สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ ธันวาคม 03, 2021, 09:53:27 am



หัวข้อ: เจาะเวลาหาอดีตผ่าน 'สุโขทัย' เชื่อมโยงความยิ่งใหญ่ของ 'พระเจ้าอโศกมหาราช'
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ธันวาคม 03, 2021, 09:53:27 am

(https://static.naewna.com/uploads/news/source/619500.jpg)


เจาะเวลาหาอดีตผ่าน 'สุโขทัย' เชื่อมโยงความยิ่งใหญ่ของ 'พระเจ้าอโศกมหาราช'

เนื่องในโอกาส 1 ธันวาคม “วันดำรงราชานุภาพ” องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ทีมข่าว “แนวหน้า ออนไลน์” ขอน้อมนำพระนิพนธ์ของท่านเพื่อเชิดชูเกียรติประวัติของ“สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ” ซึ่งเป็นองค์ต้นราชสกุลดิศกุล และ เป็นผู้ลิขิตอักษรหนังสือประวัติศาสตร์จำนวนมาก นับเป็นการชำระตำราประวัติศาสตร์ไทยในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่5)ให้สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน โดยใน พระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา ซึ่งมี “พระนิพนธ์อธิบายเรื่องโดยสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ” เขียนว่า “สุโขทัยเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ไทย ถือได้ว่า พระองค์ (พระเจ้าศรีอินทราทิตย์)

เป็นผู้สถาปนาโครงสร้างประวัติศาสตร์ไทยที่มีลักษณะเป็นเอกภาพ ต่อเนื่องและยาวนาน” นอกจากนี้ยังมีพระวินิจฉัยว่า “สุโขทัย” เป็นราชธานีของไทย 

ทีมข่าว “แนวหน้า ออนไลน์” ออกเดินทางไปยังจังหวัดสุโขทัย เพื่อตามรอยเทศกาล “ลอยกระทง” ที่จังหวัดสุโขทัยซึ่งเป็นต้นฉบับเทศกาลลอยกระทง โดยในประวัติศาสตร์เรียกว่า “ลอยพระประทีป” หรือ “ลอยโคม” โดยมีนางนพมาศ หรือ ท้าวศรีจุฬาลักษณ์ สนมเอกของพระร่วงได้ดัดแปลงการลอยโคมมาเป็นการลอย “กระทงดอกบัว” เพื่อสักการะรอยพระพุทธบาทที่แม่น้ำนัมมทานที แคว้นทักขิณา ประเทศอินเดีย


(https://static.naewna.com/uploads/files2017/images/11895.jpg)

การสานต่องานลอยกระทงที่ จ.สุโขทัย จึงมีให้เห็นอยู่ทุกพื้นที่ โดยที่วัดวังทอง (ธัมฺมธโร) ต.กกแรต อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย เป็นหนึ่งในวัดสาขาของวัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ ก็ได้มีการจัดงานลอยกระทงขึ้น โดยมีพุทธศาสนิกชนร่วมกันสืบสานงานเทศกาลลอยกระทงในแบบฉบับของสุโขทัย ซึ่งในพื้นที่ ต.กกแรต นั้น “วัดวังทองฯ” นับเป็นสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาแห่งที่ 5 ในพื้นที่กกแรต รองจากวัดกกแรต, วัดปรักรัก และ วัดสิงห์ทอง รวมทั้งศาลพระแม่ย่า ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของคนในพื้นที่

