สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 03, 2021, 06:50:37 am



หัวข้อ: ลบหลู่หรือส่งเสริม.? เห็นด้วยหรือไม่ เมื่อ 'ของขลัง' ถูกนำมาแปรรูป
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 03, 2021, 06:50:37 am
(https://obs.line-scdn.net/0hY8UFJhvrBhdoPxD58np5QFJpBXhbUxUUDAlXFDRRWCBEBklJUllKJktoXHQQBkFJV1BOdU07HSYQXUUSAFhK/w644)
ภาพโดย wirestock / www.freepik.com (http://www.freepik.com)


ลบหลู่หรือส่งเสริม.? เห็นด้วยหรือไม่ เมื่อ 'ของขลัง' ถูกนำมาแปรรูป

เพิ่งเป็นประเด็นร้อนไปหมาดๆ สำหรับ 'ขนมอาลัวพระเครื่อง' ขนมจากร้านขายขนมแห่งหนึ่งของจังหวัดสมุทรสงคราม ตัวขนมมีรูปร่างเหมือนพระเครื่องสมชื่อ เมื่อทำออกมาวางจำหน่ายปรากฏว่ามีผู้สนใจสั่งซื้อจำนวนมาก หลายคนชื่นชมในความสร้างสรรค์ของเจ้าของร้าน กลายเป็นกระแสแชร์ต่อๆ กันโลกอินเทอร์เน็ตถึงความแปลกใหม่และโดดเด่นของขนมอาลัวเจ้านี้

แต่ไม่นานหลังจากเป็นไวรัล ก็มีกระแสตีกลับว่าขนมในลักษณะนี้ไม่เหมาะสม ชาวพุทธหลายคนบอกว่าการกระทำดังกล่าวเป็นบาป ที่จะเกิดกับคนทำ และคนกิน

@@@@@@@

_ขอบเขต - ของขลัง_

ประเด็นความอ่อนไหวของพุทธศาสนามีมาแต่ไหนแต่ไร เพราะในหมู่ชาวพุทธ ก็ยังมีทั้งกลุ่มคนที่รู้สึก'รับได้' เมื่อเห็น 'สิ่งศักดิ์สิทธิ์' ทั้งหลายถูกนำมาแปรรูป ด้วยแนวคิดว่าคำสอนและแก่นแท้ของศาสนาสิที่สำคัญ เครื่องรางของขลังต่างๆ เป็นเพียงสิ่งสมมติไม่ใช่หรือ กลับกันในหมู่ชาวพุทธที่รู้สึก'สะเทือนใจ' ก็ให้เหตุผลว่าศาสนาเป็นของสูง ต้องเคารพ รวมถึงจำเป็นต้องช่วยกันทำนุบำรุงสืบไป

เราจึงรวบรวมตัวอย่างกรณีที่มีความ 'หมิ่นเหม่ทางศีลธรรม' แบบที่แม้จะเป็นชาวพุทธที่ไม่เคร่งมาก(อย่างเรา) ก็ยังแอบขบคิดว่าการกระทำเหล่านี้ ทำได้ หรือ ทำไม่ได้ และเมื่อเกิดขึ้นแล้ว สังคมมีปฏิกิริยาอย่างไรบ้าง?

ฟิลเตอร์ 'เศียรพระพุทธรูป' บนอินสตาแกรม

ย้อนไปราว 2-3 ปีที่แล้ว อินสตาแกรม (Instagram) ออกฟีเจอร์ใหม่ที่เราสามารถใช้กล้องของแอปฯ ถ่ายหน้าของเราโดยแอปฯ จะใช้ระบบ AR คำนวณนำรูปภาพต่างๆ มาแทนใบหน้าเราได้หนึ่งในฟิลเตอร์ที่คนมากมายเอามาถ่ายภาพคือฟิลเตอร์ 'พระพุทธรูป' ที่เปลี่ยนใบหน้าเราให้กลายเป็นพระพุทธรูป โดยศิลปินที่สร้างฟิลเตอร์ดังกล่าว ปฏิเสธที่จะลบผลงานตามคำขอของชาวพุทธที่เข้าไปทักท้วง ประเด็นฟิลเตอร์นี้กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์สนั่นในหมู่ชาวไทย แต่กลับได้รับความนิยมมากๆ ในกลุ่มวัยรุ่น

เสื้อ Supreme คอลเล็กชัน 'หลวงพ่อคูณ'

