สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรากำลัง ”เสพติดความเครียด” โดยไม่รู้ตัว อยู่รึเปล่า.?

ความเครียดที่เรารู้กันดีว่ามันแทบจะมีแต่ผลเสียทั้งต่อสุขภาพกายและใจของเรา ซึ่งปกติแล้วเราก็เอาแต่พยายามเลี่ยงความเครียด หาอะไรทำคลายเครียด แต่สำหรับบางคนแล้วอาจจะกำลัง เสพติดความเครียด อยู่ก็ได้ มาเช็คดูว่าเรากำลังเป็นแบบนั้นอยู่รึเปล่ากันค่ะ

อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ไม่อยากลุกจากเตียงในตอนเช้า

ใครที่กำลังมีอาการเหล่านี้ ลองสังเกตตัวเองดูว่ามีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง ใช่การที่เราทำงานหนัก นอนดึก ไม่ดูแลรักษาสุขภาพ หรืออาจจะเป็นเพราะความเครียดสะสมพ่วงมาด้วยรึเปล่า อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าความเครียดจะส่งผลให้ร่างกายรู้สึกไม่สดชื่นไปด้วย และยังทำให้ระบบต่างๆในร่างกายทำงานได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพนัก จึงทำให้เรารู้สึกไม่สบายง่าย แม้ว่าจะพักผ่อนมากขึ้นแล้วก็ตาม ซึ่งวิธีแก้ไขก็คือการพยายามออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำเยอะๆ และพักผ่อนให้มากๆ และจะดีมากหากเราสามารถหาอะไรทำเพื่อคลายเครียดได้ ก็จะช่วยทำให้เรามีสุขภาพกายและใจที่ดีขึ้น

เครียดไม่รู้ตัว

สำหรับบางคนที่คิดว่าตัวเองก็ไม่ได้มีเรื่องเครียดอะไร จะมารู้ตัวว่า เอ้า!!นี่ฉันก็เครียดมากหรอเนี้ย ก็ตอนที่ร่างกายแสดงออกการออกมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น การอาการอ่อนเพลียในระยะยาว เวียนหัว หน้ามืดอยู่บ่อยๆ อยากกินของหวานบ่อย บางรายก็มีอาการปวดปัสสาวะบ่อยผิดปกติ สำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้ก็จะมีอาการกำเริบขึ้นบ่อยมากขึ้น และรุนแรงมากขึ้น ร่างกายไม่แข็งแรง บางรายอาจถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะภาวะต่อมหมวกไตล้า ที่มีผลมาจากความเครียดสะสมที่ไปกระตุ้นการทำงานของต่อมหมวกไตให้ทำงานหนักเกินไป


รู้สึกว่าตัวเองไม่เครียด จึงทำงานหนักมากขึ้น

อีกภัยเงียบที่หลายๆคนเป็น ก็คือการที่เรารู้สึกว่าช่วงนี้ไม่ได้มีเรื่องหนักหน่วง หรือเครียดอะไร แถมร่างกายก็ยังแข็งแรงเป็นปกติ ตัวเรานี่สุดยอดจริงๆ เลยทำงานหนักมากกว่าเดิม หรืออาจจะโฟกัสกับงานมากจนเกินไป จนสุดท้ายจากที่ไม่เครียดก็กลายเป็นเครียด แล้วก็ต้องมาหาวิธีคลายเคลียดอีก พอหายเครียดแล้วก็กลับมารู้สึกดีอีกครั้ง เราก็จะเริ่มวนลูปเดิมๆ

ซึ่งหากคุณมีพฤติกรรมแบบนี้ล่ะก็ แสดงว่าคุณกำลังเสพติดความเครียดเข้าอย่างจังเลยล่ะค่ะ จริงๆวิธีแก้ก็คือเราอาจจะลองปรับพฤติกรรมตัวเองสักนิด เช่นว่าในเวลาที่อยากจะทำงานให้มากขึ้น หรือโฟกัสกับสิ่งที่ทำให้มากขึ้น ก็ทำได้แต่อย่าให้มากจนเกินไป และก็พยายามรักษาร่างกายอยู่ตลอดเวลา หรืออาจจะหากิจกรรมที่คลายเครียดเอามาทำเป็นกิจวัตรประจำวันของเราไปเลยเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเครียดไปได้อีกส่วนนึง

พยายามตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

แม้ว่าการตื่นตัวดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ดี แต่หากเราตื่นตัวมากจนเกินไปก็จะกลายเป็นความเครียดได้เช่นกัน อย่างการที่ร่างกายมีการหลั่งสารอะดรีนาลีนออกมาไม่ว่าจะมากจาก การออกกำลังกาย การตื่นเต้นกับสิ่งต่างๆ หรือตื่นตัว พร้อมลุย พร้อมสู้กับสิ่งที่กำลังเจอ เจ้าสารอะดรีนาลีนก็จะหลั่งออกมาให้เราพร้อมรบกับทุกสถานการณ์ ซึ่งเจ้าสารนี้ก็จะแฝงความเครียดมาด้วยนั่นเอง ยิ่งในชีวิตสมัยนี้ที่มีเทคโนโลยี หรือสิ่งแวดล้อมต่างๆซึ่งทำให้คนเรามีพฤติกรรมที่ไม่ค่อยดีต่อสุขภาพมากนัก ก็จะยิ่งทำให้ความเครียดในร่างกายมีมากกว่าความสุขที่ได้รับจากสารเอ็นโดรฟิน

อีกทั้งการที่จิตใต้สำนึกของคนเรา มักจะสั่งการให้เราพยายามตื่นตัว พร้อมลุยอยู่แทบจะตลอดเวลาในที่ทำงาน ที่เรียน หรือที่ไหนก็ตาม ที่ไม่ได้เป็นช่วงเวลาของการพักผ่อนนอนอยู่บ้านอย่างเอื่อยๆ ร่างกายของเราก็จะหลั่งสารอะดรีนาลีนออกมา จนกลายเป็นว่าเราได้เสพติดความเครียดไปโดยไม่รู้ตัวนั่นเอง แม้ว่าสารอะดรีนาลีนที่ดูเหมือนจะเป็นวายร้ายแบบเงียบๆ แต่สารตัวนี้ก็ยังคงเป็นสารที่ดีและเป็นสารที่ร่างกายต้องการอยู่นะคะ เราอาจจะปรับตัวให้ไม่ต้องพยายามตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ใช่ว่างั้นจะนอนอืดๆทั้งวันเลยนะ

โหยหาความตื่นเต้น เร้าใจ และท้าทายอยู่ตลอดเวลา

เป็นพฤติกรรมที่ส่งผลคลายๆกันกับการพยายามตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา แต่ต่างกันตรงที่ว่า บางคนไม่ได้อยากจะตื่นตัวหรอก แต่เขาเป็นคนชอบอะไรที่ดูท้าทาย อยากจะสร้างสีสันให้กับชีวิต ไม่อยากทำให้ชีวิตดูน่าเบื่อ  หรือบางคนก็มีลักษณะงานที่ชอบที่เป็นแบบไม่ซ้ำซากจำเจวนลูปเดิมๆ แต่เป็นอะไรที่แตกต่างไม่เหมือนเดิมอยู่ตลอดเวลา

อาการเหล่านี้จะทำให้ร่างกายเหมือนตื่นตัว ต้องทำงานหนักอยู่ตลอด ยิ่งตื่นเต้นก็ยิ่งก่อให้เกิดความเครียดไม่รู้ตัว หรือบางครั้งที่เราลุ้นอะไรมากๆ ก็อาจจะทำให้เราร่างกายของเรารู้สึกตึงเครียดไปด้วย ที่น่ากลัวของคนกลุ่มนี้ก็คือเขาไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองกำลังเครียด ซึ่งบางรายจะมารู้ตัวอีกทีก็เป็นตอนที่ร่างกายแสดงอาการออกมาว่าฉันไม่ไหวแล้วววววว นั่นเอง



ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก siamrath.co.th
ขอขอบคุณรูปภาพจาก  Pinterest
ขอบคุณ : https://goodlifeupdate.com/uncategorized/208696.html
By immie ,31 August 2020