สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 24, 2020, 09:10:44 am



หัวข้อ: นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 24, 2020, 09:10:44 am

(https://i.ytimg.com/vi/iOx0cBSBiRk/hqdefault.jpg)


นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา

"ขอนอบน้อมท่านผู้หลุดพ้นแล้ว (จากกิเลส) ทั้งหลาย ขอนอบน้อมวิมุตติธรรม (ธรรมอันหลุดพ้นคือพระนิพพาน)"

ประมาณปี พ.ศ. ๒๔๘๗ ขณะนั้น ขบวนการเสรีไทยกำลังโด่งดังมาก บ้านหนองผือเป็นอีกแห่งหนึ่งที่ขบวนการเสรีไทยเข้าไปตั้งค่ายฝึกอบรมครูและชาวบ้านเพื่อเป็นกองกำลังต่อสู้ขับไล่ทหารญี่ปุ่น

คุณครูหนูไทย สุพลวานิช เป็นอีกผู้หนึ่งที่ถูกเกณฑ์เข้าฝึกอบรมในค่ายนี้ เมื่อว่างจากการฝึก มีโอกาสพักผ่อนตามอัธยาศัย ก็พูดคุยเฮฮากับหมู่เพื่อนร่วมค่าย หลายเรื่องราวรวมถึงเรื่องเครื่องรางของขลังสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นธรรมดาของคนเรา เมื่ออยู่ในภาวะการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการแสวงหาสิ่งพึ่งพิงทางใจเพื่อป้องกันภัยอันตรายที่อาจจะมาถึงตัว

มีเพื่อนคนหนึ่งพูดขึ้นว่า "ท่านพระอาจารย์ใหญ่วัดป่าบ้านหนองผือ (หมายถึงท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต) ทราบว่าท่านเป็นพระดีองค์หนึ่ง พวกเราน่าจะลองไปขอของดีจากท่านดูบ้าง ท่านคงจะให้พวกเรา"

@@@@@@

ด้วยคำพูดของเพื่อน ทำให้คุณครูหนูไทยนำกลับไปคิด วันต่อมา คุณครูหนูไทยหาแผ่นทองมาได้แผ่นหนึ่ง ตัดเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ แล้วให้โยมผู้เฒ่าทายกวัดที่เป็นญาตินำไปถวายท่านพระอาจารย์มั่น เพื่อให้ท่านทำหลอดยันต์ให้ โยมผู้ที่นำแผ่นทองนั้นไม่กล้าเข้าไปหาท่านพระอาจารย์มั่นโดยตรง จึงให้พระอุปัฏฐากเข้าไปลองถามท่านดูก่อน ท่านพระอาจารย์มั่นได้พูดตอบพระอุปัฏฐากว่า "เขาอยากได้ กะเฮ็ดให้เขาสั้นตั๊ว (หมายความว่า เขาต้องการก็ทำให้เขาได้ จะเป็นไรไป)

เมื่อพระอุปัฏฐากเข้าใจแล้ว จึงบอกให้โยมเอาแผ่นทองมาให้ท่าน รออยู่ประมาณสามวัน พระอุปัฏฐากท่านก็นำหลอดยันต์นั้นมาให้โยม แล้วโยมผู้เฒ่านั้นจึงนำมาให้คุณครูหนูไทยอีกทีหนึ่ง คุณครูหนูไทยเมื่อได้ของดีแล้วก็ดีใจเป็นอย่างมาก เก็บรักษาด้วยความทะนุถนอม และนำติดตัวไปทุกสถานที่

