สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

กรรมฐาน มัชฌิมา => ธรรมะสัญจร => ข้อความที่เริ่มโดย: patra ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2011, 07:25:00 am



หัวข้อ: สรุปธรรมสัญจร วันที่ 20 ก.พ.2554
เริ่มหัวข้อโดย: patra ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2011, 07:25:00 am
(http://kid.madchima.org/images/Gen/spc-01_resize.jpg)ออกเดินทางกันตั้งแต่ 4.45 น. ไปทานอาหารเช้า กันที่วัดพนัญเชิง อยุธยา
เนื่องด้วยบรรยากาศในเวลา 6.00 น.เช้ามากจึงเปลี่ยนสถานที่ทานอาหารเช้าจากที่วังน้อยไปทานที่วัดพนัญเชิง ได้ชมบรรยากาศ 2 ข้างทางยามเช้าที่อยุธยา
ถึงนครปฐม พระปฐมเจดีย์ 09.10 น. ก็ปล่อยให้คณะิเดินทัศนศึกษาทำบุญ ทำประทักษิณาวัตรรอบพระเจดีย์ ก็ยังเดินกันไม่ทั่ว มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องราวที่ ปฐมเจดีย์นี้ด้วยเดี๋ยวจะทำออกเป็นตอนในอีกเรื่องหนึ่ง รอก่อน(http://kid.madchima.org/images/Gen/spc-05_resize.jpg)
(http://kid.madchima.org/images/Gen/spc-09_resize.jpg)พระประโทณเจดีย์
ออกจาก พระปฐมเจดีย์ ก็เข้าสู่ พระประโทณเจดีย์ ซึ่งมีรูปแบบเหมือนชั้นใน เจดีย์ปฐม มองจากรอบพระประโทณเจดีย์แล้ว คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจที่จะมากราบไหว้ นมัสการเพราะดูจากจำนวนคนที่ พระปฐมเจดีย์ กับที่นี่แล้ว ต่างกันมาก ๆ เพราะที่นี่เดินไม่เจอคณะอื่น ๆ เลยไม่เหมือนที่ ปฐมเจดีย์คนแน่นขนัด
บนยอดพระประโทณเจดีย์ สงสัยด้านบนบรรจุ หรือมีอะไรอยู่ในห้องนั้น ด้วยความสงสัยจึงให้อาสาสมัครจำเป็นขึ้นไปเก็บภาพด้านบนลงมาให้ชม(http://kid.madchima.org/images/Gen/spc-10_resize.jpg)
(http://kid.madchima.org/images/Gen/spc-11_resize.jpg)ฝีมือช่างภาพจำเป็น
ช่างภาพขึ้นไปไม่เป็นไร แต่ตอนลงช่างน่าเสียวไส้ เราอยู่ด้านล่างไม่รู้หรอก  พอมองจากภาพแล้วก็น่าเสียวไส้จริง ๆ นะจ๊ะเพราะทางลาดชันเป็นบันที่ต้องปีนป่าย ไม่ใช่บันไดที่เดินขึ้นลงอย่างสะดวก
ภาพนี้ต้องกล้าจริง ๆนะเพราะสูงมาก
ดูจากภาพ ก็จะรู้ดังนั้น ต้องขอบคุณในน้ำใจช่างภาพจำเป็นนี้เป็นอย่างมาก
(http://kid.madchima.org/images/Gen/spc-12_resize.jpg)
(http://kid.madchima.org/images/Gen/spc-13_resize.jpg)ได้วิวที่ถ่ายบนส่วนห้องชั้นบนสุด ของพระประโทณเจดีย์
มองลงไปแล้วใจสั่น พอสมควรสำหรับสมาชิกที่อยู่ด้านล่างก็มองด้วยความเป็นห่วง
