สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 12, 2022, 06:38:05 am



หัวข้อ: นักโบราณคดีชี้ต้นกำเนิดไก่บ้านทั่วโลก มาจากแหล่งอารยธรรมยุคหินใหม่ของไทย
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 12, 2022, 06:38:05 am
(https://ichef.bbci.co.uk/news/800/cpsprodpb/134CC/production/_125325097_roosterofredjunglefowlgettyimages.png.webp)
ไก่ป่าสีแดง (Red junglefowl) เป็นบรรพบุรุษของไก่บ้านหลากสายพันธุ์ที่คนเลี้ยงกันทุกวันนี้ ที่มาของภาพ, Getty Images


นักโบราณคดีชี้ต้นกำเนิดไก่บ้านทั่วโลก มาจากแหล่งอารยธรรมยุคหินใหม่ของไทย

ทีมนักโบราณคดีจากหลายสถาบันวิจัยในสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส เผยการค้นพบหลักฐานเก่าแก่ที่สุดที่บ่งชี้ว่า ไก่ป่าอาจถูกมนุษย์นำมาเป็นสัตว์เลี้ยงและพัฒนาสายพันธุ์จนกลายมาเป็นไก่บ้านครั้งแรก ในช่วงรอยต่อระหว่างปลายยุคหินใหม่กับยุคสำริด ระหว่าง 1,650 - 1,250 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งล่าช้ากว่าที่เคยคิดกันไว้หลายพันปี

หลักฐานดังกล่าวคือกระดูกไก่บ้านอายุเก่าแก่ 3,670 ปี ที่พบในหลุมฝังศพของแหล่งโบราณคดีบ้านโนนวัด อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา โดยหลักฐานนี้สอดคล้องกับข้อมูลที่ทราบกันอยู่เดิมแล้วว่า ไก่ป่าสีแดง (Red junglefowl) ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นบรรพบุรุษของไก่บ้านหลากสายพันธุ์ที่ผู้คนทั่วโลกเลี้ยงกันอยู่ทุกวันนี้

รายงานวิจัย 2 ชิ้น ว่าด้วยต้นกำเนิดของไก่บ้าน ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร PNAS และ Antiquity ฉบับล่าสุด หลังมีการตรวจสอบอายุของซากกระดูกไก่ที่พบตามแหล่งโบราณคดีทั่วโลก 600 แห่ง ใน 89 ประเทศเสียใหม่ ทำให้พบว่ามีการคาดคะเนอายุของกระดูกไก่โบราณจากแถบยูเรเชียตะวันตกและแอฟริกาเหนือผิดพลาด อันเป็นที่มาของความเข้าใจผิดก่อนหน้านี้ว่า ภูมิภาคดังกล่าวคือแหล่งกำเนิดของไก่บ้านที่มีอายุเก่าแก่ราว 6,000 - 10,000 ปี


(https://ichef.bbci.co.uk/news/640/cpsprodpb/15BDC/production/_125325098_redjunglefowlanddomesticchickengettyimages.png.webp)
(ซ้าย) ไก่ป่าหรือไก่เถื่อน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gallus gallus (ขวา) ไก่บ้าน หรือ Gallus gallus domesticus ที่มาของภาพ, Getty Images

ดร. โอฟีลี เลอบราสเซอร์ จากศูนย์มานุษยชีววิทยาและจีโนมิกส์แห่งนครตูลูสของฝรั่งเศส บอกว่าพบกระดูกไก่บ้านจากยุคโบราณจำนวนมากที่แหล่งโบราณคดีบ้านโนนวัด ทั้งยังพบว่าไก่เหล่านั้นถูกฝังอย่างระมัดระวังรวมกับร่างมนุษย์ในหลุมศพ โดยไม่พบร่องรอยว่ามันถูกเชือดแต่อย่างใด แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนกับไก่บ้านในเชิงพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ มากกว่าจะเป็นการเลี้ยงเพื่อนำมาเป็นอาหาร

วัฒนธรรมการฝังไก่ที่เลี้ยงไว้ในหลุมศพของมนุษย์โบราณนั้น พบในช่วงยุคสำริดและยุคเหล็กของยุโรปเช่นกัน โดยไก่ถูกมองว่าเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถนำทางวิญญาณมนุษย์ไปสู่ปรโลกได้ อย่างไรก็ตาม ความเชื่อดังกล่าวได้เสื่อมสูญไปและเริ่มมีการเลี้ยงไก่เพื่อกินเนื้อและไข่เป็นอาหาร ในยุคของจักรวรรดิโรมันโบราณ


(https://ichef.bbci.co.uk/news/800/cpsprodpb/A32C/production/_125327714_bannonwatskeletonwikimediacommons.png.webp)
โครงกระดูกที่แหล่งโบราณคดีบ้านโนนวัด หลายร่างมีไก่ฝังรวมอยู่ด้วย ที่มาของภาพ, WIKIMEDIA COMMONS

ดร. เลอบราสเซอร์ยังสันนิษฐานว่า ไก่ป่าในอดีตละทิ้งที่อยู่อาศัยบนต้นไม้ของมัน และลงมาหากินบนพื้นดินใกล้บ้านเรือนของมนุษย์มากขึ้นเรื่อย ๆ หลังเริ่มมีการทำนาปลูกข้าวแบบแห้ง (dry rice) โดยเมล็ดข้าวคือสิ่งล่อใจให้ไก่ป่าเข้าใกล้คน ก่อนจะเกิดการคัดเลือกปรับปรุงสายพันธุ์จนกลายเป็นไก่บ้าน ในทำนองเดียวกับที่สุนัขป่าบางตัวถูกคัดเลือกโดยมนุษย์และกลายมาเป็นสุนัขบ้านนั่นเอง




Thank to : https://www.bbc.com/thai/international-61734266 (https://www.bbc.com/thai/international-61734266)
9 มิถุนายน 2022