หัวข้อ: ทำไมทำทานมามากมาย ก็ไม่บรรลุมรรคผลเสียที เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2011, 11:51:34 am (http://hilight.kapook.com/imghilight1/1_1050.jpg) ทำไมทำทานมามากมายก็ไม่บรรลุมรรคผลเสียที เช้านี้ผมมีโอกาสได้ฟังธรรมจากท่านจิตโต(พระอาจารย์สมปอง) ช่วยทำให้คลายข้อสงสัยว่า ทำไมทั้งที่เราเวียนว่ายตายเกิด ได้มีโอกาสทำทานใหญ่ๆมานับชาติไม่ถ้วน แต่ทำไมผลของทานยังไม่สามารถช่วยให้เราบรรลุธรรมได้ มีอะไรที่เราควรทำแต่ยังไม่ได้ทำหรือ ผมจึงสรุปมาให้เพื่อนๆได้มีโอกาสอ่านทบทวนครับ หากมีอะไรผิดพลาดขออภัยในความรู้อันน้อยของผมด้วย สาเหตุหลักคือขณะที่เราตัดสินใจทำทานนั้น เราทำด้วยกำลังใจที่ยังไม่เต็ม(ทานบารมียังบกพร่อง) เพราะรีบทำเกินไปขณะที่จิตยังไม่ได้ทบทวนศีล(ขาดศีลบารมี) ทำให้จิตไม่สงบตั้งมั่นเป็นสมาธิ(เนกขัมมะบารมี) นิวรณ์จึงยังกวนใจให้ฟุ้งซ่านอยู่ ผลก็คือ -->จิตยังไม่ได้ถามตัวเองว่าทำทานครั้งนี้เพื่ออะไร จิตจึงยังไม่เกิดปัญญา ที่จะเห็นประโยชน์สูงสุดของการทำทานครั้งนั้นๆว่าชีวิตนี้ไม่เที่ยงควรรีบทำความดี สละของที่แท้จริงมิใช่ของเรา ให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมเถอะ จะได้หมดห่วง ตายเมื่อไรก็ไปพระนิพพานไม่มีอะไรคาใจอีก ของที่ตัดสินใจให้จะถึงผู้รับหรือไม่อย่างไรก็ไม่กังวลแล้ว(ขาดปัญญา เมตตา อุเบกขาบารมี)จึงทำให้ -->จิตขาดการตั้งความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะทำทาน(ขาดอธิษฐานบารมี) เพื่อให้เป็นผลตามปัญญาที่เล็งเห็นจึงทำให้ -->ขาดความเพียร(ขาดวิริยะบารมี),ไม่อดทน(ขาดขันติบารมี) ที่จะทำทานให้สำเร็จเสร็จสิ้นจึงทำให้ -->มักจะเสียสัจจะในการทำทานให้สำเร็จ(ขาดสัจจะบารมี) ล้มเลิกแผนงานกลางคัน หรือไม่ก็ทำไปแล้วยังเกิดรู้สึกเสียดายทีหลัง จิตยังติดกับของที่ให้ไป(ขาดอุเบกขาบารมี) (http://www.trueplookpanya.com/data/product/media/4MENU/pic4menu/sangkatan.gif) สรุปก็คือ ด้วยความรีบร้อนรีบตัดสินใจทำทานเกินไปในขณะที่ศีลและสมาธิยังไม่ทรงตัว จิตจึงยังไม่ได้ใคร่ครวญจนเกิดปัญญาว่าทำไปเพื่อประโยชน์อะไร ทำให้การทำทานแต่ละครั้งที่เราทำมานับครั้งนับชาติไม่ถ้วนไม่ได้สะสมให้ปัญญาบารมีและบารมีด้านอื่นๆเต็ม ผลที่ต้องการคือการบรรลุธรรม จบกิจในพระศาสนาจึงเกิดขึ้นไม่ได้เพราะเราสร้างเหตุไม่ครบ(บารมี10เราไม่เต็ม) การที่บารมีเราไม่เต็มจึงไม่ได้เกิดจากเราให้น้อย แต่เกิดจากเราให้โดยไม่มีปัญญาไม่คิดให้แจ้งแทงให้ทะลุ อย่างนี้ต่อให้เราให้ไปจนหมดตัว หรือให้ทานไปอีกกี่ร้อยชาติก็ไม่บรรลุ วิธีแก้ไขคือต้องมีวินัยฝึกวางอารมณ์ใจก่อนให้ทาน ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้อาจจะไม่ตรงเป๊ะกับที่พระอาจารย์ท่านสอน และยังมีเนื้อหาดีๆที่ท่านสอนอีกมากที่ผมจำได้ไม่หมด จึงแนะนำให้เข้าฟังไฟล์เสียงที่ดีมากของพระอาจารย์ได้ที่ http://tamma.homeip.net/ (http://tamma.homeip.net/) ธรรมะท่านจิตโต 01-มกราคม พ.ศ.2548 ที่มา http://board.palungjit.com/f14/ (http://board.palungjit.com/f14/)ทำไมทำทานมามากมายก็ไม่บรรลุมรรคผลเสียที-127816.html หัวข้อ: Re: ทำไมทำทานมามากมาย ก็ไม่บรรลุมรรคผลเสียที เริ่มหัวข้อโดย: poepun ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2011, 10:13:48 pm การทำทาน ที่ขาดอุปการะ ทางธรรม
1.อาบน้ำโคลน ทำทานนี้เพราะเพียงเพื่อ สิ่งตอบแทนเป็นรูปธรรม เช่น อยากถูกหวย อยากดวงดี เป็นต้น 2.อาบน้ำหอม ทำทานนี้เพราะชื่อเสียง คือ โลกธรรมฝ่ายบวก เช่น ต้องการให้เขาสรรเสริญ ว่าเป็นคนใจบุญ เป็นต้น 3.อาบน้ำสะอาด ทำทานด้วยความรู้สึกว่าทานนี้เพื่อการสละกิเลส ผมเคยไปนั่งฟังพระอาจารย์สนธยา ที่ลานวัดในวันปริวาส เมื่อปีที่แล้วท่านพูดการทำทาน 8 อย่าง ผมฟังแล้วปลื้มมาก ๆ ครับ โดยเฉพาะการทำทานข้อสุดท้าย คือการทำทาน ที่เว้นว่างจากเรา จากของเรา จากตัว จากตนของเรา ( เสียดายปีนี้ไม่ได้ฟังท่านพูดอีก เห็นว่าไม่ได้มา ) ฟังแต่เรื่องเรียไรบอกบุญ จริง ๆ ครับ ปีนี้ :25: :25: :25: หัวข้อ: Re: ทำไมทำทานมามากมาย ก็ไม่บรรลุมรรคผลเสียที เริ่มหัวข้อโดย: ครูนภา ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2011, 07:21:17 am ทานที่ไม่มีผล ใหญ่ และ อานิสงค์ ใหญ่ นั้นเกิดจาก
ทาน ที่ให้ไม่บริสุทธิ์ ทั้งฝ่ายผู้ให้ และ ฝ่ายผู้รับ คะ :25: |