อนุโมทนาในกุศล ที่ขึ้นไปเก็บภาพนี้มาให้ชมด้วยนะจ๊ะ
(http://kid.madchima.org/images/Gen/spc-14_resize.jpg)
(http://kid.madchima.org/images/Gen/spc-22_resize.jpg)เป็นมุมภาพที่หาได้ยากจริง ในคราวนี้
เบี้ยแก้ยักษ์วัดกลางคูเวียง
มาที่วัดกลางคูเวียง จากแยก ถนนเพชรเกษม คิดไว้ว่าประมาณ 36 กม. แต่เอาเข้าจริงเป็นความคลาดเคลื่อนที่เข้าใจผิดจากแผนที่ระยะจริงเพียง 9 กม.เท่านั้นและระยะทางห่างกัน วัดกลางคูเวียง และ วัดกลางบางแก้ว เพียง 5 กม.เองเท่านั้น สำหรับวัดกลางคูเวียง เป็นวัดที่เข้าไปแล้วเย็นเพราะมีทีุ่มุงที่บัง กันแดด และตลาดน้ำสะอาด มีต้นไม้ร่มรื่นอยู่มาก และที่สำคัญที่สุด ที่ลานจอดรถนั้นมีผ้ากันแดดให้ในลานจอดรถ สำหรับในภาพนั้นก็ถือว่าเป็น Unseen ของที่นี่ คือ เีบี้ยแก้ยักษ์
(http://kid.madchima.org/images/Gen/spc-15_resize.jpg)
(http://kid.madchima.org/images/Gen/spc-16_resize.jpg)ลูกนิมิตยักษ์วัดกลางคูเวียง เิดินปิดทองลูกนิมิต 9 วัดกันเพราะมีจำนวนลูกมากบูชาแผ่นทองตามศรัทธาเดินไปปิดลูกใหญ่ก่อน และตามด้วยลูกนิิมิต 9 วัด unseen ที่เหลือนั้นก็มี หม้อยายักษ์ หลวงพ่อเจ้าอาวาสท่านนั่งแจกยาอยู่ในห้องที่วิหารถัดจากเบี้ยแก้ มียาหม้อ ห่อละ 100 บาท เท่าที่ถามมาเช่นยาแก้โรคกระเพาะเป็นต้น
ยามบ่ายที่เจดีย์หลังอุโบสถวัดกลางบางแก้ว
จากวัดกลางคูเวียงก็เดินทางมาต่อที่วัดกลางบางแก้ว ที่นี่บรรยากาศยามบ่ายสองร้อนมาก เพราะที่วัดไม่มีที่หลบร้อนเลย มีแต่ลานปูนเดินไปก็ร้อนมาก แต่โบสถ์ที่นี่มีการประสมประสานลวดลายกระเบื้องเคลือบซึ่งจะคล้ายกับ พระปรางค์วัดอรุณ นับว่าเป็นศิลปะงดงาม คณะพากันไปเดินลอดอุโบสถเอาเคล็ดหน่อย เพราะ่่ว่าตอนที่ไปนั้นงานวัดพึ่งเสร็จลุล่วงไป 1 วัน
(http://kid.madchima.org/images/Gen/spc-17_resize.jpg)
(http://kid.madchima.org/images/Gen/spc-19_resize.jpg)บนพิิพิธภัณฑ์ชั้น 3 วัดกลางบางแก้ว ที่นี่ถือว่าเป็น Unseen ถ้าขึ้นมาถึงแล้วไม่เดินขึ้นไปบนกุฏิหลวงปู่บุญก็จะไม่ได้เห็น หุ่นขี้ผึ้งของพระสามเกจิ แน่ ๆ เพราะมองจากด้านหน้าไม่เห็น จะมีหุ่นขี้ผึ้ง หลวงปู่บุญ หลวงปู่เพิ่ม หลวงปู่เจืออยู่ ที่พิิพิธภัณฑ์นี้ต้องเสียค่าเข้าชม คนละ 20 บาท เดินลงจากพิพิธภัณฑ์แล้วก็เดินไปที่วิหารเก็บศพหลวงปู่เจือด้านล่าง ซึ่งรอวันพระราชทานเพลิงศพ แต่เดินที่นี่อากาศร้อนมากไม่มีลมโชยเลยต่างจากวัดกลางคณะไม่ได้อยู่นาน

