สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

บุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระ.! | เปิด 5 วิธีเอาคืนความแค้น อย่างสร้างสรรค์

เกือบทุกคนน่าจะเคยได้ยินประโยคนี้แน่ ๆ โดยเฉพาะวัย 30 ปีขึ้นไป เพราะเราถูกสอนมาด้วยความเชื่อเหล่านี้ โดยเฉพาะในสังคมไทยที่ถือเรื่องบุญคุณต้องทดแทนมาก ๆ ใครที่เคยมีพระคุณต่อเรา หากมีโอกาสก็ควรทดแทนบุญคุณนั้นกลับ แต่ส่วนที่เป็นแค้นต้องชำระ เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างถ้วนถี่อีกครั้ง ว่าการเอาคืนความแค้นนั้น เป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือไม่

หากทุกคนมีความแค้น และลงมือชำระแค้นด้วยการมุ่งหวังชีวิตของอีกฝ่าย ก็คงไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่นัก เพราะผิดกฎหมายแน่ ๆ แต่จริง ๆ แล้ว มีวิธีแก้แค้นแบบไม่เดือดร้อนใคร แถมยังเป็นผลดีต่อทุกฝ่ายอีกด้วย เพราะการชำระแค้นไม่จำเป็นต้องจบลงด้วยเรื่องคอขาดบาดตายเสมอไป

ตามหลักจิตวิทยาบอกว่า เมื่อครั้งหนึ่งเราเคยรู้สึกถูกทำร้าย ตัวตนถูกกดทับจากคนอื่นจนรู้สึกแย่ ก็อยากจะกลับมาเป็นฝ่ายที่เหนือกว่า เรียกว่าเป็นสัญชาตญาณดิบก็ไม่ผิดนัก ด้วยอารมณ์รักโลภโกรธหลง รวมถึง Self-esteem ที่เคยถูกทำลายลงไป จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่มนุษย์จะรู้สึกอยากเอาชนะให้ได้ แต่เราจะแก้แค้นคนอื่นยังไงไม่ให้ทำผิดล่ะ.?  LINE TODAY ORIGINAL ขอเสนอ 5 วิธีแก้แค้นแบบสร้างสรรค์

@@@@@@@

1. ให้อภัย

ปล่อยให้เจ้ากรรมนายเวรของเขาได้ทำงานอย่างอิสระ เพราะลึก ๆ เรายังเชื่อมั่นใจคนทำดีได้ดีคนทำชั่วได้ชั่ว แม้ว่าหลายครั้งสิ่งที่เกิดขึ้นมันช่างชัดหูขัดตาและขัดใจเราซะเหลือเกินก็ตาม สิ่งที่ควรทำคือให้อภัย เพราะอย่างน้อยที่สุด คนที่จะสบายใจขึ้นมันคือตัวเราเอง ไม่ผูกใจเจ็บ ไม่ต้องแค้นให้ปวดหัวอีกต่อไป ที่สำคัญคือ ไม่ชอบอะไร อย่าทำแบบนั้น จดและจำเอาไว้ในใจเลยค่ะ ถ้าเราไม่ชอบการกระทำที่คนแบบนั้นทำ ทางที่ดี เราก็ไม่ควรทำแบบเขาเช่นกัน “เมื่อใจเบา เราก็สบาย”

2. ต่างคนต่างอยู่ดีที่สุด

ไม่สนใจ เพิกเฉยอย่างที่สุดต่อคนที่ทำให้เราพัง เอาตัวเองออกมาจากจุดเดิมที่เคยเจ็บ ไม่สนใจคนเหล่านั้น ปล่อยให้เขากระทำพฤติกรรมไม่ดีต่อไป แต่ในเมื่อเราไม่สนใจซะอย่าง สักวันเขาก็คงเหนื่อยและหยุดไปเอง เพราะทำไปก็ไม่มีใครเห็น เมื่อต่างคนต่างอยู่แล้ว ปัญหาก็ควรจบแค่นั้นอย่างที่บอกไปก่อนหน้าที่ว่า ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเวรกรรมทำงานชดใช้เอง

