หัวข้อ: เปิดสถานที่ลับ "ฮ่าวจื่อเอี๊ย" วัดเล่งเน่ยยี่ เทพเจ้าโชคลาภของคนชอบความรวย เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 05, 2020, 07:38:32 am (https://www.thairath.co.th/media/B6FtNKtgSqRqbnNsUjIzJSJ82YlMBxIt9jhiWbqUHNwdgtJbXgpP6KfqNPQjuvHwUocp6.webp) เปิดสถานที่ลับ "ฮ่าวจื่อเอี๊ย" วัดเล่งเน่ยยี่ เทพเจ้าโชคลาภของคนชอบความรวย พารู้จัก "ฮ่าวจื่อเอี๊ย" เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ขึ้นชื่อเรื่องลาภลอย ขวัญใจนักเสี่ยงโชค พบได้ยากในประเทศไทย พร้อมเปิดเส้นทางไปสถานที่บูชา ณ วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) เป็นที่รู้กันดีว่า ไฉ่ซิงเอี๊ย หรือ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ เทพเจ้าชั้นสูงของจีนที่มักถูกหยิบยกมาเป็นสัญลักษณ์ของเรื่องเงินๆ ทองๆ ถึงขนาดเกิดไวรัลนำภาพเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยมาตั้งเป็นภาพหน้าจอโทรศัพท์มือถือกัน ซึ่งไวรัลดังกล่าวเกิดจากมีคนสังเกตเห็นหน้าจอมือถือของ "ลิซ่า" BLACKPINK เป็นภาพของเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย และที่สำคัญคือหลายคนที่ทำตามออกมาคอนเฟิร์มว่าได้ผลจริงอีกด้วย แต่รู้หรือไม่ว่า ยังมีเทพเจ้าอีกองค์ คนที่บูชามีความเชื่อว่าหากบูชาแล้วจะมีโชคลาภเช่นกัน นั่นก็คือ "ฮ่าวจื่อเอี๊ย" ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกพูดถึงกันในโลกออนไลน์จากแฟนเพจ เทพเจ้าจีน - Chinese Gods ได้ให้ข้อมูลว่า ฮ่าวจื่อเอี๊ย (孝子爺) หรือ เทพแห่งโชคลาภของชาวกวางตุ้งและฮกเกี้ยน เป็นเทพสายนรกอีกองค์หนึ่งที่คนจีนแต้จิ๋วทางบ้านเราไม่ค่อยรู้จักกัน (https://www.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04N1RE6lkQgSsAs2VGtJvyvD7i0ra7Eh.webp) ต่างจากคนจีนฮกเกี้ยน ในมาเลเซีย สิงคโปร์ และคนจีนกวางตุ้งในฮ่องกง มาเก๊า ที่นิยมกราบไหว้ท่าน และมักจะเจอกิมซิ้น (รูปเคารพ) ท่านตามศาลเจ้าแถบนั้น หลายๆ ศาลเจ้าติดป้ายว่า "ไฉ่ซิ่ง" แต่เป็นคนละองค์กับไฉ่ซิ่งเอี๊ย รูปลักษณ์ของท่านคือคนใส่ชุดไว้ทุกข์ของจีนเป็นผ้าดิบ เพราะชาวจีนจะให้ความสำคัญกับการไว้ทุกข์มาก และเชื่อว่าการไว้ทุกข์สามารถปัดเป่าเคราะห์ร้ายออกไปได้ นอกจากนี้ หากใครที่กราบไหว้บูชาเทพเจ้าสายนรกจะรู้กันดีว่า เทพเจ้าสายนี้จะอัดแน่นด้วยพลังอิม (หยิน) พลังอิมนั้นก็คือเรื่องเงินทอง และ ฮ่าวจื่อเอี๊ย ท่านก็เด่นเรื่องลาภลอยเสียด้วย ไม่ว่าคอหวยหรือนักพนัน สมควรอย่างยิ่งที่จะกราบไหว้ท่าน (https://www.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04N1RE6lkQgSsAs2VGz6MHzn8cThdt8U.webp) ความเชื่อ ศรัทธา ตำนานของ "ฮ่าวจื่อเอี๊ย" ในส่วนของตำนานความเป็นมานั้น นายเศรษฐพงษ์ จงสงวน สถาปนิกและอาจารย์ นักวิชาการอิสระด้านศาสนาและวัฒนธรรมจีน เล่าว่า ฮ่าวจื้อเอี๊ย เป็นความเชื่อคนจีนบางกลุ่ม ส่วนใหญ่จะแพร่หลายและพบเห็นในชุมชนคนจีนกวางตุ้ง ฮกเกี้ยน อย่างในมาเลเซีย สิงคโปร์ คนจีนฮกเกี้ยน หรือคนถิ่นอื่นก็นับถือตามคนจีนกวางตุ้ง เป็นความเชื่อเฉพาะกลุ่ม