หัวข้อ: เปิดร่องรอย ท่ากราบ แบบ “อัษฎางคประดิษฐ์” ในศิลปะเขมร เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 19, 2021, 06:52:27 am (https://www.silpa-mag.com/wp-content/uploads/2021/02/ภาพสลัก-กราบ-อัษฎางคประดิษฐ์-เขมร-696x364.jpg) ภาพสลักบนผนังระเบียงคดชั้นในด้านทิศใต้ของปราสาทบายน (ภาพจาก เพจห้องเรียนประวัติศาสตร์ศิลป์ / ได้รับอนุญาตให้นำมาเผยแพร่ต่อ) เปิดร่องรอย ท่ากราบ แบบ “อัษฎางคประดิษฐ์” ในศิลปะเขมร การกราบอีกแบบหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นท่ายากที่สุดท่าหนึ่งในบรรดาท่ากราบทั้งหมด เพราะต้องทุ่มเท แรงกายและใจในการกราบมากกว่าท่าทั่วไป นั่นคือ ท่า “อัษฎางคประดิษฐ์” การกราบแบบอัษฎางคประดิษฐ์ คือ การกราบโดยให้องคาพยพทั้ง 8 ตำแหน่งของร่างกาย อันได้แก่ - หน้าผาก 1 - หน้าอก (บางแห่งว่าหน้าท้อง) 1 - ฝ่ามือทั้ง 2 - เข่าทั้ง 2 และ - ปลายเท้าทั้ง 2 สัมผัสธรณี มักเข้าใจและเรียกกันว่าเป็นการกราบแบบธิเบต แต่อันที่จริงแล้วเป็นท่านมัสการที่แพร่หลายทั่วไปอยู่แล้วในกลุ่มผู้นับพุทธศาสนิกชนที่นับถือลัทธิตันตรยานหรือวัชรยาน เช่น ในอินเดีย กัมพูชาสมัยเมืองพระนคร กระทั่งธิเบต เนปาล และภูฏานทุกวันนี้ก็ยังทำกันอยู่เป็นกิจวัตร ท่านี้น่าจะใช้มาตั้งแต่แรกสถาปนาลัทธิตันตรยานในอินเดียเมื่อราวกลางพุทธศตวรรษที่ 13 กันเลยทีเดียว โดยน่าจะขอยืมมาจากท่านมัสการของศาสนาพราหมณ์ ในที่นี้ขอนำตัวอย่างของการกราบอัษฎางคประดิษฐ์ ที่เป็นภาพสลักในศิลปะกัมพูชา มาให้ดูกัน 3 ภาพ ดังนี้ (https://www.silpa-mag.com/wp-content/uploads/2016/11/ART-01.jpg) ตัวอย่างที่ 1. ทับหลังที่สลักเสร็จไปครึ่งเดียวจากปราสาทพิมาย จ.นครราชสีมา จัดแสดงในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย ศิลปะนครวัด ราวครึ่งหลังพุทธศตวรรษที่ 17 แสดงภาพบุรุษสูงศักดิ์ที่อาจได้แก่พระเจ้าชัยวรมันที่ 6 แห่งดินแดนมหิธรปุระ ผู้ทรงสร้างปราสาทประธานของปราสาทพิมาย ทรงทอดพระวรกายรับหรือถวายพระเต้า (หม้อน้ำ) ที่น่าจะบรรจุน้ำพระพุทธมนตร์ศักดิ์สิทธิ์จากพระกัมรเตงชคตวิมายะ หรือ พระวิมายะ พระประธานของปราสาทพิมาย พระนามของพระองค์เป็นชื่อของปราสาทและเมืองพิมายจนทุกวันนี้ ตัวอย่างที่ 2. หน้าบันของปราสาทตาพรม จ.เสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา ทับหลังแสดงภาพบุรุษสูงศักดิ์กำลังนมัสการรูปพระตถาคตที่ตอนบนของทับหลังซึ่งถูกทำลายไปแล้ว อาจมุ่งให้หมายถึงการนมัสการรูปพระตถาคตของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ผู้ทรงสร้างปราสาทแห่งนี้ถวายพระราชชนนีศรีชัยราชจุฑามณี ในรูปพระนางปรัชญาปารมิตาเมื่อ พ.ศ. 1729 ตัวอย่างที่ 3. ภาพสลักบนผนังระเบียงคดชั้นในด้านทิศใต้ของปราสาทบายน สันนิษฐานว่าสลักขึ้นในรัชกาลพระเจ้าชัยวรมันที่ 8 ผู้ทรงนับถือศาสนาพราหมณ์ลัทธิไศวะอย่างแรงกล้า แสดงภาพบุรุษสูงศักดิ์ที่อาจมุ่งให้หมายถึงพระเจ้าชัยวรมันที่ 8 ทรงนมัสการรูปพระวิษณุในเทวาลัยด้วยท่าอัษฎางคประดิษฐ์ จะเห็นว่าแม้ในศาสนาพราหมณ์ก็ยังใช้ท่าอัษฎางคประดิษฐ์ในการแสดงความเคารพสูงสุดเช่นกัน @@@@@@@ ส่วนความหมายและองค์คุณของการกราบแบบอัษฎางคประดิษฐ์ ผู้รู้หลายท่านต่างอธิบายไว้อย่างมากมายขึ้นอยู่กับวินิจฉัยและการตีความของแต่ละท่าน ขอบคุณเพจ : ห้องเรียนประวัติศาสตร์ศิลป์ ที่อนุญาตให้นำมาเผยแพร่ต่อ https://www.facebook.com/ArtHistoryClassroom/ (https://www.facebook.com/ArtHistoryClassroom/) ผู้เขียน : ห้องเรียนประวัติศาสตร์ศิลป์ เผยแพร่: วันพฤหัสที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2564 แก้ไขปรับปรุงเนื้อหาในระบบออนไลน์ : เมื่อ 1 ตุลาคม 2561 ขอบคุณ : https://www.silpa-mag.com/history/article_4131 (https://www.silpa-mag.com/history/article_4131) |