วันหนึ่ง ว่างจากการฝึกอบรม คุณครูหนูไทยได้เดินเที่ยวเล่นไปด้านหลังสนาม เผอิญเหลือบไปเห็นเพื่อนสามสี่คนกำลังทดลองยิง "เขี้ยวหมูตัน" ด้วยอาวุธปืน ปรากฏว่า "เขี้ยวหมูตัน" ที่ถือว่าเป็นของขลังศักดิ์สิทธิ์นั้นแตกกระจายไปคนละทิศละทาง เพื่อนคนที่เป็นเจ้าของเขี้ยวหมูตันนั้นถึงกับหน้าถอดสี ส่วนเพื่อนที่เป็นคนยิงคงจะย่ามใจ หันมาถามคุณครูหนูไทยที่เดินเข้ามาสมทบทีหลังว่า "มีของดีอะไรมาลองบ้าง"

ด้วยความซื่อและความเป็นเพื่อน คุณครูหนูไทยจึงตอบไปว่า "มีอยู่" เท่านั้นแหละ เพื่อนคนนั้นก็เอามือล้วงกระเป๋าเสื้อของคุณครูหนูไทย หยิบตะกรุดยันต์ที่ท่านพระอาจารย์มั่นทำให้ ติดมือขึ้นมา คุณครูหนูไทยจะวอนขออย่างไร เขาก็ไม่ยอมคืนให้

@@@@@@@

ในที่สุด เขาก็นำตะกรุดยันต์ไปวางในที่ระยะห่างประมาณสัก 3-4 วา แล้วยกปืนขึ้นเล็งไปที่ตะกรุดยันต์นั้น สักครู่ได้ยินเสียงดัง "แชะ แชะ" ไม่ระเบิด ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างตกตะลึง ครั้งที่สาม เขาลองหันปลายกระบอกปืนขึ้นบนฟ้าแล้วกดไกอีกครั้ง ปรากฏว่าเสียงปืนดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ส่วนคุณครูหนูไทยรู้สึกตัว ใช้จังหวะนั้นวิ่งเข้าไปหยิบตะกรุดยันต์คืนมาอย่างรวดเร็ว

ต่อมา บางคนที่ได้ทราบข่าวนี้ก็พากันไปขอของดีจากท่านพระอาจารย์มั่นที่วัด ส่วนมากจะได้เป็นแผ่นผ้าลงอักขระคาถาตัวยันต์ สำหรับตะกรุดแผ่นทองนั้นไม่ค่อยมี เพราะแผ่นทองสมัยนั้นหายากมาก ต่อมาไม่นาน ท่านพระอาจารย์มั่นคงเห็นว่ามากไปจนเกินเลย จึงบอกให้เลิก ท่านบอกว่า สงครามเขาจะสงบแล้ว ไม่ต้องเอาก็ได้ พวกตะกรุดยันต์ ผ้ายันต์เหล่านั้น เป็นของภายนอก สู้เอาคาถาบทนี้ไปบริกรรมแนบกับใจไม่ได้ ให้บริกรรมทุกเช้าค่ำจนขึ้นใจ แล้วจะปลอดภัย อันตรายต่าง ๆ จะไม่มากล้ำกรายตัวเราได้เลย คาถาบทนั้นว่าดังนี้

    "นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา"

ตั้งแต่นั้นมา ชาวบ้านหนองผือก็ไม่กล้าไปขอของดีจากท่านอีก และเป็นความจริงตามที่ท่านพระอาจารย์มั่นพูด ไม่ถึงเจ็ดวัน ก็ได้ทราบข่าวว่า เครื่องบินทหารอเมริกันไปทิ้งระเบิดปรมาณูใส่เมืองฮิโรชิม่าและเมืองนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น ย่อยยับจนในที่สุด ประเทศญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงคราม และสงครามโลกก็สงบจบสิ้นลง

คำภาวนา "นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา" นี้ มีความหมายว่า "ขอนอบน้อมท่านผู้หลุดพ้นแล้ว (จากกิเลส) ทั้งหลาย ขอนอบน้อมวิมุตติธรรม (ธรรมอันหลุดพ้นคือพระนิพพาน)"




ขอบคุณที่มา : https://sites.google.com/site/sujittrawiengin/home/na-mo-wi-mut-tana-ng-na-mo-wimutti-ya