หัวข้อ: ก่อนเกิด "หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ" เป็นใครมาก่อน.? | อุปัชฌาย์ทำนายท่านไว้อย่างไร.? เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กรกฎาคม 18, 2021, 08:39:50 am (https://www.nirvanattain.com/images/2020/04/06/article_118-min.jpg) รู้ไหมว่า ก่อนเกิดหลวงพ่อฤๅษีลิงดำเป็นใครมาก่อน.? | พระอุปัชฌาย์ทำนายหลวงพ่อฤๅษีลิงดำไว้ว่าอย่างไร.? | ขณะที่บวช หลวงพ่อปานบอกอุปัชฌาย์ว่า "เจ้านี่หัวแข็งมาก_ต้องเสกด้วยตะพดหนักหน่อย" พระราชพรหมยาน (วีระ ถาวโร) หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า “หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ” เป็นพระภิกษุนิกายเถรวาทฝ่ายมหานิกาย เจ้าอาวาสวัดจันทาราม (ท่าซุง) จังหวัดอุทัยธานี มีชื่อเสียงในด้านการบำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐานจนได้วิชามโนมยิทธิ (ฤทธิ์ทางใจ) ปฐมวัย พระราชพรหมยาน (วีระ ถาวโร) เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๕๙ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๘ ปีมะเส็ง ที่ตำบลสาลี อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ในครอบครัวของชาวนาซึ่งมีฐานะค่อนข้างดี บิดาชื่อ นายควง สังข์สุวรรณ มารดาชื่อนางสมบุญ สังข์สุวรรณ ท่านเป็นบุตรคนที่ ๓ จากพี่น้องร่วมบิดามารดาจำนวน ๕ คน ก่อนที่พระราชพรหมยานจะเกิดนั้น มารดาของท่านฝันว่า เห็นพระพรหมมีสีเหลืองเป็นทองคำเหมือนพระพุทธรูป นอนลอยไปในอากาศ มีเพชรประดับแพรวพราวทั้งตัว เข้าทางหัวจั่วด้านทิศเหนือ เข้ามานั่งที่ตักท่าน มารดาก็กอดไว้ แล้วก็หายเข้าไปในกาย เมื่อเกิดมาใหม่ ๆ หลวงพ่อเล็ก เกสโร ซึ่งมีฐานะเป็นลุง ได้กล่าวว่า เจ้าเด็กคนนี้มาจากพรหม ดังนั้นจึงให้ชื่อว่า "พรหม" และต่อมาภายหลัง คนที่จดสำมะโนครัวเขามาเปลี่ยนชื่อให้เป็น "สังเวียน" ท่านยายกับชาวบ้านเรียกว่า "เล็ก" ส่วนท่านมารดาและพี่ ๆ น้องๆ เรียกว่า "พ่อกลาง" @@@@@@@ อุปสมบท พ.ศ. ๒๔๗๙ อายุ ๒๐ ปี อุปสมบทเป็นภิกษุเมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ เวลา ๑๓.๐๐ น. ที่พัทธสีมาวัดบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา - โดยมีพระครูรัตนาภิรมย์ (อยู่ ติสฺโส) เจ้าอาวาสวัดบ้านแพน เป็นพระอุปัชฌาย์, - พระครูวิหารกิจจานุการ (ปาน โสนนฺโท) เจ้าอาวาสวัดบางนมโคเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ - พระอาจารย์เล็ก เกสโร วัดบางนมโค เป็นพระอนุสาวนาจารย์ คำสั่งพระอุปัชฌาย์ ขณะเข้าบวช หลวงพ่อปาน ท่านบอกท่านอุปัชฌาย์ว่า "เจ้านี่หัวแข็งมาก ต้องเสกด้วยตะพดหนักหน่อย" ท่านอุปัชฌาย์ท่านเป็นพระทรงธรรมเหมือนหลวงพ่อ (ปาน) หลวงพ่อเล็กก็เหมือนกัน ท่านอุปัชฌาย์ท่านยิ้ม แล้วท่านพูดว่า "๓ องค์นี้ไม่สึก อีกองค์ต้องสึกเพราะมีลูก เมื่อจะสึกไม่ต้องเสียดายนะลูก เกษียณแล้วบวชใหม่มีผลสมบูรณ์เหมือนกัน ๒ องค์นี้พอครบ ๑๐ พรรษาต้องเข้าป่า เมื่อเข้าป่าแล้วห้ามออกมายุ่งกับชาวบ้านจนกว่าจะตาย จะพาพระและชาวบ้านที่อวดรู้ตกนรก จงไปตามทางของเธอ ท่านปานช่วยสอนวิชาเข้าป่าให้หนักหน่อย ท่านองค์นี้ (หมายถึงฉัน) จงเข้าป่าไปกับเขา แต่ห้ามอยู่ในป่าเป็นวัตร เพราะเธอมีบริวารมาก ต้องอยู่สอนบริวารจนตาย พอครบ ๒๐ พรรษา จงออกจากสำนักเดิม เธอจะได้ดี จงไปตามทางของเธอ ฉันบวชพระมามากแล้วไม่อิ่มใจเท่าบวชพวกเธอ" ขอขอบคุณ :- คำสอนพระอริยเจ้า : หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ) web : https://www.nirvanattain.com/ (https://www.nirvanattain.com/)บทความข่าวสาร/พระอริยเจ้า/หลวงพ่อพระราชพรหมยาน-หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ.html 06 เมษายน 2563 |