งานลอยกระทงตามความเชื่อของชาวเหนือและพม่านั้น เชื่อว่าลอยกระทงเพื่อบูชาพระอุปคุตต์ หรือ พระบัวเข็ม ซึ่งเป็นพระอรหันต์เถระสมัยหลังพุทธกาล มีบทบาทเข้ามาเผยแพร่พระพุทธศาสนาในแถบไทยและพม่า โดยประวัติพระอุปคุตต์นั้นเกิดขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ที่ทรงมีพระราชศรัทธาในพระพุทธศาสนา โปรดให้สร้างพระสถูปเจดีย์และพุทธวิหารขึ้นทั่วชมพูทวีป โดยพุทธวิหารที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คือ “อโศการาม” อยู่ในแคว้นมคธ มีพระสถูปเจดีย์ 84,000 องค์ และ พระเจ้าอโศกมหาราชทรงนำพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบรรจุในพระสถูปทั้งหมด และ สร้างพระมหาสถูปที่มีความสูงประมาณครึ่งโยชน์ประดับประดาด้วยแก้วต่างๆ อยู่ริมฝั่งแม่น้ำคงคาปาฏลีบุตร โดยพระเจ้าอโศกมหาราชได้จัดให้มีการเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่เป็นเวลา 7 เดือน 7 ปี 7 วัน แต่คาดการณ์ว่าพญามารจะเข้ามาทำลายพิธีนี้ ซึ่งก็เกิดขึ้นจริง จึงได้นิมนต์พระอุปคุตซึ่งจำศีลอยู่กลางสะดือทะเลมาปราบพญามาร เมื่อพญามารสำนึกตัวและได้ยึดพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งแล้ว พระอุปคุตก็ลงไปจำศีลอยู่ที่สะดือทะเลเหมือนเดิม

(https://static.naewna.com/uploads/files2017/images/11897.jpg)

ประวัติศาสตร์ในครั้งพระเจ้าอโศกมหาราช ทำให้ศิษย์ยานุศิษย์ของท่านพ่อลี วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ เดินทางไปยังวัดวังทองฯ เพื่อลอยกระทรงบูชารอยพระบาทพระพุทธเจ้า และ บูชาพระอุปคุต รำลึกถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ซึ่งเชื่อมโยงกับประวัติการสร้างวัดอโศการามในประเทศไทย โดย “พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์” หรือ ท่านพ่อลี ธมฺมธโร ได้รับแรงบันดาลใจ “ตั้งแต่ครั้งท่านจำพรรษาอยู่ที่ตำบลสารนาถ เมืองพาราณสี ประเทศอินเดีย และ ท่านประสงค์จะให้เป็นอนุสรณ์ระลึกถึงคุณของพระเจ้าอโศกมหาราช กษัตริย์ของอินเดียที่ได้เผยแพร่งานพระพุทธศาสนามายังแถบเอเชีย ด้วยเหตุนี้เมื่อครั้งสร้างวัดอโศการามใหม่ๆ จึงมีพ่อแม่ครูอาจารย์ฯทั่วประเทศมาร่วมสร้าง หนึ่งในนั้นคือ สมเด็จพระญาณวชิโรดม (พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร) 

เมื่อลอยกระทงเรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางต่อมายัง “วัดศรีชุม” ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย มากราบสักการะบูชา “พระอจนะ” พระพุทธรูปปางมารวิชัยซึ่งเป็นพระประธานของวัดศรีชุม โดยวัดนี้เป็นสถานที่พบศิลาจารึกหลักที่ 2 เรียกว่า ศิลาจารึกวัดศรีชุม บอกเล่าความเป็นมาของราชวงศ์พระร่วง , ราชวงศ์ผาเมือง และ การตั้งเมืองสุโขทัย รวมทั้งพบแผ่นหินแกะที่มาจากเจดีย์วัดมหาธาตุจารึกรูปบุคคลและอาคารในสมัยสุโขทัย นอกจากนี้ยังมีต้นมะม่วงป่าอายุกว่า 200 ปี ให้ชื่นชม สมดั่งคำนิยามที่พบในศิลาจารึกหลักที่ 1สะท้อนให้เห็นการบริหารงานด้านเศรษฐกิจที่มีความเป็นเสรีประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขตั้งแต่ครั้งสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช โดยทรงมีพระราชวิเทโศบายว่า “...ใครจักใคร่ค้าช้างค้า ใครจักใคร่ค้าม้าค้า ใครจักใคร่ค้าเงินค้า ทองค้า” รวมทั้งประโยค “...เมืองสุโขทัยนี้ดี ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว...” ประชาชนประกอบอาชีพเกษตรกรรมด้วยระบบเกษตรกรรมแบบยังชีพ และ ส่งออกเครื่องถ้วยชามสังคโลก...”


