทรงช้างไปไหว้ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 19, 2020, 06:28:58 am (https://www.silpa-mag.com/wp-content/uploads/2019/07/วัดสะพานหิน-696x522.jpg) วัดสะพานหิน อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย (ภาพถ่ายโดย ธวัชชัย รามนัฏ) วัดสะพานหิน อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย กับ พระอัฏฐารศ พ่อขุนรามฯ ทรงช้างไปไหว้ วัดสะพานหิน เป็นโบราณสถานที่ตั้งอยู่บนเนินภูเขาลูกเตี้ยๆ ทางทิศตะวันตกของเมืองสุโขทัย ชื่อวัดเรียกตามลักษณะทางขึ้นที่ปูลาดด้วยหินจากตีนเขาขึ้นไป จนถึงบริเวณลานวัดบนภูเขา ที่แห่งนี้มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่น่าจะตรงกับที่ศิลาจารึกหลักที่ 1 กล่าวถึงเมืองสุโขทัยสมัยพ่อขุนรามคำแหงว่า “…ในกลางอรัญญิก มีพิหารอันณึ่งมนใหญ่สูงงามแก่กม มีพระอัฎฐารศอันณึ่งลุกยืน…” ซึ่ง “พระอัฏฐารศ” ที่ปรากฏในศิลาจารึกนั้น เข้าใจว่าหมายถึง พระพุทธรูปยืนปางประธานอภัยที่วัดสะพานหินนี่เอง และน่าจะเป็นวัดที่พ่อขุนรามคำแหงทรงช้างเผือกชื่อ “รูจาคีรี” เพื่อไปนบพระในวัดนี้ทุกวันข้างขึ้นและแรม 15 ค่ำ ดังปรากฏข้อความในศิลาจารึกหลักเดียวกันนี้ว่า “…วันเดือนดับเดือนเต็ม ท่านแต่งช้างเผือกกระพัดลยาง เที้ยรย่อมทองงา…ขวา ชื่อรูจาครี พ่อขุนรามคำแหง ขึ้นขี่ไปนบพระ(เถิง) อรัญญิกแล้วเข้ามา…” (https://www.silpa-mag.com/wp-content/uploads/2019/07/วัดสะพานหิน2-1024x767.jpg) “พระอัฏฐารศ” วัดสะพานหิน (ภาพจากเพจ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย) บริเวณลานวัดสะพานหินมีกลุ่มโบราณสถานประกอบด้วย 1. ฐานวิหาร 5 ห้อง ก่ออิฐ เสาทำด้วยศิลาแลง หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ส่วนฐานกว้าง 20 เมตร ยาว 26 เมตร ภายในวิหารมีพระพุทธรูปปูนปั้นยืน ปางประทานอภัย ยกพระหัตถ์ขวา สูง 12.50 เมตร เรียกว่า “พระอัฏฐารศ” 2. ฐานเจดีย์ขนาดเล็ก 6 ฐาน กระจายทั่วไปบนลานวัด มีอยู่องค์หนึ่งมีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ฐานกว้าง 4×4 เมตร อยู่ตรงเชิงบันไดด้านทิศตะวันออก 3. สะพานหิน ที่เป็นทางขึ้นอยู่ด้านทิศตะวันออก ทอดยาวจากถนนเชิงภูเขาจนถึงลานวัด ปูด้วยหิน ยาวประมาณ 300 เมตร นอกจากนี้ ทางด้านทิศเหนือมีทางขึ้นอ้อมเขา เข้าใจว่าน่าจะเป็นทางช้างขึ้น ขอบคุณข้อมูลและภาพจากเพจ : อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ที่มา : เพจ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เผยแพร่ : วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ.2563 เผยแพร่ครั้งแรกในระบบออนไลน์ : เมื่อ 28 กรกฎาคม พ.ศ.2562 ขอบคุณ : https://www.silpa-mag.com/history/article_36325 (https://www.silpa-mag.com/history/article_36325) |