3. มีความสุขโชว์ซะเลย

มูฟออน! ที่เขาว่ากันว่า วิธีแก้แค้นที่ดีที่สุดคือการใช้ชีวิตของเราอย่างมีความสุขก็เพียงพอ อย่าปล่อยให้เงาแค้นจากอดีตมากัดกินใจเราในวันนี้ เพราะจะเสียเวลาแฮปปี้ไปเปล่า ๆ ค่ะ ทุกนาทีมีค่าต่อการสร้างชีวิตให้ดี ลองคิดดูนะคะ ถ้าเรามัวแต่จมกับความแค้น จนเสียเวลาแต่ละวัน แต่ละเดือนแต่ละปีไป คงไม่ต้องทำอะไรอย่างอื่นแล้วแน่ ๆ เพราะฉะนั้นขอย้ำอีกทีว่า การแก้แค้นที่ดีที่สุดก็คือการใช้ชีวิตของเราต่อไปอย่างมีความสุข

4. สร้างบุญคุณต่อเขาแทน

เมื่อถึงวันที่คนที่เคยทำให้เราแค้นหรือทำไม่ดีต่อ ได้รับผลกรรมของเขาเอง วันที่เขาตกทุกข์ได้ยากเราลองยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือดูสิ เป็นรแก้แค้นที่เจ็บแสบมากเลยนะ เพราะบางทีเขาอาจอยู่ในจุดที่ไม่สามารถปฏิเสธความช่วยเหลือจากเราได้ ก็ต้องวางอีโก้และความเกลียดชังลง ยินยอมรับความช่วยเหลือจากเราแบบจำใจ ยอมเสียหน้าเพื่อเอาตัวรอด ส่วนเราก็อาจจะรู้สึกสะใจลึก ๆ ที่กลายเป็นผู้ที่อยู่เหนือกว่า แต่ในที่สุดวันหนึ่งเราจะรู้สึกดีที่ได้ช่วยเหลือ อาจจะเปลี่ยนมุมมองทั้งเราทั้งเขาให้กลายมาเป็นมิตรกันก็ได้นะ เปลี่ยนศัตรูมาสู่ความเป็นเพื่อนแทน

5. ใช้กฎเข้าจัดการ

ท้ายที่สุดแล้ว หากไม่สามารถปล่อยไปได้ก็ต้องทำอะไรสักอย่าง เรื่องบางเรื่องไม่จำเป็นต้องลงมือแก้ไขหรือแก้แค้นเอง แต่ปล่อยให้เป็นไปตามกฎ ทั้งกฎหมายและกฎของธรรมชาติ หากในที่สุดแล้วไม่สามารถปล่อยคนทำผิดไปได้จริง ๆ ก็ใช้อาวุธที่ถูกต้องแก้ไขแทน กฎหมายคืออาวุธที่เป็นไปอย่างชอบธรรมที่จะเอาผิดได้ ก็ลองดูค่ะ ส่วนกฎธรรมชาติก็คือกฎแห่งกรรมที่ย้ำอยู่เสมอ ใครที่ทำเรื่องไม่ดีต่อคนอื่น ในใจเขาจะเต็มไปด้วยความร้อนรนอยู่อย่างนั้น ส่วนเราที่ตกเป็นเหยื่อ ก็ปล่อยให้กฎเหล่านั้นทำงานไป อย่าพยายามหยิบไฟมาสุมตัวเองดีกว่า ไม่ต้องไปแก้แค้นเอง แต่ควรใช้กฎที่วางไว้จัดการแทนดีที่สุด

@@@@@@@

เราไม่สามารถห้ามคนอื่นได้ แต่เราห้ามตัวเองได้ เข้าใจว่าทุกคนเคยผ่านความเจ็บปวดมา แต่ถ้าอยากจะเอาคืนโดยที่ปราศจากมลทิน ก็ต้องเริ่มที่ตัวเราเองเช่นกัน ไม่ต้องเป็น 'มิสซิสสร' เองก็ได้ ยังไงก็อย่าลืมดูแลความรู้สึกตัวเองกันด้วยนะคะ




ขอบคุณ : https://today.line.me/th/v2/article/72G8vZ (https://today.line.me/th/v2/article/72G8vZ)
LINE TODAY ORIGINAL ,เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • nawa.