หัวข้อ: 'วิธีปฏิบัติเพื่อลด โทสะและราคะ' | วิสัชนาธรรมโดย 'หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต' เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 27, 2021, 05:27:24 am (https://static.naewna.com/uploads/news/source/583230.jpg) 'วิธีปฏิบัติเพื่อลด โทสะและราคะ' | วิสัชนาธรรมโดย 'หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต' "วิธีปฏิบัติเพื่อลดโทสะและราคะ" วิสัชนาธรรมโดย "หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต" วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร คัดมาจากหนังสือ หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต ตอบปัญหาธรรมะ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๒๐, เดือนกันยายน ๒๕๕๓ @@@@@@@ ปุจฉา : โดยปกติผมเป็นคนใจร้อนมากๆ ชอบวู่วามและควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้ แต่หลังจากที่ผมได้มาฟังหลวงปู่เทศน์และได้อ่านหนังสือที่หลวงปู่กรุณามอบไปให้แล้ว ทำให้ตัวเองรู้สึกว่าใจเย็นขึ้น มีความสุขมากขึ้น แต่ผมคิดว่ายังไม่พอ ยังต้องเยือกเย็นและสุขุมกว่านี้อีก หลวงปู่กรุณาชี้แนะให้ผมด้วย วิสัชนา : เมื่ออ่านหนังสือแล้วใจเย็น มีความสุขมากขึ้น แต่ก็ยังไม่พอเพราะเหตุว่ากิเลสของเรายังไม่ขาดแต่เป็นเพียงปีติยินดีแล้วเกิดดับไป ณ ที่นั้นเองเพราะธรรมส่วนนี้มันอยู่ใต้อำนาจอนิจจังอยู่ แต่ก็ยังดีกว่าที่ยังไม่เจอซักทีเลยมันต้องอาศัยทำบ่อยๆ ให้เป็นข้อวัตร เดี๋ยวดีจะบวกดีขึ้นทวีผู้พ้นไปแล้วนั้นไม่ใช่ว่าจะทำครั้งเดียวแล้วพ้นจากกิเลสทั้งปวงไปเลยเพราะอบรมบ่มนิสัยมาหลายภพจนนับไม่ไหวแล้วจึงพ้นไปได้เรามาพูดเอาแต่เบื้องปลายก็คล้ายกับว่าเพิ่งเกิดมาพบพระพุทธศาสนาในชาติปัจจุบันเท่านั้นไอ้ที่แท้มันมาพบพระพุทธศาสนาจนเกือบนับไม่ไหวแล้วพูดเท่านี้ก็คงรู้จักความหมายกันแล้ว ในข้อที่ว่าชอบวู่วามนั้น มันเป็นคนมีปัญญาแล้วถ้าหากว่ามันเห็นว่าไม่มีประโยชน์มันก็วางไปเองถ้ามันเห็นว่ามีประโยชน์อยู่มันก็วางไม่ได้แต่มันถึงกับจะฆ่าจะตีเขาได้หรือไม่ ข้อนี้เป็นส่วนตัวต้องรู้อีกถ้ามันหมายจะฆ่าจะตีเขาได้ก็ส่อแสดงให้เห็นว่ามันยังมีกิเลสมากอยู่เราต้องพิจารณาตนอย่างนี้ ใครๆ ในโลกก็เหมือนกันถ้าหากว่าเห็นว่า โลภ โกรธ หลง มันเป็นของอร่อยอยู่มันก็ลดตำแหน่งไม่ได้ มันต้องสังเวยเป็นอาหารของกิเลสสิ่งเหล่านี้มันจะขาดตัวไปได้ก็ต้องพระอรหันต์เท่านั้น @@@@@@@ ปุจฉา : เมื่อก่อนผมตั้งเป้ากำจัดความโกรธมากกว่าเพื่อน ตอนนี้ก็สมใจบ้างแล้ว (ตามที่เรียนรายงานหลวงปู่ข้างต้น) ต่อไปคงเป็นราคะทางเพศ เพราะออกมาเต้นมากกว่าเพื่อน อย่างนี้จริงไหมครับ วิสัชนา : เออ...เมื่อความโกรธเบาลงแล้ว ราคะก็เบาลงไปในตัวด้วยความหลงในชั้นนี้ก็เบาไปในตัวด้วยคำว่าราคะเบา คือไม่สามารถล่วงละเมิดกามารมณ์บุคคลที่มีผู้หวงแหน เว้นไว้แต่ภรรยาหรือสามีของตนแม้ภรรยาหรือสามีของตน ถ้าเราหย่าร้างไปแล้วไปข่มขืนเขาที่เขาไม่พอใจก็ขัดข้องในศีลข้อกาเมฯ ทั้งนั้น ไม่ใช่สุปฏิปันโน (โสดาบัน) อีกล่ะ ที่ถามว่าราคะมันออกมาเต้นรำบ่อย ข้อนี้จริงเฉพาะผู้มีราคะเป็นเจ้าเรือนถ้าท่านผู้มีโทสะเป็นหัวหน้าเป็นเจ้าเรือนอยู่ในใจมันก็เอาโกรธออกมาเต้นระบำก่อนเพื่อนสำหรับคนนั้นและถ้าหากว่าท่านผู้เป็นศรัทธาจริต มันก็เอาความเชื่อมาเต้นระบำออกหน้าส่วนความเชื่อนั้นจะแยบคายในสิ่งที่ควรเชื่อหรือไม่ควรเชื่อมันก็ขึ้นอยู่กับสติปัญญาของแต่ละรายของท่านผู้นั้นๆ ถ้าหากว่าท่านผู้เป็นพุทธจริต เมื่อได้ยินได้เห็นได้ฟังสิ่งใดความเข้าใจของท่านตามเป็นจริงมันก็เปิดหน้าฉากออกมาเต้นระบำและถ้าหากว่าเป็นโมหจริตก็เอาความหลงๆ ลืมๆ และไม่เข้าใจในเรื่องนั้นๆ ง่ายออกมาเต้นระบำก่อนอารมณ์ทั้งปวง เหล่านี้เป็นต้น วิธีเจริญกรรมฐานเหล่านี้ผู้มีราคะจริตออกมาบังคับก่อนให้เป็นไปตามก็ต้องพิจารณาสิ่งที่เป็นของสกปรกโสมมสกลร่างกายพร้อมทั้งอาการ ๓๒ พร้อมด้วยซากศพทั้งปวงอันใดอันหนึ่งที่เห็นชัดว่าเป็นปฏิกูลมาแก้ และบรรเทาในกิเลสพรรณนั้นแล้วจึงพิจารณาไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาภายหลัง ถ้าหากว่าศรัทธาจริต เชื่อง่ายก็เจริญอนุสติ ๑๐นับแต่พุทธา, ธัมมา, สังฆา, สีลา, จาคา, เทวดา, กายคตา, อุปสมาที่ว่าอักษรย่อก็คงจะเข้าใจบ้าง...ที่อธิบายมานี้ก็พอสังเขปเท่านั้นจะให้อธิบายมากก็จะกลายเป็นคัมภีร์วิสุทธิมรรคทั้งเล่มไป ขอบคุณ : เว็บลานธรรมจักร ขอบคุณ : https://www.naewna.com/likesara/583230 (https://www.naewna.com/likesara/583230) วันเสาร์ ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2564, 19.25 น. |