สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ เมษายน 23, 2021, 06:30:17 am



หัวข้อ: มส.ชี้ชัด "5 อดีตพระเถระวัดสระเกศฯ" คดีเงินทอนวัด พ้นจากสงฆ์แล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ เมษายน 23, 2021, 06:30:17 am

(https://www.dailynews.co.th/admin/upload/20210420/news_PJVVnRKqKb181531_533.jpg)


มส.ชี้ชัด "5 อดีตพระเถระวัดสระเกศฯ" คดีเงินทอนวัด พ้นจากสงฆ์แล้ว

มอบสำนักพุทธฯพิจารณาดำเนินการกรณีทำพิธีกลับมาครองจีวรอาจเข้าข่ายปลอมบวช “พระเทพรัตนมุนี” ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ โดนหางเลขด้วย ฐานสนับสนุน

เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่พระตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร มีการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.)​ โดยสมเด็จพระสังฆราช ทรงลาการประชุม ทั้งนี้ ภายหลังการประชุม นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)​ ในฐานะโฆษก พศ. แถลงข่าวว่า

พศ.ได้นำกรณีคณะสงฆ์วัดสระเกศฯ ประกอบพิธีเจริญชัยมงคลคาถา ในโอกาสพระภิกษุอธิษฐานครองผ้าไตรจีวรรับเข้าหมู่สงฆ์ ประกอบด้วย อดีตพระพรหมสิทธิ อดีตพระราชกิจจาภรณ์ อดีตพระราชอุปเสณาภรณ์ อดีตพระศรีคุณาภรณ์ และอดีตพระครูสิริวิหารการ เข้าหารือ มส.ซึ่งทั้ง 5 รูปอยู่ในช่วงที่ศาลพิพากษาให้รอลงอาญา ประกอบกับในช่วงการดำเนินคดีเงินทอนวัดเมื่อปี 2561 อดีตพระเถระทั้ง 5 รูป ได้ถูกดำเนินการให้พ้นจากสมณเพศ ตามมาตรา 30 พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 พ.ศ. 2535 ที่ระบุว่า

เมื่อจะต้องจำคุก กักขังหรือขังพระภิกษุรูปใดตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาล ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลมีอำนาจดำเนินการให้พระภิกษุรูปนั้นสละสมณเพศเสียได้ และให้รายงานให้ศาลทราบถึงการสละสมณเพศแล้ว

@@@@@@@

นายสิปป์บวร กล่าวต่อไปว่า พศ.จึงนำเข้าหารือ มส. เพราะเห็นว่าการที่อดีตพระเถระทั้ง 5 รูป ทำพิธีกลับมาห่มจีวรอีกครั้ง อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 208 ประมวลกฎหมายอาญา ที่ระบุว่า ผู้ใดแต่งกายหรือใช้เครื่องหมายที่แสดงว่าเป็นภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวชในศาสนาใดโดยมิชอบ เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนเป็นบุคคลเช่นว่านั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อีกทั้งยังปรากฏภาพพระเทพรัตนมุนี ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ นั่งเป็นประธานสงฆ์ในพิธีดังกล่าวด้วย ซึ่งเหมือนเป็นการส่งเสริมสนับสนุน จึงอาจเข้าข่ายความผิดละเมิดจริยาพระสังฆาธิการด้วย มส.พิจารณาตามข้อหารือของพศ.อย่างถี่ถ้วนและเห็นว่า คณะสงฆ์ต้องปฏิบัติตามกฎหมายคณะสงฆ์

ดังนั้นอดีตพระเถระทั้ง 5 รูปจึงถือว่าพ้นจากความเป็นสงฆ์แล้ว และมอบให้ทาง พศ.ไปหารือพิจารณาแนวทางในการดำเนินการต่อไป

@@@@@@@

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีของอดีต 5 พระเถระวัดสระเกศฯ ที่อยู่ระหว่างรอลงอาญา คือ

1. คดีร่วมกันกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ปราบปรามการฟอกเงิน งบประมาณ พ.ศ. 2542 จากงบฯอุดหนุนในโครงการศูนย์กลางการเผยแผ่กิจการพระพุทธศาสนาตามแผนงานอนุรักษ์ส่งเสริมและพัฒนาศิลปะและวัฒนธรรม ประกอบด้วย อดีตพระพรหมสิทธิ โทษจำคุก 4 ปี 16 เดือน ปรับ 112,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี อดีตพระศรีคุณาภรณ์ อดีตพระครูสิริวิหารการ และอดีตพระราชกิจาภรณ์ โทษจำคุก 2 ปี 8 เดือน ปรับคนละ 56,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี

2. คดีร่วมกันกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 จากงบฯเงินอุดหนุนในโครงการศูนย์กลางการเผยแผ่กิจการพระพุทธศาสนาในปีงบฯ 2558 ประกอบด้วย อดีตพระราชอุปเสณาภรณ์ และอดีตพระราชกิจจาภรณ์ โทษจำคุก 6 ปี 24 เดือน ปรับคนละ 168,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 1 ปี

3. ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ พศ.ทุจริตเงินงบฯ อุดหนุนโครงการอบรมคุณธรรม จริยธรรม สำหรับเด็กและเยาวชน ประชาชน และข้าราชการ เพื่อความมั่นคงของสถาบันชาติ พระพุทธศาสนา พระมหากษัตริย์ ประจำปีงบฯ 2559 โดยอดีตพระพรหมสิทธิ โดนโทษจำคุก 48 เดือน ปรับ 36,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี

 



ขอบคุณ : https://www.dailynews.co.th/education/838316?utm_source=grf-eng&utm_medium=partner&utm_campaign=giraff.io (https://www.dailynews.co.th/education/838316?utm_source=grf-eng&utm_medium=partner&utm_campaign=giraff.io)
อังคารที่ 20 เมษายน 2564 เวลา 18.02 น.