ซูพรีม (Supreme) แบรนด์แฟชั่นระดับไฮเอนด์จากนิวยอร์ก ออกคอลเล็กชันใหม่ประจำฤดูร้อน/ฤดูใบไม้ผลิปี 2021 เป็นเสื้อแจ็กเกตพิมพ์ 'ยันต์หลวงพ่อคูณ' อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ตรงกลางหลังสำหรับแบรนด์ซูพรีม สายแฟชั่นต่างรู้กันว่าไม่ว่าจะผลิตสินค้าใดออกมา ก็เป็นอันฮ็อตฮิตติดตลาด หรือไม่ก็เป็นไวรัลโด่งดังในความจัดจ้านเสมอ ส่วนประเด็น 'ยันต์หลวงพ่อคูณ' ก็มีชาวพุทธจำนวนหนึ่งออกมาท้วงติง แต่ที่ยังมีข้อกังขาคือในด้านกฎหมาย เพราะทางวัดบ้านไร่ได้ออกมาชี้แจงว่าแบรนด์ซูพรีมไม่ได้มาขอลิขสิทธิ์ไปใช้ในเชิงธุรกิจแต่อย่างใด


(https://obs.line-scdn.net/0h7E4ysmAfaGoJAH6ElvsXPTNWawU6bHtpbTY5aVVuNl0lOSc0NjZ0WysHYQkiZC80NjUvDC8Gc1txYitvPW51/w644)
เสื้อคอลเล็กชั่น “Blessings Ripstop Shirt” จาก Supreme

ดรามาการ์ตูนเรื่อง 'Saint Young Men เมื่อศาสดาขอลาพักร้อน'

การ์ตูนเรื่องนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับศาสดาทั้งสองคือ พระเยซู และ พระพุทธเจ้า ที่ลงมาใช้ชีวิตธรรมดาๆ บนโลกมนุษย์ โดยสอดแทรกมุกตลก และเรื่องราวจากพระคัมภีร์ รวมถึงพุทธประวัติอย่างเนียนๆ อย่างไรก็ตามการ์ตูนเรื่องนี้ 'ไม่ใช่' การ์ตูนความรู้ แต่สร้างออกมาในเชิง 'การ์ตูนแก๊ก'มากกว่า เมื่อชาวพุทธไทย (ส่วนหนึ่ง) ทราบเรื่องก็ต่อต้านอย่างหนัก และมีการร้องเรียนไปยังกระทรวงสารสนเทศ รวมถึงกระทรวงต่างประเทศให้จัดการกับการ์ตูนเรื่องนี้ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต กรุงโตเกียว ก็ได้แจ้งกลับมาว่าการ์ตูนเรื่องดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างสูง และไม่มีกระแสต่อต้านจากชาวญี่ปุ่น


(https://obs.line-scdn.net/0hX_MkOrVfB3BwEhGe7g54J0lEBB9DfhRzFCRWcyx8WUdcK0guTnEYQVJGWUBadkAuT31PH1dXWBUPJhN2Tic/w644)
ภาพจากการ์ตูนเรื่อง Saint Young Men

แต่ประเด็นนี้อาจจะแตกต่างจากบริบทความเป็นพุทธไทยอยู่บ้าง เนื่องจากชาวญี่ปุ่นนับถือพุทธนิกายมหายาน ซึ่งพระสงฆ์จะใช้ชีวิตลักษณะเดียวกับฆราวาสในหลายด้าน และรัฐธรรมนูญญี่ปุ่นเองก็ให้อิสระทางความคิดและการแสดงออกในเชิงศาสนาอย่างเต็มที่

ยังมีสินค้า และงานศิลปะ จำนวนมากที่ถูกผลิตออกมาในเชิง 'เลียนแบบ' เหล่าของขลังและมีลักษณะใกล้เคียงกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ทั้งรูปปั้น รูปหล่อ ไปจนถึงรอยสัก ผ้าห่ม รองเท้า ซึ่งทุกครั้งที่เรื่องราวเหล่านี้ถูกแชร์ หรือเป็นไวรัลในอินเทอร์เน็ต ก็เกิดปรากฏการณ์ 'ชาวเน็ตไม่ปลื้ม' และมักมีดรามาถกเถียงระหว่างชาวพุทธด้วยกันตามมาเสมอ อย่างในกรณี 'ขนมอาลัว' ที่กำลังเกิดขึ้นก็เช่นกัน

