หัวข้อ: “ผายลม” มีหลายแบบ มาจากสาเหตุที่ต่างกัน | อีกทั้งบ่งบอกถึง สุขภาพภายในอีกด้วย เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 20, 2021, 06:32:45 am (https://www.brighttv.co.th/wp-content/uploads/2021/06/15-10.jpg.webp) รู้หรือไม่.? “ผายลม” มีหลายแบบ มาจากสาเหตุที่ต่างกัน | อีกทั้งบ่งบอกถึง สุขภาพภายในอีกด้วย อย่ามองข้ามเรื่องเล็กๆของร่างกาย รู้หรือไม่? “ผายลม“หรือ “ตด” มีหลายแบบ มาจากสาเหตุที่ต่างกัน อีกทั้งบ่งบอกถึงสุขภาพภายในอีกด้วย หลายคนอาจจะติดว่าการผายลม หรือ การตดนั้น เรื่องที่เล็กๆที่หลายคนมองข้ามไป แต่ที่จริงแล้วผายลม หรือ ตดนั้น สามารถบอกถึงสุขภาพและการทำงานของภายในร่างกายได้ เช่นเดียวกับการเรอ เหตุผลหนักที่ทำให้เราตดหรือเรอนั้นมาจากปริมาณก๊าซในร่างกายมาก ทำให้ถูกดันออกมา ทั้งนี้มีอีกหลายปัจจัย และรู้หรือไม่ มันสามารถบอกได้ร่างกายเราผิดปกติตรงไหน วันนี้ Bright Today จะพาทุกคนเช็กคุณภาพของแต่ละคนจากลักษณะการผายลม และสาเหตุปัจจัยที่ทำให้ผายลม @@@@@@@ สาเหตุและปัจจัยที่ทำให้ผายลม มนุษย์ทุกคนล้วนต้องตดเพื่อระบายแก๊สจากการย่อยอาหาร แต่ถ้าใครที่ตดมากๆ อาจเกิดจากแก๊สสะสมในกระบวนการย่อยอาหารที่มากเกินไป โดยการกินอาหารที่มีแก๊สมาก เช่น เครื่องดื่มน้ำอัดลม พืชตระกูลถั่ว หรืออาหารพวกแป้งที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง รวมถึงพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ทำให้เกิดการสะสมแก๊สจนเราเผลอตดออกมาบ่อยๆ - เคี้ยวหมากฝรั่ง - อมลูกอมหรืออมอาหารบางชนิด - รับประทานอาหารหรือดื่มน้ำอย่างรวดเร็วจนเกินไป - ดื่มเครื่องดื่มน้ำอัดลม - ดื่มน้ำจากหลอด - กลืนน้ำลายบ่อยเกินไป ซึ่งอาจเกิดขึ้นเมื่อรู้สึกวิตกกังวล - สวมใส่ฟันปลอมที่หลวมเกินไป - สูบบุหรี่ @@@@@@@ การ “ผายลม” บอกอะไรเราบ้าง.? ผายลมมีเสียงดัง - แสดงว่าก๊าซในร่างกายถูกผลักออกมาด้วยแรงดันสูง - กล้ามเนื้อหูรูดบีบตัวมาก - ส่วนมากพวกที่ผายลมเสียงดัง จะไม่ค่อยมีกลิ่น - ผายลมมีเสียงดัง ไม่แสดงถึงความผิดปกติของร่างกาย ผายลมมีเสียงไร้เสียง - เกิดจากกล้ามเนื้อหูรูดไม่กระชับทำให้บีบตัวได้น้อย - แรงดันในลำไส้จึงมีไม่มาก - ส่วนมากพวกที่ผายลมไร้เสียง จะมีกลิ่นแรง ผายลมมีกลิ่นแรง – แสดงว่าเกิดจากการทานอาหารที่มีโปรตีนและผักที่มีกลิ่นแรงมาก เกิดการสะสมก๊าซจากอาหารจำนวนมาก พวกที่ผายลมอีกกลิ่นอาจจะเป็นพวกที่ถ่ายยาก ไม่ค่อยถ่าย หรือ อาจเกิดจากลำไส้มีการติดเชื้อแบคทีเรีย ผายลมไร้กลิ่น – เกิดจากการได้รับโปรตีนน้อย ในหนึ่งวันเราควรจพผายลมวันละ10-20 ครั้งต่อวัน ถือว่าปกติ หากน้อยกว่า 10 ครั้งต่อวัน เสี่ยงโรคลำไส้อุดตัน และ มากกว่า 20 ครั้งต่อวัน เสี่ยงโรคทางเดินอาหาร การผายลมบ่อยเกินไป อาจจะบ่งบอกถึงโรคร้ายอื่นๆที่ตามมา - โรคมะเร็งลำไส้ (Colon Cancer) - โรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome: IBS) - การทำงานผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร (Functional GI Disorders) - การแพ้อาหารที่มีส่วนประกอบของแลคโตส (Lactose) เช่น นมวัว โยเกิร์ต - ภาวะที่เกี่ยวของกับกระเพาะอาหาร เช่น อาหารเป็นพิษ (Food poisoning) - แผลในกระเพาะอาหาร (Peptic ulcer) - โรคเบาหวาน (Diabetes) ข้อดีของกายผายลม - เป็นการระบายก๊าซออกจากร่างกาย ทำให้หลายอึดอัด หรือ แก้อาการท้องอีดได้ - การสูดดมกลิ่นผายลมเป็นเรื่องที่ดี เพราะเวลาที่คุณผายลมออกมา จะมีสารไฮโดรเจนซัลไฟด์ออกมาด้วย ซึ่งได้มีการวิจัยพบว่าการสูดดมก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ในปริมาณน้อยๆ จะสามารถลดความเสียหายของเซลล์ในระยะยาวได้ แถมยังสามารถป้องกันไม่ให้เกิดโรคไขข้อ และโรคหัวใจด้วย - การผายลมทำให้รู้ว่าคุณขาดสารอาหาร ขอบคุณข้อมูล : thaihealth.or.th / jonessalad.com / pobpad.com ขอบคุณเว็บ : https://www.brighttv.co.th/health/fart-good-health (https://www.brighttv.co.th/health/fart-good-health) 19 มิ.ย. 2021สุขภาพ |