หัวข้อ: ฝึกกรรมฐาน แล้วไปขัดกับการทำงานหลายอย่าง เริ่มหัวข้อโดย: whanjai ที่ มกราคม 26, 2010, 06:13:51 am หวานทำงาน ด้าน ครีเอทีฟ โฆษณา
พอหวานมาปฏิบัติ พระกรรมฐาน แล้ว ทำให้หวานได้รับประโยชน์ ดังนี้ ใจร่าเริง ป่วยน้อยลง นอนหลับง่าย ตื่นมาก็แจ่มใส ปลงได้เมื่อเสีย โกรธน้อย ใจน้อยก็น้อยลง เห็นชีวิตที่มีเป็นเรื่องไร้สาระ เป็นต้น แต่ขณะเดียวกัน ก็ทำให้หวานเสียเปรียบ เพื่อนคู่แข่งการทำงาน การแต่งตัว การใช้เครื่องประดับ การประทินผิว การตกแต่ง เมื่อก่อนชอบแต่งคะ เพราะเป็นสาวออฟฟิส ปัจจุบันพอมาแต่งตัวปอน ๆ งานถ่ายแบบ น้อยลงเลยคะ ผจก.บอกว่าถ้าจะทำแบบโฆษณานั่งสมาธิ จะให้หวานถ่าย ;D ;D ;D แต่หวานก็พอใจ คะ เพราะว่าเรามีความสุขในการทำงาน ถึงแม้ไม่รุ่งแบบเพื่อน แต่ก็พออยู่ได้ นะ ยิ่งมาดู วีดีโอ บทพิจารณาสังขารที่ พระอาจารย์ ทำไว้ ยิ่งใจ ห่อเหี่ยว เลยคะ ต้องเท่านี้ก่อนนะคะ จะไปทำงานแล้วคะ หัวข้อ: Re: ฝึกกรรมฐาน แล้วไปขัดกับการทำงานหลายอย่าง เริ่มหัวข้อโดย: whanjai ที่ มกราคม 26, 2010, 06:45:37 pm :) พระอาจารย์ ลงจาก mail ให้แล้ว อนุโมทนา
หัวข้อ: Re: ฝึกกรรมฐาน แล้วไปขัดกับการทำงานหลายอย่าง เริ่มหัวข้อโดย: หลวงพี่เฉย ที่ มกราคม 26, 2010, 10:56:03 pm คุณโยมหวานมีจิตใจร่าเริง ป่วยน้อยลง นอนหลับง่าย ตื่นมาก็แจ่มใส ปลงได้เมื่อเสีย โกรธน้อย ใจน้อยก็น้อยลง ตรงนี้นะเป็นผลจากการปฏิบัติธรรมถูกต้องแล้วละนะ อนุโมทนาสาธุด้วย.
สาระของชีวิตแท้จริงคือการปฏิบัติธรรมเพื่อออกจากสังสารวัฏ หากคุณโยมหวานเห็นชีวิตที่มีเป็นเรื่องไร้สาระ ก็ทำให้มันมีสาระซะอย่ามัวทำเรื่องไร้สาระ..ก็จะเดินได้ถูกทางไม่หลงทางในการปฏิบัติธรรม การแต่งตัวของคุณโยมหวาน การใช้เครื่องประดับ การประทินผิว การตกแต่งแบบของคุณโยมหวานนะ ก่อนอื่นต้องรู้ตัวเราเองให้ชัดแจ้งก่อนว่าก่อนว่า **เราแต่งตัวไปนั้นเพื่ออะไรกัน? **หรือเราแต่งตัวเพราะตามใจกิเลสหรือเปล่า? **หรือว่าเราแต่งตัวเพราะว่ามันเป็นหน้าที่การงานของเรา? **หรือว่าถ้าเราไม่แต่งตัวเลยหันมาแต่งตัวปอน ๆ จะเป็นการละเลยหน้าที่การงานหรือเปล่า? ขอบอกว่า การปฏิบัติธรรมนั้นเป็นเรืองภายใน ตราบใดที่เรายังต้องใช้ชีวิตอยู่ในโลกธรรมโลกแห่งสมมุติมายานี้ เรื่องภายนอก(หมายถึงการแต่งตัวให้ดูดีนะ)นั้นก็ต้องปฏิบัติตนปล่อยไปตามชาวโลกอย่างนั้นอยู่ อย่าได้สับสนเอามาปนกัน ภายนอกนั้นคนอื่นเขาต้องดูต้องเห็นเรา แต่ภายในนั้นเขาไม่มารู้มาเห็นอะไรกับเราหรอกนะ. คุนโยมหวานบอกว่าพอใจ มีความสุขในการทำงาน ถึงแม้ไม่รุ่งแบบเพื่อน แต่ก็พออยู่ได้. ตรงนี้คุณโยมหวานต้องแยกให้ออกระหว่างคำว่า ปล่อยวาง กับ ปล่อยทิ้ง สองอย่างนี้ต่างกันมาก การปล่อยวางนั้น คือการที่เราได้พยายามทำให้ดีที่สุดแล้ว แต่ผลอาจไม่เป็นที่พอใจ ใช่เรารับมันได้. การปล่อยทิ้งนั้น คือการไม่กระตือรือร้น ไม่พยายาม ไม่ทำเต็มความสามารถ ทำพอขอไปที นี่ใช้ไม่ได้. ถึงตรงนี้แล้วคุณโยมหวานคงพอจะมองเห็นตัวเอง และตอบคำถามให้ตัวเองได้บ้าง. ขอความเจริญแบบสุดๆในหน้าที่การงานจงมีแก่คุณโยมหวาน สิ้นกาลนานเทอญ...เจริญพร หัวข้อ: Re: ฝึกกรรมฐาน แล้วไปขัดกับการทำงานหลายอย่าง เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มกราคม 27, 2010, 01:39:55 pm ขออนุโมทนากับคุณหวานใจ การพอใจกับสิ่งที่ตัวเอง เป็นอยู่ มีอยู่ ผู้รู้เรียกว่า สันโดษ ขอนำข้อธรรมในพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่านปยุตโต มาแสดงให้คุณหวานใจเกิดปิติในธรรมดังนี้ครับ สันโดษ ความยินดี, ความพอใจ, ยินดีด้วยปัจจัย ๔ คือ ผ้านุ่งผ้าห่ม อาหารที่นอนที่นั่ง และยา ตามมีตามได้, ยินดีของของตน, การมีความสุขความพอใจด้วยเครื่องเลี้ยงชีพที่หามาได้ด้วยความเพียรพยายามอันชอบธรรมของตน ไม่โลภ ไม่ริษยาใคร; สันโดษ ๓ คือ ๑.ยถาลาภสันโดษ ยินดีตามที่ได้ คือได้สิ่งใดมาด้วยความเพียรของตน ก็พอใจด้วยสิ่งนั้น ไม่เดือดร้อนเพราะของที่ไม่ได้ ไม่เพ่งเล็งอยากได้ของคนอื่นไม่ริษยาเขา ๒.ยถาพลสันโดษ ยินดีตามกำลัง คือพอใจเพียงแค่พอแก่กำลังร่างกายสุขภาพและขอบเขตการใช้สอยของตน ของที่เกินกำลังก็ไม่หวงแหนเสียดายไม่เก็บไว้ให้เสียเปล่า หรือฝืนใช้ให้เป็นโทษแก่ตน ๓.ยถาสารุปปสันโดษ ยินดีตามสมควร คือ พอใจตามที่สมควรแก่ภาวะ ฐานะ แนว ทางชีวิต และจุดหมายแห่งการบำเพ็ญกิจของตน เช่นภิกษุพอใจแต่ของอันเหมาะกับสมณภาวะ หรือได้ของใช้ที่ไม่เหมาะกับตนแต่จะมีประโยชน์แก่ผู้อื่น ก็นำไปมอบให้แก่เขา เป็นต้น คุณหวานใจ ต้องแยกเรื่องงานและปฏิบัติธรรมออกจากกัน หน้าที่ของคุณหวานใจจำเป็น ต้องสวยใส ดูดีอยู่เสมอ ก็ต้องปฏิบัติไปตามนั้นครับ "ความสวยใส ดูดีอยู่เสมอ"ขอให้ถือว่าเป็นเพียง "สิ่งที่ถูกรู้ถูกดูเท่านั้น"(สักแต่ว่ารู้) แต่อย่าไปยึดติดหรือหลงไปกับมัน สันโดษแล้ว ก็สวยได้นะครับไม่ผิดกติกา ยกเว้นก่อนไปทำงานได้อาราธนาศีล ๘ เอาไว้ แต่คิดว่าคุณหวานใจน่าจะถื่อแค่ศีล ๕ ขอยุติการคุยเอาไว้เท่านี้นะครับ ขอให้คุณหวานใจสวยแบบเบญจกัลยาณีตลอดไป |