สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 16, 2021, 05:48:17 am



หัวข้อ: ‘มอญ’ ต้นกำเนิด ผู้บูชา "พระอุปคุปต์"
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 16, 2021, 05:48:17 am


(https://siamrath.co.th/files/styles/1140/public/img/20210604/45fb6a04f9c990c959f1aa8760e2c05fa9aa49c4e8080d6e5d98d5c52d20f1fa.jpg?itok=vGquIDvH)


‘มอญ’ ต้นกำเนิด ผู้บูชา "พระอุปคุปต์"

พระอุปคุปต์ เป็นรูปเคารพที่สร้างขึ้นแทนพระอรหันต์สาวกสำคัญรูปหนึ่ง ซึ่งได้รับการยกย่องว่า มีความเป็นเลิศทางอิทธิฤทธิ์ในสมัยหลังพุทธกาล เช่นเดียวกันกับที่ พระโมคคัลลาน์ ได้รับการยกย่องสมัยเมื่อครั้งพระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์ชีพ ท่านมีอีกชื่อว่า "พระบัวเข็ม" ความเป็นมาในการบูชา ‘พระอุปคุปต์’ สืบสาวราวเรื่องได้ว่าเริ่มต้นมาจากชาวมอญครับผม

มอญ เป็นชนชาติโบราณที่อาศัยอยู่ในแถบตอนล่างของพม่า เขตเมืองเมาะตะมะ เมาะลำเลิง พะสิม หงสาวดี ก่อตั้งเป็นอาณาจักรศิริธรรมวดี โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองหงสาวดี นับถือศาสนาพุทธลัทธิลังกาวงศ์ ก่อนจะถูกพวก "พยู "หรือ พม่า รุกรานจนต้องอพยพหลบหนีและกลายเป็นเมืองขึ้น กระทั่งถูกกลืนชาติในที่สุด อย่างไรก็ตาม ปรากฏหลักฐานค่อนข้างแน่ชัดว่า มอญ เป็นกลุ่มชนชาติที่กระจายตัวอยู่ทั่วไปในแถบสุวรรณภูมิตั้งแต่ยุคทวารวดี เนื่องจากความสัมพันธ์ทางศาสนาและการค้า รูปงานประติมากรรมและงานสถาปัตยกรรม ที่ค้นพบในแถบ นครปฐม ราชบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี เพชรบูรณ์

ในช่วงกรุงศรีอยุธยา ชาวมอญจำนวนมากอพยพหนีภัยพม่าเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารกษัตริย์แห่งสยามประเทศ โดยตั้งบ้านเรือนอยู่ชานพระนครกรุงศรีอยุธยาและบริเวณเมืองนนทบุรี ในสมัยกรุงธนบุรีชาวมอญได้ตั้งบ้านเรือนเป็นหลักเป็นฐานอยู่บริเวณบ้านสามโคก ปทุมธานี และบริเวณเกาะเกร็ด นนทบุรี เนื่องจากพระองค์ทรงมีพระราโชบายที่จะรวบรวมผู้คนให้เข้ามาตั้งรกรากในพระนครธนบุรีที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่

(https://siamrath.co.th/files/styles/insert/public/img/20210603/71292bed06ec6d87307e8f81d0cd8787c8b92c519293b47804e1c8deedffa791.jpg?itok=mvjz1KCS)

(https://siamrath.co.th/files/styles/insert/public/img/20210603/d3dab8cbd04ab9d61b15f13bec54baf278e94520f435966924770c60d2d9942b.jpg?itok=K52jT8RM)

การอพยพของชาวมอญที่เป็นต้นตระกูลมอญปากเกร็ดนั้น เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งในช่วงสมัยรัชกาลที่ 2 ซึ่งทรงโปรดฯ ให้ตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณ ปากเกร็ด สามโคก และที่ปากลัด นครเขื่อนขันธ์ (พระประแดง) อันเป็นจุดเริ่มต้นให้ชาวมอญกระจายไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย แต่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีที่เคร่งครัด กลายเป็นเอกลักษณ์แม้จะผสมกลมกลืนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชาวไทยไปแล้วก็ตาม ที่จะยกมากล่าวถึงนี้คือ “ประเพณีลอยกระทง” ที่ชาวมอญมีคติความเชื่อแตกต่างจากไทยมาแต่ครั้งอดีต และนับเป็นต้นกำเนิดแห่ง “การบูชาพระอุปคุปต์”