หากถามว่าความเชื่อนี้มาจากไหน เก่าแก่มากแค่ไหน ส่วนตัวคิดว่าไม่เก่ามาก ไม่น่าเกินราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงของจีน มีนิทานเล่าต่อกันมาหลายแบบ โดยส่วนใหญ่เล่าว่า ฮ่าวจื่อเอี๊ย เป็นชายหนุ่มทำนาอยู่กับแม่สองคน ทุกวันแม่จะเอาอาหารมาให้เพราะลูกชายต้องออกมาทำนาตั้งแต่เช้าตรู่ แต่ด้วยความที่แม่แก่ชรา ทำให้มาส่งอาหารช้า กว่าจะเดินมาถึงก็ทำให้ข้าวที่เตรียมมาเย็นชืดหมด ลูกชายที่กำลังโมโหหิวก็จะด่าทอ บางครั้งก็ลงมือทำร้ายแม่ เหตุการณ์วนเวียนอยู่แบบนี้เป็นประจำ ทำให้แม่ไม่กล้าเข้าใกล้ลูกชาย (https://www.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04N1RE6lkQgSsAs2VHFJasq08Al10QI1.webp) จนกระทั่งวันหนึ่ง ลูกชายได้เห็นลูกแพะกินนมแม่ ก็คิดได้ว่าคนเราก็เหมือนแพะต้องกินนมแม่ กว่าแม่จะเลี้ยงจนโตมา ทำไมเราทำกับแม่แบบนี้ อีกเหตุการณ์หนึ่งก็คือ ลูกชายได้สังเกตเห็นอีกาเอาอาหารมาป้อนให้ลูกกิน ก็รู้สึกว่าได้ทำผิดกับแม่ไปแล้ว เมื่อถึงเวลาที่แม่นำอาหารมาส่ง ซึ่งวันนี้มาช้ากว่าทุกวันทำให้แม่คิดในใจว่าต้องโดนลูกทำร้ายแน่ๆ ฝ่ายลูกชายเห็นแม่เดินมาพร้อมอาหาร ด้วยความรู้สึกผิดก็อยากเข้าไปใกล้ๆ แม่ แต่ด้วยความกลัว แม่เลยวิ่งหนี แล้วกระโดดลงน้ำเสียชีวิต การตายของแม่ทำให้ลูกชายเสียใจมาก ตัดพ้อว่าทั้งที่ตัวเองรู้สึกผิดแล้ว ทำไมแม่ต้องมาตายหนีไปอีก จึงใส่ชุดไว้ทุกข์ ร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือด แล้วเดินไปเรื่อยๆ จนตกคันนาตาย ต่อมาชาวบ้านเห็นว่าลูกชายได้สำนึกผิดต่อแม่ซึ่งเป็นผู้มีพระคุณแล้ว จึงยกย่องให้เป็นวิญญาณกตัญญู จนภายหลังได้มีคนนำมากราบไหว้บูชาเป็นเทพเจ้า (https://www.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04N1RE6lkQgSsAs2VHN6LQl9sHYQAQz8.webp) อาจารย์เศรษฐพงษ์ เล่าอีกว่า บางตำนานเรื่องจะยืดยาวกว่านี้ หลังจากแม่ตายไปแล้วก็ได้กลายเป็นขอนไม้ ภรรยาของลูกชายได้นำไม้มาผ่าเป็นฟืน แล้วมีเลือดไหลออกมา ยิ่งทำให้ลูกชายเสียใจจนตายตามแม่ แต่หลักๆ ก็คือส่วนใหญ่จะสร้างเป็นรูปปั้นชายหนุ่มแต่งชุดไว้ทุกข์คือ ปล่อยผม หน้าตาเศร้าโศก ในมือถือโคมไฟไว้ทุกข์ แล้วก็ถือพัด บางอันก็ถือไม้เท้า ซึ่งไม้เท้ากับตะเกียงเป็นส่วนหนึ่งของการไว้ทุกข์อยู่แล้ว ตะเกียงจะแขวนไว้หน้าบ้าน ส่วนไม้เท้าจะเอาไว้พยุงตัวเวลาเศร้าโศก ความเชื่อโบราณกล่าวว่า หากพ่อเสียชีวิตให้ทำไม้เท้าจากไม้ไผ่ แต่หากแม่เสียชีวิตให้ทำไม้เท้าจากไม้ต้นเมเปิ้ล (https://www.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9ocJN8gZ9LuNXPs9SXJivygEyMjHI7txcZ.webp) ส่วนรูปเคารพของ ฮ่าวจื่อเอี๊ย จะเปลี่ยนไปตามยุคสมัย เป็นที่นิยมในหมู่ชาวบ้านที่มีความเชื่อเรื่องการบูชาวิญญาณ มักจะไปขอโชค ขอลาภ ส่วนใหญ่แล้ว ฮ่าวจื่อเอี๊ย จะอยู่กับศาลของเทพที่เกี่ยวกับความตาย เช่น เจ้าหลักเมือง เทพยมราช หรือราชาแห่งนรก เป็นมุมเล็กๆ มุมหนึ่ง "ในบ้านเราแทบจะไม่พบเห็น แต่ยังสามารถพบได้คือ ฮ่าวจื่อเอี๊ย ที่ลานวัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ ถนนเจริญกรุง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เนื่องจากสมัยก่อนในละแวกนั้นมีกลุ่มคนกวางตุ้งจะมากราบไหว้ แล้วนำเอารูปปั้นกับผ้าดิบมาพันเป็นชุดไว้ทุกข์ เพื่อเป็นตัวแทนของฮ่าวจื่อเอี๊ย ซึ่งชาวบ้านก็จะมาไหว้ขอโชคลาภกัน แต่ขอพรแล้วสำเร็จมากน้อยแค่ไหนไม่ทราบได้ และคาดว่าได้มีการตั้งรูปบูชาขึ้นเมื่อประมาณ 50-60 ก่อน" (https://www.