หัวข้อ: หลงตัว หลงเชื่อ...คือหลงทาง เริ่มหัวข้อโดย: somchit ที่ มกราคม 26, 2011, 01:01:05 am
ต่างคนต่างเกิด เป็นอย่างนี้ ไม่มีอะไรสักอย่างที่จะเอาติดตัวไปได้แม้แต่เงินเพียงบาทเดียว ต้องปล่อยทิ้งไว้ทั้งหมด ไม่มีอะไรเป็นที่ยึดถือ เรือกสวนไร่นา ตึกรามบ้านช่อง ก่อนที่เราจะเกิดเขาก็มีอยูอย่างนี้ ชายหญิงเขาก็มีกันอยู่อย่างนี้ ตอนเราเกิดก็มีอยู่อย่างนี้ เราตายไปแล้วมันก็มีอยู่อย่างนี้ เพราะฉะนั้นเราจะกลัวความเหงากันไปทำไม ทั้งๆที่ชีวิตก็คือการเดินทางคนเดียวอยู่แล้ว คนที่อยู่คนเดียวไม่ได้ ต้องหาเพื่อนแก้เหงาตลอดเวลา หรืออยู่ไม่ได้ถ้าขาดคนอื่น คนนั้นคือผู้หลงทาง เพราะหารู้ไม่ว่ายิ่งเราอยู่ในวงห้อมล้อมของคนมากเท่าไร เราก็จะยิ่งค้นหาตัวเองไม่เจอเท่านั้น เพราะเรามักจะยุ่งกับเรื่องของคนอื่นตลอดเวลา คอยจะดูแต่ว่าคนนั้นดี คนนี้ชั่ว คนนั้นถูก คนนี้ผิด นั่นเรามองเห็นแต่คนอื่น เรามองออกไปข้างนอก มองรอบตัว แต่เราไม่เคยมองเห็นตัวของเราเองเลย นี่คือเราไม่รู้จักตัวเองดีพอ ผู้ฉลาดย่อมเห็นคุณค่าของการอยู่คนเดียว ผู้มีปัญญาย่อมจะแสวงหาความวิเวก ความสงบ เพื่อทำความรู้จักกับตัวเอง รู้ใจตัวเอง เมื่อใจไม่วุ่นวาย ใจเกิดความสงบ ใจเกิดความสว่างเย็นแล้วเรสก็จะเป็นสุข เราต้องดำเนินชีวิตด้วยตัวของเรา เอง เลือกดี เลือกชั่ว ด้วยตัวของเราเอง จะถูกทางหรือหลงทางก็ด้วยปัญญาของเราเอง เหมือนดังที่พูดว่า” ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” หมายถึงพุทธศาสนาเป็นเพียงแผนที่บอกทางให้เราเท่านั้น ส่วน การเลือกเดินทางไหน อย่างไร อยู่ที่ตัวเราคนเดียว เมื่อรู้ว่ากำลังเดินทางคนเดียว ก็อย่าทำเป็นคนเห็นแก่ตัว รู้จักช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น ทำกรรมดี อยู่ในศีลในธรรม เป็นหนทางที่จะไปสู่จุดหมายปลายทางของการหลุดพ้นได้เร็วขึ้น เมื่อเราเกิดมาเป็นมนุษย์แล้วก็เท่ากับว่าเราโชคดีแล้ว และได้มาอยู่ในเส้นทางที่มีปลายทางทิ่มีทั้งแสงสว่างและความมืดมัวให้เรา เลือก คราวนี้อยู่ที่ตัวของเราเองว่าจะเดินทางช้าเดินทางเร็วหรือจะเดินหลงทางเท่า นั้น ชีวิตคนเรานั้น แท้จริงแล้วคือการเดินทาง และยังคงเป็นการเดินทางเรื่อยไปอยู่นั่นเอง ย่อมมีความระหกระเหินบอบช้ำเป็นธรรมดา ชีวิตที่ต้องการเดินทางไปสู่นิพพานหรือการดับทุกข์ขั้นเด็ดขาด จะถึงช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับปัญญาของแต่ละคนแต่การเดินทางนี้ไม่ใช่เดินด้วยร่างกาย เพราะนิพพานไม่ใช่สถานที่หากแต่ว่าเป็นภาวะอันบรมสุขของจิตใจ การเดินทางนี้จึงเป็นการเดินทางของจิตใจ จากสภาพที่มัวหมองไปสู่ความสะอาดสดใสที่ไม่มีกิเลส ตัวเรานั้นอาจเดินทางทุกวันด้วยพาหนะชั้นดี มีเครื่องปรับอากาศเย็นสบาย พาให้เราไปสู่จุดหมายนับร้อยนับพันแห่ง แต่ใจของเราเดินทางด้วยหรือเปล่า ความสวยงามของโลก อาจทำให้ใจเราซัดส่ายไปมา ซ้ำซากวนเวียนอยู่กับสุขเดิมๆ ทุกข์เดิมๆอยู่นั่นแหละไม่เคยแสวงหาสภาวะที่สุขจริง สุขแท้กว่านั้นเลยชีวิตของเราชาติหนึ่งๆ ก็จบสิ้นไปโดยไม่ได้พัฒนา ไม่มีอะไรเป็นแก่นสาร เป็นการเสียชาติเกิด เสียเวลาเปล่าๆ..” คำสอนของแม่พัชราภา ในหนังสือทางพ้นกรรม |