หัวข้อ: ‘พระเทพเวที’ เปิดขุมพลังแห่งความดี ‘ทาน’ ประสิทธิภาพสูงสุด เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มีนาคม 04, 2021, 05:36:11 am (https://static.naewna.com/uploads/news/gallery/source/458308.jpg) ‘พระเทพเวที’ เปิดขุมพลังแห่งความดี ‘ทาน’ ประสิทธิภาพสูงสุด ‘พระเทพเวที’เปิดขุมพลังแห่งความดี ‘ทาน’ประสิทธิภาพสูงสุด บนเวที ‘เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ’ สังคมโลกในปัจจุบันมีเครื่องมือทางการสื่อสารที่ย่อโลกให้เสมือนทุกคนได้ใกล้ชิดกัน ทำอย่างไรเราถึงจะส่งต่อพลังแห่งความดีให้กัน เพื่อทำให้สังคมดี บรรยากาศดี พระเทพเวที (พล อาภากโร) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสังเวชวิศยาราม กรุงเทพฯ ได้เมตตามาแสดงธรรม บนเวทีธรรมบรรยายในหัวข้อ “พลังแห่งความดีงาม” ณ ห้อง 1111AB ชั้น 11 อาคาร ซี.พี.ทาวเวอร์ ถนนสีลม พระเทพเวที กล่าวว่า ยุคปัจจุบันคนทั้งโลกเปรียบเสมือนอยู่หมู่บ้านเดียวกัน เมื่อมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ทุกคนก็รับรู้เหมือนกันทั้งสิ้น เรียกว่าเป็นยุคหูทิพย์ตาทิพย์ ถึงเราอยู่ห่างไกลพ่อแม่ก็มีเครื่องมือสื่อสารช่วยให้ติดต่อกันเสมือนอยู่ใกล้กัน แต่สุดท้ายแล้วเราก็ยังต้องการการสัมผัส หรือ ผัสสะ ทำให้เกิดความอบอุ่นเพิ่มความรู้สึกที่ดีมากยิ่งขึ้น คนเราไม่ได้มีแค่เรื่องของวัตถุสสารเพียงอย่างเดียว ยังมีส่วนที่สำคัญที่สุดอีกอย่างหนึ่งคือ จิตใจ ท่านเจ้าคุณเล่าอีกว่า ทำไมถึงไม่มีความสุข มีความอิจฉาริษยา มีความร้อนรน เพราะมีกิเลสที่เรียกว่า โลภะ โมหะ โทสะ กิเลสนี้เขาเรียกว่าเป็นราก หรือ อกุศลมูล เป็นรากแก้วที่ฝังอยู่กับมนุษย์ ตัณหา เป็นตัวแทนของโลภะ มานะ ความถือตัวเป็นตัวแทนของโทสะ ทิฏฐิเป็นตัวแทนของโมหะ ในฐานะชาวพุทธควรทำความเข้าใจในธรรมะโดยค่อยๆ เรียนรู้ ค่อยๆ ศึกษา (https://static.naewna.com/uploads/news/gallery/source/458310.jpg) ท่านอธิบายว่า พลังที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือ ทาน การให้ เช่น อภัยทาน การให้อภัย เป็นการลดทิฏฐิมานะ จะช่วยขัดเกลาบรรเทาความเกลียดชัง จะทำให้สังคมดีขึ้น บรรยากาศดีขึ้น เราก็จะไม่มีภัย ไม่ว่าที่ใด หากคนเราดี มีความปรารถนาดีต่อกัน รักกันก็จะไม่มีภัยในที่นั้นๆ หากกล่าวถึงพลังแห่งคุณงามความดี สิ่งใดที่เป็นคุณงามความดี “ความดีคืออะไร อะไรคือกรรมดี” กรรมดี คือ ทำแล้วไม่ทำให้ตัวเองเดือนร้อนและไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ความดีจะถูกสื่อไปถึงความรัก ในทางของพระพุทธศาสนาการเกิดความรักมี 2 อย่าง อย่างแรก คือ บุพเพสันนิวาส เคยอยู่ร่วมกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน อย่างที่สองเกิดจากการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน และความรักก็มี 2 อย่างเช่นเดียวกัน อย่างแรก คือ เปมะหรือเปรมะ คือ ความเสน่หาเป็นรักที่คาดหวัง ถ้าไม่ได้ตามคาดหวังก็จะเป็นทุกข์ใจ รักแบบนี้ไม่ยั่งยืน แท้จริงแล้วไม่เรียกว่าความรัก แต่เรียกว่า ความใคร่หรือเรียกอีกอย่างว่า ตัณหาเปมะ อย่างที่สอง เรียกว่า เมตตา คือ ความรักของพ่อแม่ ความรักของผู้ที่รักเราด้วยความจริงใจ สำหรับผู้สนใจร่วมฟังธรรมบรรยายดี ๆ ในโครงการ “เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ ติดตามรับชมผ่านระบบ live สด ทุกวันศุกร์ เวลา 12:00-13:30 น. ทางช่องทาง facebook fanpage CPALL และสามารถรับฟังย้อนหลังได้ที่ช่องทางเดียวกัน ขอบคุณ : https://www.naewna.com/likesara/556482 (https://www.naewna.com/likesara/556482) วันพุธ ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2564, 10.44 น. |