ขณะที่สยามประเทศเชื่อเรื่อง “การบูชาพระแม่คงคา” ตลอดจนประเพณีการจองเปรียง หรือตำนานของนางพระยากาเผือก อันเป็นการผสมผสานระหว่างคติฮินดูกับพุทธศาสนา ชาวมอญ กลับมีความเชื่อว่าประเพณีลอยกระทงผูกพันกับ “พระอุปคุปตเถระ” พระมหาเถระผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ ปรากฏเรื่องราวทางพุทธศาสนาว่า ท่านบำเพ็ญธรรมอยู่กลางมหานทีอันกว้างใหญ่ในโลหะปราสาท เมื่อครั้งพระเจ้าอโศกมหาราช โปรดฯ ให้กระทำสังคายนาพระไตรปิฎกเป็นครั้งที่ 3 ปรากฏพญามารมาก่อกวนมณฑลพิธี จนต้องอาราธนา ‘พระอุปคุปต์’ มาปราบ การสังคายนาพระไตรปิฎกจึงสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

ในสมัยที่ชาวมอญตั้งเรือนอยู่ที่เมืองสะเทิม เมืองหงสาวดี และเมืองเมาะตะมะ หรือในราชสำนักของกษัตริย์มอญก็ดี ประชาชนชาวมอญทั้งหลายที่อาบน้ำอาบท่าลงในแม่น้ำลำคลอง น้ำที่สกปรกเหล่านั้นก็หลั่งไหลลงสู่มหาสมุทร ดังนั้น เพื่อเป็นการขอขมาลาโทษต่อ “พระอุปคุปตเถระ” เมื่อถึงวันเพ็ญ เดือน 12 ของทุกปี ชาวมอญจึงพากันบูชาพระอุปคุปต์ โดยการสร้างเป็นแพไม้ไผ่ขนาดใหญ่ มุงด้วยใบจาก ภายในบรรจุอาหารคาวหวาน ข้าวของเครื่องใช้ รูปจำลองขององค์พระอุปคุปต์ ซึ่งทุกเรือนชานบ้านช่องจะพากันบริจาคข้าวของสิ่งละอันพันละน้อย จากนั้นนำแพไม้ไผ่ไปลอยลงแม่น้ำใหญ่หรือทะเล หากผู้ใดตกทุกข์ได้ยากขาดแคลน เมื่อพบเจอแพบูชาก็สามารถนำข้าวของต่างๆ ไปใช้ อันนับเป็นการทำกุศลของชาวมอญอีกลักษณะหนึ่ง


(https://siamrath.co.th/files/styles/insert/public/img/20210603/7763aaf5a2d5088380d1a9ccfa089b771bf1d6870145e7de5f5078a71482b374.jpg?itok=vvkuKgSO)

(https://siamrath.co.th/files/styles/insert/public/img/20210603/97a5db815a2a81860a9567f3a2ac41e490da659aba12496a7a40b1739634458b.jpg?itok=Za65h_H0)

ธรรมเนียม “การบูชาพระอุปคุปต์” นี้ แพร่หลายในหมู่ชาวพม่า โดยมีการสร้างรูปเคารพในลักษณะพระพุทธรูปไม้ นั่งอยู่กลางน้ำ บนพระเศียรคลุมด้วยใบบัว และมีเข็มปักติดอยู่ทั่วพระกาย สื่อความหมายถึงพระธรรมที่ทรงแสดงปราบพญามาร นอกจากนี้ ชนชาติเขมรยังรับคติความเชื่อเรื่องพระอุปคุปต์มาจำลองเป็นเทวประติมากรรมขนาดเล็ก ทำด้วยสัมฤทธิ์ เป็นรูปองค์พระนั่งอยู่ในเปลือกหอยลักษณะต่างๆ

สำหรับประเทศไทย รูปเคารพอุปคุปต์ เข้ามาแพร่หลายในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยพระรามัญได้นำมาถวายพระวชิรญาณภิกขุ (ต่อมาคือ รัชกาลที่ 4) ซึ่งต่อมากลายเป็นที่นิยมและมีการจัดสร้างกันอย่างกว้างขวางจนถึงปัจจุบัน โดยเชื่อในพุทธคุณว่าเป็นพระศักดิ์สิทธิ์ ก่อให้เกิดลาภผล ความมั่งมี ขจัดภยันตราย และมีอิทธิฤทธิ์ในทางขอฝนอีกด้วยครับ





ขอบคุณ : https://siamrath.co.th/n/249856
สยามรัฐออนไลน์ 4 มิถุนายน 2564 23:00 น.
สัปดาห์พระเครื่อง / ราม วัชรประดิษฐ์