(http://kid.madchima.org/images/Gen/spc-20_resize.jpg)
และถ่ายภาพหมู่โดยเจ้าหน้าที่ประจำงานแสดง นิทรรศกาล ธรรมเจดีย์ พุทธมณฑล
สำหรับที่นี่ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ดีมาก ๆ เพราะบรรยากาศภายในพุทธมณฑลนั้นอากาศร่มรื่นร่มเย็นมากๆ แถมจุดนิทรรศกาลนั้น ยังติดเครื่องปรับอากาศให้เดินชมนิทรรศกาลได้อย่างสบายใจ สนับสนุนใครยังไม่เคยไปนะเขาจะมีการแสดงนิทรรศกาลนี้ถึงวันที่ 20 พ.ค. 2554 เวลาที่เปิดตั้งแต่ 9.00 - 18.00 น.


หัวข้อ: Re: สรุปธรรมสัญจร วันที่ 20 ก.พ.2554
เริ่มหัวข้อโดย: patra ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2011, 09:35:24 am
(http://2.bp.blogspot.com/_8V7BkiVBhsg/S8Rd_zZQbvI/AAAAAAAAAbc/Ga3kM_8tpNU/s1600/034.jpg)

ลืมกล่าวไป 2 วัดนะงานนี้

วัดที่ไปต่อจากวัดกลางบางแก้ว ก็คือวัดไร่ขิง

(http://www.thaimtb.com/webboard/104/52184-1.jpg)

วัดนี้ไปเป็นวัดที่ 2 แต่ว่าไม่มีภาพ รอสมาชิกที่ถ่ายกันไว้โพสต์ให้ชม

ส่วนวัดดอนหวายไปถึงแล้ว พิจารณาแล้วไม่ลง เนื่องด้วยที่วัดมีการจัดงานอยู่จึงทำให้รถติดอย่างมาก


หัวข้อ: Re: สรุปธรรมสัญจร วันที่ 20 ก.พ.2554
เริ่มหัวข้อโดย: patra ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2011, 09:39:43 am
(http://www.bloggang.com/data/pmee/picture/1159559951.jpg)

ตัวอย่างภาพจิตรกรรมฝาผนัง ซึ่งปกติจะไม่ให้ถ่ายภาพนะ No photo ห้ามถ่ายภาพ

(http://www.lovesiamoldbook.com/shop/l/lovesiamoldbook/img-lib/spd_20110212222715_b.jpg)

แต่ไม่ต้องถ่ายภาพก็ได้ เพราะมีหนังสือให้ทำบุญที่วัดในราคา 500 บ.

( พระอาจารย์ทำบุญกับมา 1 เล่ม )

ส่วนท่านใดต้องการซื้อหนังสือเล่มนี้ในราคาที่ถูกกว่า 500 บ. คือ 390 บ.

ก็ต้องไปที่เว็บนี้นะครับ

http://www.lovesiamoldbook.com/product.detail_489897_th_3646884# (http://www.lovesiamoldbook.com/product.detail_489897_th_3646884#)


หัวข้อ: Re: สรุปธรรมสัญจร วันที่ 20 ก.พ.2554
เริ่มหัวข้อโดย: patra ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2011, 09:48:45 am
(http://kidmadchima.th.ht/images/79713clip107.jpg)

ส่วนภาพจิตรกรรมฝาผนัง วัดกลางบางแก้ว ก็ไปดูได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้
http://www.watkbk.com/page.php?a=1&n=215 (http://www.watkbk.com/page.php?a=1&n=215)


หัวข้อ: Re: สรุปธรรมสัญจร วันที่ 20 ก.พ.2554
เริ่มหัวข้อโดย: SAWWALUK ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2011, 02:09:47 pm
(http://kid.madchima.org/images/Gen/spc-11_resize.jpg)

ถ้าจะสูงมากนะคะ เห็นคนยืนด้านล่างตัวนิดเดียว

 :88:


หัวข้อ: Re: สรุปธรรมสัญจร วันที่ 20 ก.พ.2554
เริ่มหัวข้อโดย: ครูนภา ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2011, 02:14:25 pm
อนุโมทนาด้วยคะ ไปตั้งหลายที่ ทำไมมีภาพให้ชมน้อยจังคะ
 :25:


หัวข้อ: Re: สรุปธรรมสัญจร วันที่ 20 ก.พ.2554
เริ่มหัวข้อโดย: tcarisa ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2011, 02:16:18 pm
อยากทราบจริง ๆ คะว่า ที่พระปฐมเจดีย์ มีความเกี่ยวข้องกับ กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดัีบอย่างไรบ้างคะ
เพราะเห็นทางทีมไป ธรรมสัญจร กันที่นั่นคะ

 :25:


หัวข้อ: Re: สรุปธรรมสัญจร วันที่ 20 ก.พ.2554
เริ่มหัวข้อโดย: Namo ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2011, 02:18:13 pm
พระปฐมเจดีย์ บรรจุพระบรมสาีรีริกธาตุ ส่วนไหนคะ

พระประโทณเจดีย์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนไหนคะ

เบี้ยแก้คืออะไรคะ
 :smiley_confused1:


หัวข้อ: Re: สรุปธรรมสัญจร วันที่ 20 ก.พ.2554
เริ่มหัวข้อโดย: samapol ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2011, 09:57:57 pm
อนุโมทนา กับคณะธรรมสัญจร ด้วยครับ

พกบุญมาฝากน้อยจังครับ

 :25:


หัวข้อ: Re: สรุปธรรมสัญจร วันที่ 20 ก.พ.2554
เริ่มหัวข้อโดย: pongsatorn ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2011, 10:12:05 pm
เรียนถามสมาชิก นะครับว่า รูปแบบกิจกรรม ที่ไปมีอย่างไรครับ และมีวัตถุประสงค์อะไรครับ
ใครเป็นผู้ดำเนินกิจกรรมนี้ครับ ค่าใช้จ่ายกิจกรรมจริง ๆ เท่าไหร่ พอเปิดเผยได้หรือไม่ครับ
และกิจกรรมนี้ จะมีอีกเมื่อไหร่ครับ

อนุโมทนากุศล กับคณะด้วยครับ
 :25:


หัวข้อ: Re: สรุปธรรมสัญจร วันที่ 20 ก.พ.2554
เริ่มหัวข้อโดย: aom-jai ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2011, 10:18:12 pm
มีภาพให้ชมชื่นใจน้อยจังคะ ใครถ่ายภาพ คะ ทำไมมีภาพน้อยจัง

อนุโมทนากับ คณะที่เดินทางธรรมสัญจร ด้วยคะ

 :25:


หัวข้อ: Re: สรุปธรรมสัญจร วันที่ 20 ก.พ.2554
เริ่มหัวข้อโดย: สถาพร ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2011, 10:23:07 pm
มีภาพให้ชมชื่นใจน้อยจังคะ ใครถ่ายภาพ คะ ทำไมมีภาพน้อยจัง

อนุโมทนากับ คณะที่เดินทางธรรมสัญจร ด้วยคะ

 :25:

อนุโมทนา กับคณะธรรมสัญจร ด้วยครับ ได้พบพระอาจารย์ ผมเองยังไม่มีโอกาสได้พบเลยครับ


หัวข้อ: Re: สรุปธรรมสัญจร วันที่ 20 ก.พ.2554
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 21, 2011, 10:33:18 pm
พระปฐมเจดีย์ บรรจุพระบรมสาีรีริกธาตุ ส่วนไหนคะ

พระประโทณเจดีย์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนไหนคะ

เบี้ยแก้คืออะไรคะ
 :smiley_confused1:


ตามตำนาน พระปฐมเจดีย์ มีพระแท่นบรรทม ที่พระพุทธเจ้าเสด็จมาบรรทม บรรจุพระทันตธาตุ คือ พระเขี้ยวแก้ว องค์หนึ่ง บรรจุพระบรมธาตุ หนึ่งทะนาน บรรจุอยู่ภายใน

ที่มา  http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/ (http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/)พระปฐมเจดีย์


ส่วนพระประโทณเจดีย์ ตามตำนาน เคยบรรจุ "ทะนานทอง" ที่ใช้ตวงพระบรมสารีริกธาตุ
แต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว เข้าใจว่า "ทะนานทอง" อันนั้นไปอยู่ที่สุวรรรเจดีย์ ประเทศศรีลังกา


ที่มา http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=justic&month=06-2008&date=06&group=3&gblog=2 (http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=justic&month=06-2008&date=06&group=3&gblog=2)



(http://[url=http://fwmail.teenee.com/strange/img4/m54058.jpg]http://fwmail.teenee.com/strange/img4/m54058.jpg[/url])

เบี้ยแก้ คืออะไร ?

