หัวข้อ: นมัสการ'พระธาตุนาป่าแซง' กราบสรีระ'หลวงพ่อศรีทา' เกจิดังอำนาจเจริญ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ธันวาคม 21, 2021, 08:27:42 am (https://static.naewna.com/uploads/news/source/623144.jpg) นมัสการ'พระธาตุนาป่าแซง' กราบสรีระ'หลวงพ่อศรีทา' เกจิดังอำนาจเจริญ วัดสุทธิกาวาส ตั้งอยู่บ้านวินัย ต.นาป่าแซง อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ โดยรถยนต์ออกจากตัวเมืองอำนาจเจริญ ด้านทิศตะวันออกไปตามถนนอรุณประเสริฐ ประมาณ 27 กิโลเมตร ถึงบ้านสามแยกชมพู เลี้ยวขวาเข้าถนนสายรองอีก 6 กิโลเมตร ถึงบ้านวินัยจะพบเห็นพระธาตุลักษณะคล้ายพระธาตุพนม สูงเด่นชัดเจน ความสูง 30 เมตร นามว่า “พระธาตุนาป่าแซง“ ตั้งอยู่ภายในวัดสุทธิกาวาส บนเนื้อที่ 30 ไร่ มีพระสงฆ์ 5 รูป สามาเณร 1 รูป แม่ชีไม่มี มัคนายก 1 คน สังกัด มหานิกาย เป็นวัดเก่าแก่ มีเจ้าอาวาสผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปแล้วหลายรูป (https://static.naewna.com/uploads/files2017/images/100_2640.jpg) ที่โดดเด่นและน่าอัศจรรย์ ซึ่งพุทธศาสนิกชนนับถือศรัทธามาก คือ ภายในวิหารหลังใหม่ ด้านทิศใต้ของวัด จะพบเห็นโลงแก้วบรรจุสังขาร พระครูสุทธิ พัฒนาภรณ์ หรือหลวงพ่อศรีทา ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดองค์ก่อน ซึ่งมรณภาพผ่านไป 15 ปี อยู่ในสภาพห่มจีวร ไม่เน่า ไม่เปื่อย เส้นผม เล็บมือ เล็บเท้า ยังอยู่ครบ เป็นปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ ที่แปลกยิ่งนัก (https://static.naewna.com/uploads/files2017/images/100_2658.jpg) ซึ่งโลงแก้วหลวงพ่อศรีทา ยกสูงจากพื้นดินประมาณ 1 เมตร พร้อมรูปถ่ายอยู่ด้านหน้า มีกระถางธูปเทียน สำหรับพุทธศาสกนิชนไว้จุดกราบไหว้บูชา และตู้รับบริจาคตั้งอยู่ข้างๆ และหลวงพ่อศรีทานั่งสมาธิละสังขารขณะมีอายุ 70 ปี ส่วนวิหารหลังเก่า ซึ่งเคยเป็นที่เก็บสรีระหลวงพ่อศรีทา และห้องใต้ดิน ซึ่งเป็นที่หลวงพ่อศรีทา จำพรรษา 3 เดือน ครั้งสุดท้ายก่อนจะละสังขารในห้องใต้ดิน ซึ่งทางวัดปิด ไม่ให้เข้าชม (http://[url=https://static.naewna.com/uploads/files2017/images/100_2659.jpg]https://static.naewna.com/uploads/files2017/images/100_2659.jpg[/url]) สำหรับ พระครูสุทธิ พัฒนาภรณ์ หรือ หลวงพ่อศรีทา เป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้เดินธุดงค์ไปทั่วภาคอีสาน และข้ามไปฝั่งประเทศลาว จำพรรษาที่ถ้ำแกลบอยู่ 10 ปี ต่อมา ชาวบ้านวินัยนิมนต์กลับวัดบ้านเกิดจนกระทั่งอายุ 70 ปี ท่านได้ละสังขาร เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2549 ขณะนั่งสมาธิที่ห้องใต้ดิน พุทธศาสนิกชน จึงอัญเชิญเก็บไว้ในโลงแก้ว รวมเวลา 15 ปี 6 เดือน สภาพไม่เน่าเปื่อย ผิวหนังแห้ง เส้นผม เล็บมือ เล็บเท้า ยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง เมื่อพุทธศาสนิกชนทราบ จึงเดินทางเข้ามาดูให้เห็นกับตา พร้อมกราบไหว้ด้วยความศรัทธาทุกวัน (https://static.naewna.com/uploads/files2017/images/100_2648(1).jpg) ส่วน พระธาตุนาป่าแซง เกิดจากแรงศรัทธาของประชาชนชาวอำนาจเจริญ ร่วมกันสร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ.2518 ซึ่งเป็นปีเดียวกับองค์พระธาตุพนม จ.