สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 15, 2022, 05:34:09 am



หัวข้อ: อนุโมทนาไม่เป็น..ได้บาป
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 15, 2022, 05:34:09 am
(https://medias.thansettakij.com/uploads/images/md/2022/03/oO1K2AG4Ch9QOab157Rb.webp)


อนุโมทนาไม่เป็น..ได้บาป

การอนุโมทนา คือ การพลอยยินดี เราอาจจะคุ้นเคยหรือเห็นอยู่เป็นประจำ เวลาที่ใครก็ตามทำบุญ เราก็จะร่วมประเด็นวาจาอนุโมทนาสาธุกับเขา การอนุโมทนาสาธุนั่นแหละ คือการพลอยยินดีในกุศลที่เขากระทำ การที่เราพลอยยินดีในกุศลให้เขากระทำนั้นตัวเราเองก็ได้รับกุศลนั้นด้วย

คนโบราณจึงบอกว่า เห็นผู้ใด ทำการบุญการกุศล หากเรายกมืออนุโมทนาสาธุ ในกุศลนั้นก็จะมาตกถึงเราด้วยเช่นคนเขาบวชพระ ขณะที่เขาเป็นนาคกำลังแห่รอบโบสถ์แล้วเราเห็นแล้วเรายกมือสาธุ เราก็ได้รับบุญนั้นด้วย พุทธศาสนาจึงเป็นศาสนาแห่งใจเน้นที่ใจเพียงอย่างเดียว ใครทำอะไรอย่างไร ในมุมของกุศลแล้วเราใช้ใจอนุโมทนาเราก็ได้บุญแล้วยิ่งถ้าเราได้ร่วมปัจจัยไทยทาน เรายิ่งได้บุญมากขึ้นไปอีก

แต่มันมีสิ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นการอนุโมทนาเหมือนกัน แต่เป็นการอนุโมทนาบาป ซึ่งหลายคนอาจจะไม่เคยได้ยิน ไม่เคยรู้มาก่อน อย่าลืมนะว่าอนุโมทนากับเรายินดี ในการหนึ่งถ้าเกิดเจ้าหน้าที่ตำรวจจับ ผู้กระทำความผิดได้ แล้วเป็นคนทำผิดที่ร้ายแรงมากเมื่อออกข่าว เราได้ดู แล้วเราบอกว่าสมน้ำหน้าสมควรโดนจับเอาไปยิงเป้า หรือ แค่เพียงสมน้ำหน้าบอกติดคุกหัวโต นี่เป็นการพลอยยินดีหรืออนุโมทนาบาปแล้ว

ดังนั้นเราควรระมัดระวัง ในการอนุโมทนา เพราะว่าถ้าเราไปอนุโมทนาบาปมากๆ บาปนั้นก็จะตกถึงตัวเราด้วยเช่นเดียวกัน พระพุทธเจ้าจึงสอนว่า กายกรรม วจีกรรม ไม่มีผลร้ายแรงเท่ามโนธรรม ดังนั้นมโนกรรมจึงส่งผลแรงและเร็วมากการอนุโมทนา เราก็ควรระมัดระวังอย่าเผลอไปอนุโมทนาบาปเข้าจะทำให้เราได้รับบาปโดยไม่รู้ตัว

 



Thank to : https://www.thansettakij.com/blogs/lifestyle/519507 (https://www.thansettakij.com/blogs/lifestyle/519507)
คอลัมน์ ทำมา ธรรมะ โดย ราชรามัญ , 31 มี.ค. 2565 เวลา 2:30 น. 3.6k