_'อาลัวพระเครื่อง' เรื่องถกเถียงว่าบาป-ไม่บาป.?_

หลังเหตุการณ์ดังกล่าว นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่าขนมอาลัวเป็นสิ่งไม่เหมาะสม และไม่สมควรนำมาทำเป็นรูปพระเครื่อง พร้อมเตรียมทำหนังสือชี้แจงร้านขนมเจ้าของอาลัว ให้เหตุผลว่ารูปพระเครื่องถือเป็นวัตถุมงคล และเครื่องสักการบูชา

เช่นเดียวกับ นางสุชาดา หิรัญภัทรานันท์ วัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสงคราม เห็นตรงกับนายณรงค์ว่าการนำพระเครื่องไปทำเป็นขนมไม่เหมาะสม พร้อมแนะนำว่าถ้าจะทำ อาจเลือกอัตลักษณ์ของจังหวัดสมุทรสงคราม เช่น ปู กุ้ง มาครีเอตแทน ทั้งยังชี้ว่าหากขนมเสียและนำไปทิ้ง อาจมีสัตว์มากัดกิน ซึ่งยิ่งไม่เหมาะสม

ด้าน พระวิทยา กิจฺจวิชฺโช วัดป่าดอยแสงธรรมฐาณสัมปันโน ให้ความเห็นผ่านโพสต์เฟซบุ๊ก สรุปความว่าไม่เหมาะสม เพราะพระพุทธรูปนับเป็นวัตถุมงคลที่ชาวพุทธเคารพนับถือ หากนำไปทำอาหารสำหรับเคี้ยวกิน ถือเป็นการกระทำมิบังควร แสดงถึงความไม่เคารพ และเป็นบาป

ด้านตัวแทนพระพุทธศาสนาอีกท่าน พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ คิดต่างโดยตั้งคำถามว่าสำนักงานพุทธฯ มองว่าขนมพระเครื่องไม่เหมาะสม แต่ไม่ชี้แจงว่า 'ไอ้ไข่' ที่อยู่ในวัดแต่คนพากันไปจุดประทัดบูชานั้นเหมาะสมหรือไม่ ก่อนกล่าวถึงกรณีการบูชาราหู บูชาพญานาค การลงนะหน้าทอง รวมถึงการครอบครู (ในวัดดังๆ) ว่าเหมาะสมหรือไม่


(https://obs.line-scdn.net/0hQ_iiIOtWDnBUEBie1gZxJ25GDR9nfB1zMCZfcwh-UEd4KUEvP3NBQXdCB0h6cEkuPHNDFnAZFUEsck11b3RB/w644)

ล่าสุดร้านขนมเจ้าของเรื่องออกมาชี้แจงว่าที่ทำไปเป็นเพียงการค้าขาย มีเจตนาดีและไม่ได้ต้องการความโด่งดัง ไม่ได้หวังกำไร แต่ทำเท่าที่มีกำลัง และอยากให้ทุกคนสนใจที่ฝืมือและความใส่ใจในกระบวนการทำของเธอมากกว่า พร้อมประกาศปิดรับออเดอร์ชั่วคราวไปแล้ว

และเมื่อสำรวจความคิดเห็นของชาวเน็ต ก็พบว่ามีส่วนหนึ่งที่มองว่าการนำ 'สิ่งศักดิ์สิทธิ์' มาแปรรูปนับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้ศาสนาดูเป็นเรื่อง 'ใกล้ตัว' และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำส่งเสริมให้ศาสนาอยู่คู่กับสังคมอย่างเป็นมิตรสืบไป

แล้วคุณล่ะ คิดเห็นอย่างไรกับ 'ของขลังแปรรูป'..?

หมายเหตุ : โปรดใช้ความระมัดระวังในการคอมเมนต์ และหลีกเลี่ยงคำหยาบคาย รวมถึงถ้อยคำโจมตีศาสนาหรือผู้เห็นต่าง (Hate Speech)





อ้างอิง :-
- prachachat.net
- vogue.co.th
- FB Page : พระวิทยา กิจฺจวิชฺโช, พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ , มาดามชุบ
ขอบคุณ : https://today.line.me/th/v2/article/KB76Wo?referral=linetodayexclusive (https://today.line.me/th/v2/article/KB76Wo?referral=linetodayexclusive)
LINE TODAY ORIGINAL , เผยแพร่ 29 เม.ย. เวลา 00.12 น. • AJ.