นครพนมล่ม จึงได้นำเอาอิฐหินปูนจากพระธาตุพนมที่ล่ม มาผสมก่อสร้างเป็นพระธาตุนาป่าแซง ลักษณะรูปทรงจึงคล้ายกับพระธาตุพนมองค์จริง และได้มีการต่อเติมอยู่ตลอดเวลา จนเสร็จสมบูรณ์อย่างที่เห็นในปัจจุบัน เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาและเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาว จ.อำนาจเจริญและจังหวัดใกล้เคียง ที่สำคัญ ทุกวันพระพุทธศาสนิกชน จะมีการเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุนาป่าแซง อีกด้วย (https://static.naewna.com/uploads/files2017/images/100_2655.jpg) สำหรับบริเวณป่าด้านทิศตะวันออกของวัด กันพื้นที่ไว้ 1 ไร่ ทำเป็นสวน 12 นักษัตร ภายในมีรูปปั้นสัตว์ 12 ราศี ได้แก่ ชวด ฉลู ขาล เถาะ มะโรง มะเส็ง มะเมีย มะแม วอก ระกา จอ กุน เป็นต้น ซึ่งช่วงหลังปีใหม่จะมีการจัดงานเข้าปริวาสกรรมเป็นประจำทุกปี ทั้งนี้ ผู้ที่มาร่วมงานจะเข้าไปในราศีเกิดของแต่ละคน แล้วปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิตามกำหนด เชื่อว่า จะได้กุศลแรง ภายในสัตว์ราศีเกิดจะมีห้องปฏิบัติธรรม และห้องน้ำพร้อมสรรพ ที่ผ่านมา มีผู้สนใจเข้ามาร่วมงานปฏิบัติธรรมตามราศีเกิดเป็นจำนวนมาก สร้างชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ จนได้รับใบประกาศเกียรติคุณ วัดพัฒนาตัวอย่างปี 38 และเป็นอุทยานการศึกษาในวัด เมื่อปี 2541 ทว่า ปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID 19) จึงต้องงดการเข้าไปนั่งปฏิบัติธรรมที่รูปปั้นสัตว์ 12 ราศี จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย @@@@@@@ ทั้งนี้ วัดสุทธิกาวาส ที่ผ่านมาได้ฝึกพุทธศาสนิกชนนั่งสมาธิกรรมฐาน โดย ยึดหลักตามคำสอนของพุทธศาสนาและ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งพระพุทธองค์ทรงเผยทางสว่างไว้ว่า ให้ควบคุมจิตให้มั่นคงอยู่ในฌาน(ฌานคืออารมณ์ชิน) ให้ได้ทุกขณะ วิธีฝึกปฏิบัติคือ ต้องระลึกไว้เสมอว่า เราจะเจริญภาวนาด้วย พุทโธ เริ่มที่ให้นึกถึงพระพุทธรูปองค์ใดก็ได้ที่เราศรัทธา แล้วสมาธิภาวนาทุกวันจนเคยชิน จะเกิดฌานขึ้น ควรทำวันละ ประมาณ 10 -20 นาที ถ้าทำได้สม่ำเสมอ ถึงแม้จะเคยมีกรรมไม่ดีติดตัวมาบ้างก็จะพ้นนรก ใครที่ฝึกฌานมาโดยตลอดนั้น สามารถใช้ฌานเข้ามากั้นไม่ให้นึกถึงบาปได้ ก่อนตายแทนที่จะระลึกนึกถึงแต่เรื่องบาป จะมีแต่ภาพแห่งบุญเข้ามาแทน ทำให้อารมณ์มีแต่ความสุขความปิติ การฝึกเจริญกรรมฐาน โดยกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก เวลาหายใจเข้าให้รู้ว่าหายใจเข้า เวลาหายใจออกให้รู้ว่าหายใจออก ควรฝึกภาวนาไม่ได้จำกัดว่า ใครจะภาวนาว่าอย่างไร ตามแต่ถนัด แต่ก่อนภาวนาให้นึกถึงพระพุทธองค์ ถือเป็นพุทธานุสสติ เวลาภาวนาจะใช้เวลาไหนก็ได้ตามสมควร ถ้าเวลาอื่นไม่ว่าง ก่อนหัวถึงหมอนให้ภาวนาพุทโธทันที นึกถึงภาพพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งที่เราชอบคิดว่าองค์นี้คือพระพุทธเจ้า แล้วก็ภาวนา อาจจะภาวนา พุทโธ หายใจเข้านึกว่า พุท หายในออกนึกว่า โธ สัก 2 -3 ครั้งก็ได้ มากก็ได้ น้อยก็ได้ แล้วหลับไป พอตื่นขึ้นมาใหม่ๆ ก็นึกถึงพระพุทธองค์ แล้วก็ภาวนาว่า พุทโธ ช้ำอีก ทำอย่างนี้ทุกวัน จนวันไหน ถ้าไม่ได้ทำ วันนั้นจะรู้สึกว่าขาดอะไรไปในชีวิต ทำเป็นประจำจนเคยชินอย่างนั้นเรียกว่า ทรงฌานในพุทธานุสสติกรรมฐาน แม้ศีลมันจะขาด มันจะบกพร่องไปบ้าง ถึงยังไงก็ตาม ตายแล้วได้ไปสวรรค์แน่นอน. ขอบคุณ : https://www.naewna.com/likesara/623144 (https://www.naewna.com/likesara/623144) วันอาทิตย์ ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2564, 13.33 น. |