(https://static.naewna.com/uploads/files2017/images/11898.jpg)

ประวัติศาสตร์ของอาณาจักรสุโขทัย สะท้อนให้เห็นรากความเป็นชาติไทย ซึ่งยาวนานกว่า 700 ปี ผ่านโบราณสถานหลายแห่งที่สะท้อนให้เห็นความเป็นมาของ “ชาติไทย” และ พระพุทธศาสนา ดั่งพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ ล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ในหนังสือ “เที่ยวเมืองพระร่วง” เมื่อพุทธศักราช 2451 ที่ทรงมีพระราชวินิจฉัยว่า “สุโขทัยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรไทย และ สุโขทัยในเวลานั้นคงจะเป็นเมืองหลวงแห่งคณะไทยฝ่ายเหนือ”

คำว่า “สุโขทัย” ในประวัติศาสตร์เขียนว่า “ศุโขทัย” ต่อมาเขียนเป็น “สุโขทัย” ซึ่งเป็นการผสมคำ 2 คำคือ “สุข และ อุทัย” หมายถึง รุ่งอรุณแห่งความสุข จึงยังโดดเด่นและแจ่มชัดให้อนุชนรุ่นหลังได้รำลึกถึงประวัติศาสตร์ “ชาติไทย” ผ่านจังหวัดสุโขทัย


(https://static.naewna.com/uploads/files2017/images/11899.jpg)

(หมายเหตุ : วัดวังทองธัมมธโร จ.สุโขทัย สาขาวัดอโศการาม ซึ่งเป็นวัดร้างกว่า 700 ปี ขอเชิญพุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วมบุญร่วมใจสร้าง “ศาลาท่านพ่อลี ธมฺมธโร” (ลูกศิษย์ร่วมใจสร้างถวาย) ซึ่งศาลาแห่งนี้จะเป็นศาลาการเปรียญ เพื่อประโยชน์สำหรับพุทธบริษัท 4 ใช้เป็นสถานที่ทำวัตร สวดมนต์ เจริญจิตภาวนาและศาสนกิจต่างๆ โดยร่วมบุญได้ด้วยการโอนปัจจัยผ่านบัญชี ธ.กสิกรไทย สาขาบางเมฆขาว, บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 070-8-54459-0, ชื่อบัญชี พระมหาสามเรือน โดดสู้ และ นส.แก้วตา เตชะประเสริฐ และ นส.นงลักษณ์ นิลขำ สอบถามเพิ่มเติมและรับของที่ระลึกพร้อมใบอนุโมทนาได้ที่ 081-148-9285 LINE ID @014ynqoi ชื่อ ลูกศิษย์ท่านพ่อลี
 
รวมทั้งติดตามรับฟังข่าวสารและธรรมเทศนาของพ่อแม่ครูอาจารย์ฯได้ที่เพจ : ลูกศิษย์ท่านพ่อลี ธัมมธโร วัดอโศการาม https://web.facebook.com/watasokaram.org (https://web.facebook.com/watasokaram.org) โดยทุกวันอาทิตย์ จะมีพ่อแม่ครูอาจารย์ฯทั่วประเทศเมตตามาบรรยายธรรมเทศนาที่วัดอโศการาม)


(https://static.naewna.com/uploads/news/gallery/source/569977.jpg)

(https://static.naewna.com/uploads/news/gallery/source/569978.jpg)

(https://static.naewna.com/uploads/news/gallery/source/569976.jpg)

(https://static.naewna.com/uploads/news/gallery/source/569972.jpg)

(https://static.naewna.com/uploads/news/gallery/source/570020.jpg)

(https://static.naewna.com/uploads/news/gallery/source/570021.jpg)




ขอบคุณ : https://www.naewna.com/likesara/619500 (https://www.naewna.com/likesara/619500)
ข่าว Like สาระ ,วันพุธ ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2564, 18.05 น.