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9ocJN8gZ9LuNXPs9SXIxESEuLQbtwgCjko.webp) (https://www.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9ocJN8gZ9LuNXPs9SXIwkwMsx3p4cnNxeg.webp) สำหรับ คนจีนกวางตุ้ง เป็นคนที่มีพื้นเพมาจากมณฑลกวางโจ หรือบริเวณรอบๆ ที่พูดภาษาจีนกวางตุ้ง ซึ่งแถววัดมังกรกมลาวาสจะมีชุมชนคนจีน โดยเฉพาะบริเวณร้านบะหมี่จับกังจะมีคนจีนกวางตุ้งเยอะ ส่วนด้านหลังวัดจะเป็นชุมชนคนจีนฮากกา หรือ จีนแคะ ฝั่งตรงกันข้ามจะเป็นชาวจีนแต้จิ๋ว ส่วนหลักการบูชา ฮ่าวจื่อเอี๊ย ส่วนใหญ่จะไหว้บูชาเหมือนไหว้เจ้าทั่วไป ไม่มีอะไรพิเศษ หลังจากฟังตำนานของฮ่าวจื่อเอี๊ยกันไปแล้ว ใครที่อยากเดินทางไปบูชาฮ่าวจื่อเอี๊ย สามารถเดินทางไปยังวัดมังกรกมลาวาสได้เลย แต่บอกก่อนเลยว่า จุดที่ตั้งของฮ่าวจื่อเอี๊ยนั้น หากไม่สังเกตดีๆ หรือศึกษาข้อมูลมาก่อนแทบจะไม่มีทางเจอได้เลย (https://www.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9ocJN8gZ9LuNXPs9SXIwqa28MERYSfJCBH.webp) สถานที่ตั้ง "ฮ่าวจื่อเอี๊ย" ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ เมื่อเดินเข้าไปประตูหลักของวัดมังกรกมลาวาส ทางถนนเจริญกรุง จะเจอกับลานกว้าง ด้านหน้าเป็นประตูวัด มีป้ายจารึกชื่อวัดเป็นภาษาไทยเขียนว่า "ทรงพระราชทานนามวัดมังกรกมลาวาส" จากนั้นสังเกตทางด้านซ้ายมือจะพบกับต้นโพธิ์ใหญ่ จากนั้นเข้าไปซอกเล็กๆ ด้านซ้ายมือจะพบกับ ฮ่าวจื่อเอี๊ย นอกจากนี้ยังมีกระบอกเซียมซี และกรับจันทร์เสี้ยว เพื่อเสี่ยงโชคอีกด้วย (https://www.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04N1RE6lkQgSsAs2VGeWfK1grvNi9grB.webp) ในส่วนของการเดินทางมายังวัดมังกรกมลาวาส ต้องบอกก่อนเลยว่า หากมาโดยรถส่วนตัวอาจจะหาที่จอดรถค่อนข้างยาก ซึ่งปัจจุบันสามารถมีตัวเลือกที่สะดวกสบายมากขึ้นด้วยรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน หรือ MRT สถานีวัดมังกร ทางออกที่ 3 ซึ่งใช้เวลาเดินถึงวัดเพียงไม่กี่นาที (https://www.thairath.co.th/media/PZnhTOtr5D3rd9ocJN8gZ9LuNXPs9SXIwaVaMRg8sZ1NVZ1.webp) สำหรับ วัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ เป็นวัดในสังกัดคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2414 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งต่อมาได้รับพระราชทานชื่อวัดอย่างเป็นทางการจากในหลวง รัชกาลที่ 5 ว่า วัดมังกรกมลาวาส มาจนถึงบัดนี้. ขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/news/society/1902120 (https://www.thairath.co.th/news/society/1902120) ไทยรัฐออนไลน์ ,5 ส.ค. 2563 07:15 น. |