หัวข้อ: 5 วิธีหนี “Downward Spiral” เพราะวันดีๆ เริ่มต้นที่อารมณ์แรกของวัน เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มกราคม 02, 2022, 08:59:52 am (https://obs.line-scdn.net/0hZLiyCswRBWNUABLAKmd6NGxWCRJnZh9qdjUYDXYDXVJ9LEY8bjZWAHRXWU8qZEBhdGAeBHEIXQB6YEIxOg/w1200) 5 วิธีหนี “Downward Spiral” เพราะวันดีๆ เริ่มต้นที่อารมณ์แรกของวัน พอคิดว่า “พรุ่งนี้วันศุกร์” หัวใจที่เหี่ยวแห้งก็เบิกบาน เพราะวันทำงานสุดท้ายของสัปดาห์เป็นสัญญาณว่า อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้เราจะได้พักผ่อน หลังเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานกันมานาน แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าเมื่อไรที่ต้องพูดว่า “พรุ่งนี้วันจันทร์แล้วนะ” ความรู้สึกก็คงพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที ยังไม่ทันเริ่มวันก็รู้สึกเบื่อขึ้นมาแล้ว เมื่อนึกภาพที่ต้องกลับไปทำกิจวัตรเดิมๆ ปั่นงานกองโต ก่อนจะกลับบ้านมาด้วยความอ่อนล้า วนเวียนซ้ำๆ จนกว่าวันศุกร์จะเวียนมาอีกรอบ ไม่ใช่แค่เราที่รู้สึกทุกข์เมื่อวันจันทร์มาถึง แต่คนทั่วโลกก็รู้สึกเหมือนกัน! เรื่องนี้ยืนยันได้จากการศึกษาของนักวิจัยมหาวิทยาลัย Vermont Complex Systems Center ซึ่งใช้ Hedonometer หรือมาตรวัดความสุข มาจับคำพูดที่สื่อถึงความสุข โดยการสุ่มตัวอย่างจาก Twitter จำนวน 50 ล้านทวีตในแต่ละวัน ซึ่งนับเป็น 10% ของข้อความทั้งหมดตั้งแต่ปี 2008-2017 พวกเขาพบว่า วันจันทร์เป็นวันที่คนในโลกทวิตเตอร์พูดถึงสิ่งดีๆ น้อยที่สุด หลังจากนั้นความสุขจะไต่ระดับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วสูงสุดที่วันเสาร์ ทำให้นักวิจัยตีความว่า วันจันทร์เป็นวันที่แย่ที่สุดในรอบสัปดาห์ แล้วเราสามารถเปลี่ยนวันจันทร์แย่ๆ ให้กลายเป็นวันที่มีความสุขเหมือนเป็นวันเสาร์ได้ไหม? คำตอบคือ “ได้” ด้วยการควบคุม “อารมณ์แรกของวัน” ให้ดี ลองนึกภาพการตื่นมาด้วยใจที่ขุ่นมัวเพราะวันนี้เป็นวันจันทร์ ทั้งงานมากมายที่รอเคลียร์ ทั้งการโหยหาวันหยุดที่เพิ่งผ่านพ้น เมื่อ“อารมณ์เสีย” ตั้งแต่ลืมตาตื่น วันนั้นทั้งวันก็คงไม่มีทางใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้แน่ๆ เพราะอารมณ์ความรู้สึกของเรานั้นจะเชื่อมต่อกัน เหมือนเกลียวที่ขดเป็นก้นหอยหรือ “Emotional Spiral” โดยเกลียวอารมณ์นี้สามารถแบ่งออกได้เป็นสองขั้ว คือ “Upward Spiral” ซึ่งเป็นเกลียวอารมณ์เชิงบวกที่เริ่มจากความรู้สึกเป็นสุขหรือความพึงพอใจ (Contentment) ไปจนถึงความปีติ (Joy) ส่วนอีกขั้วหนึ่งคือเกลียวอารมณ์เชิงลบ “Downward Spiral” ซึ่งเริ่มต้นจากความเบื่อหน่าย(Boredom) สู่ความรู้สึกเศร้าโศก หวาดกลัวหรือไร้พลัง (Powerless) ซึ่งอารมณ์เชิงลบนี้พาเราดิ่งจมไปกับความรู้สึกท่วมท้น ความตึงเครียด บางครั้งอาจถึงขั้นรู้สึกสิ้นหวังได้อย่างรวดเร็ว การจมอยู่กับความคิดเชิงลบนี้เอง ที่นำไปสู่การกระทำเชิงลบ เช่น เอาแต่ตะคอกหรือด่าคนอื่น พาให้คนอื่นไม่อยากอยู่ใกล้เรา กลายเป็นคน Toxic ไม่น่าคบหา แต่ในทางตรงข้ามหากเราเริ่มต้นวันด้วยความคิดดีๆ เราจะอยู่กับความสุขตลอดทั้งวัน รวมถึงช่วยให้เรามี Productivity ที่ดีอีกด้วย เมื่อรู้อย่างนี้แล้วมาเรียนรู้วิธีหลีกเลี่ยง “Downward Spiral” กันเถอะ @@@@@@@ 1. เริ่มต้นและจบวันด้วยสิ่งที่เราชอบ หลายคนมีสิ่งที่ชอบทำ เช่น อาบน้ำอุ่นหรือดื่มชาสักแก้วในตอนเช้า แม้แต่การกอดสมาชิกในครอบครัวก่อนออกจากบ้านก็เป็นสิ่งที่เหมือนเป็นการชาร์จแบตให้ใจเราได้ ลองทำสิ่งที่ชอบให้บ่อย แล้วเราจะค่อยๆ หยุดโฟกัสอารมณ์โมโหเวลาเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน และเมื่อเรากลับบ้าน อย่าเพิ่งไปคิดถึงงานที่วันนี้เจอมา พักผ่อนใจและสมองด้วยการทำสิ่งที่ชอบอีกสักครั้ง เพื่อให้อารมณ์เชิงบวกนี้ฝังอยู่ในใจเรา อย่าปล่อยให้ความรู้สึกเชิงลบมาสะสมอยู่ในใจแล้วปั่นป่วนเช้าดีๆ ในวันพรุ่งนี้ของเรา 2. ลองมองเหตุการณ์ทั้งสองมุมมอง เวลาต้องเจอความท้าทายใหม่ๆ ในชีวิต ลองมองหาโอกาสที่ซุกซ่อนอยู่ในนั้น แม้แต่เรื่องเล็กๆอย่างการที่เราต้องตื่นเช้าทุกวัน ลองปรับมุมมองว่า นี่คือโอกาสดีที่เราจะได้เห็นความเงียบสงบของโลกก่อนความวุ่นวายจะมาเยือนเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น การปรับมุมมองจะช่วยให้เราไม่หัวเสียกับทุกเหตุการณ์จนเกิดความเครียดมากเกินไป 3. อย่าพยายามลบความรู้สึกเชิงลบไปจากใจ การไม่พาตัวเองเข้าสู่ Downward Spiral ไม่ใช่การที่ทุกคนทำแต่สิ่งที่มีความสุขจนมองข้ามความรู้สึกด้านลบไปอย่างสิ้นเชิง เราเพียงแค่ต้อง “รับรู้และเข้าใจ” ความรู้สึกเหล่านั้นว่า นี่คือส่วนหนึ่งของการเป็นมนุษย์ และความรู้สึกเชิงลบนี้ไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิตเรา หรือเป็นตัวตนทั้งหมดของเรา ให้เรามอบความเห็นอกเห็นใจให้ตัวเองบ้าง บางครั้งการที่เรารู้สึกหงุดหงิดตัวเองเวลาพยายามทำบางอย่างที่เราไม่เคยทำ เราลองหายใจลึกๆ และให้กำลังใจตัวเองอยู่เสมอว่า “สิ่งนี้มันทำยากแต่ฉันกำลังพยายาม และฉันจะทำมันให้สำเร็จได้” 4. คิดให้น้อยลง หากเราไม่สามารถหยุดคิดเรื่องแย่ๆ ที่เพิ่งเกิดขึ้นได้ ลองหันไปสนใจสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นรอบตัวเราขณะนี้ดู เราอาจจะได้เห็นสิ่งดีๆ ชวนให้เรายิ้ม เช่น ขณะนั่งรถไฟฟ้า เราอาจเห็นคนสละที่นั่งให้ผู้โดยสารที่เข้ามาใหม่ หรือถ้าเรากำลังอยู่ในที่ทำงาน เราอาจลองสร้างความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ หรือส่งสายตาให้กำลังใจเพื่อนร่วมงาน ซึ่งเราอาจได้รับกำลังใจจากเพื่อนคนนั้นกลับเช่นกัน ทำให้เรามีกำลังใจในการทำงานมากขึ้น 5. เลือกโฟกัสให้ถูกจุด แน่นอนว่า เราไม่สามารถควบคุมความคิดที่ผุดขึ้นมาในหัวตลอดเวลาได้ แต่เราสามารถควบคุมสิ่งที่เราสนใจได้ แล้วฝึกหาว่า เราจดจ่อสมาธิไปที่สิ่งใด ถ้าสิ่งที่เราจดจ่อ เป็นสิ่งไม่ดี พาให้เราเครียดตลอดเวลา หรือพาเราไปสู่ขั้นอื่นๆ ลึกขึ้นใน Downward Spiral ให้เรามองสิ่งนั้นเป็นแค่เรื่องรอง แล้วหันมาเลือกใช้สมาธิจดจ่อกับเรื่องอื่นๆ แทน แม้ว่าความคิดในแง่ลบของเราอาจมีพลังในการควบคุมการกระทำ แต่ความคิดแง่บวกของเราก็มีพลังมากเช่นเดียวกัน เช่น ถ้างานที่เราวางแผนไว้อย่างดิบดีถูกยกเลิกกะทันหัน แทนที่เราจะมัวแต่จดจ่อกับความหงุดหงิด เราลองมองว่า นี่คือโอกาสให้เราเอาเวลาไปทำสิ่งที่เรายังไม่ได้ทำดู @@@@@@@ สุดท้ายนี้ หากความรู้สึกด้านลบมันยากเกินกว่าที่เราจะรับมือด้วยตัวคนเดียว ลองมองหาคนในครอบครัว เพื่อนสนิท หรือแม้แต่การปรึกษาจิตแพทย์ เพื่อให้เราได้คำแนะนำที่ถูกต้อง รวมถึงวิธีการระบายความรู้สึกแย่ๆ นี้อย่างเหมาะสมเพื่อเลี่ยงอาการป่วยทางใจและกายที่อาจตามมาในภายหลัง หลังอ่านบทความนี้จบ อย่าลืมทำให้วันนี้จบลงด้วยความรู้สึกดีๆ และตื่นด้วยความสดใสในวันพรุ่งนี้ มามีความสุขเป็นอารมณ์แรกๆ ของวันกันเถอะ อ้างอิง :- https://bit.ly/32ljzfT https://bit.ly/3E9q173 https://bit.ly/3yKPWkE #missiontothemoon #missiontothemoonpodcast #psychology Thank to : https://today.line.me/th/v2/article/0M86yYz Mission To The Moon, เผยแพร่ 23 ธ.ค. 2564 เวลา 20.00 น. • Thanwarat Choktapra |