วันนี้ เราจะมาคุยกันถึงเรื่องเครื่องรางของขลังกันต่อเครื่องรางที่จะพูดในวันนี้ ก็คือเบี้ยแก้ เบี้ยแก้นั้นมีการสร้างมาแต่โบราณ สรรพคุณในการใช้นั้นก็ตรงกับชื่อคือใช้แก้กันได้สารพัด ใช้ป้องกันคุณไสยต่างๆ ป้องกันภูตผีปีศาจ ป้องกันไข้ป่า ป้องกันยาพิษยาสั่ง อยู่คงเขี้ยวงาทุกชนิด ป้องกันและแก้พิษจากแมลงสัตว์กัดต่อยได้ผลชะงัด

เบี้ย แก้นั้นถ้าสร้างอย่างถูกวิธีนั้น กรรมวิธีการสร้างยากมาก เท่าที่รู้และนิยมกันมากก็ได้แก่สายของวัดกลางบางแก้ว เช่นของหลวงปู่บุญ หลวงปู่เพิ่ม ท่านอาจารย์ใบ และองค์ปัจจุบันก็คือ หลวงปู่เจือ สายวัดนายโรง ก็ของหลวงปู่รอด สายวัดนายโรงนี้ก็มี อาจารย์ทัต วัดคฤหบดี ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงปู่รอดอีกองค์หนึ่ง สายทางอ่างทองก็มีหลวงพ่อพักตร์ วัดโบสถ์ และสายลูกศิษย์ของหลวงพ่อพักตร์ ได้แก่ หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ และของวัดท่าช้าง เป็นต้น

วันนี้ เราจะมาว่ากันถึงสาย วัดกลางบางแก้ว เท่าที่สืบค้นได้นั้น หลวงปู่บุญท่านเรียนวิชาเบี้ยแก้มาจาก หลวงปู่ทอง วัดกลางบางแก้ว หลวงปู่บุญท่านสร้างเบี้ยแก้ให้แก่ศิษย์โดยท่านผู้ที่จะมาขอทำเบี้ยแก้นั้น จะต้อง นำปรอทหนัก 1 บาท ชันโรงใต้ดิน หอยเบี้ย นับให้ได้ฟัน 32 ซี่ แผ่นตะกั่ว บางรายก็หาผ้าแดงมาด้วย แล้วจึงนำสิ่งของทั้งหมดใส่ถาดพร้อมดอกไม้ธูปเทียน มาถวายหลังจากที่หลวงปู่ท่านทำอุโบสถเช้าหรือเย็นเสร็จแล้ว

หลวงปู่ จะปลุกเสกปรอทแล้วจึงบรรจุปรอทลงในหอยเบี้ย แล้วนำชันโรงมาปิดปากเบี้ย จากนั้นท่านก็บริกรรมพระเวท แล้วจึงให้นำไปหุ้มตะกั่วกับพระในวัดจนเสร็จเรียบร้อยจึงนำกลับมาให้ท่านลง อักขระอีกทีหนึ่ง และปลุกเสกเบี้ยอีกครั้งหนึ่ง แล้วจึงมอบเบี้ยให้เจ้าของนำไปถักเชือกเอาตามใจชอบ ส่วนมากก็ให้พระภายในวัดช่วยถักให้ บ้างก็ลงรัก บ้างก็ลงยางมะพลับ เพื่อให้เชือกที่ถักมีความคงทน แล้วลงคาถาอาคมเสกเบี้ยแก้ทุกลูก

(http://fwmail.teenee.com/strange/img4/m54060.jpg)

การสร้างเบี้ยแก้
เมื่อหาตัวเบี้ยมาได้แล้ว (เบี้ยพวกนี้ไม่ค่อยพบในบ้านเรา สมัยก่อนต้องหาซื้อตามร้านเครื่องยาจีน
เข้าใจว่าเบี้ยที่นำมาใช้นี้จะถูกนำเข้ามาพร้อมกับสินค้าจากประเทศจีนในอดีต.....) คณาจารย์
ผู้สร้างก็บรรจุปรอทที่ปลุกเสกแล้วเข้าไปในตัวเบี้ย แล้วหาวิธีอุดมิให้ปรอทไหลออกมาได้ (ปรอทที่ใช้
นี้เป็นปรอท หรือปรอทดินโบราณมีวิธีการจับปรอทโดยนำไข่เน่าไปทิ้งไว้ในน้ำครำไม่ช้าปรอทจะกิน
ไข่เน่าจนเต็ม)

ปรอทมีคุณสมบัติเป็นของเหลวลื่นไหลการจะนำปรอทมาบรรจุเบี้ยแก้ คณาจารย์ผู้สร้างจำต้องมีพระเวท
เข้มขลัง เพราะต้องใช้พระเวทฆ่าปรอทหรือบังคับให้ปรอทรวมตัวกันอยู่ในเบี้ยบางราย ถึงกับบริกรรมพระเวท
เรียกปรอทเข้าในตัวเบี้ยได้เอง การปิดปากเบี้ยเพื่อกันไม่ให้ปรอทไหลออกมาได้นั้นนิยมเอาชันโรงใต้ดิน
ที่ปลุกเสกแล้วมาอุดใต้ท้องเบี้ยให้สนิทเรียบร้อย แล้วจึงหุ้มด้วยวัสดุอย่างใดอย่างหนึ่ง

เช่น ผ้าแดง แผ่นตะกั่วแผ่นทองแดง วัสดุที่ใช้หุ้มหรือปิดนี้ก็ต้องลงอักขระเลขยันต์และปลุกเสกกำกับด้วย เช่นเบี้ยแก้หลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้วจะมีลวดทองแดงขดเป็นห่วง ๓ ห่วง เพื่อให้ใช้เชือกคล้องคาดเอว

เบี้ยแก้ที่ผ่านการบรรจุปรอทจนกระทั่งถักหุ้มเรียบร้อยแล้ว ก็ยังไม่ถือว่าเสร็จสิ้นขึ้นตอนกรรมวิธี
เพราะคณาจารย์เจ้าผู้สร้างท่านต้องปลุกเสกกำกับอีกจนมั่นใจว่าใช้ได้จริงๆ แล้วเล่ากันว่า คณาจารย์บางรูป
และสามารถปลุกเสกเบี้ยแก้จนตัวเบี้ยคลานได้เหมือนหอย

- ป้องกันอัตวิบากกรรม แก้ภาพหลอน จิตรหลอน ภาพอุปทาน แก้อำนาจภูผีปีศาจ อาถรรพณ์เวททำให้
มัวเมาขลาดกลัว ขนพองสยองเกล้า ลมเพลมพัด คุณไสย คุณผี คุณคนทั้งปวงอุบาทวเหตุ อุบาทวภัย
ทั้งปวง มัวเมายาพิษ ยาสั่งทั้งหลาย ไข้ป่า ไข้ป้าง ไข่ผีป่า ผีโป่ง ผีปอบ ต้องกระทำจากภูตผี ผีพราย
ผีตายโหง กองกอยวิกลจริต จิตวิกลวิกาล วิญญาณ อุปาทานวิกลเหมือนผีเข้าเจ้าสิงสู่ปราศจากสิ้นแล

- ให้อธิษฐานเอาน้ำมนต์ เอาดอกพุทธรักษาดอกไม้ ดอกเข็มแดงหลากสี ตั้งขันธูปเทียน ขันห้า
ข้าวตอก ดอกไม้แก้บาทวพิษ บาทยัก อัมพาต บาดแผล ฝีมะเร็ง ฝีคุณ หัวพิษ หัวกาฬ ทรางชัก
รางขนพอง สันนิบาตลูกหมา ลูกนก หลังแอ่น คางแข็ง บ้าหมู ภายนอกภายใน อาบกินด้วย ตั้งจิตหน่วงลง
ในคุณพระศรีรัตนตรัยใช้ได้แล

- เมื่อเข้าศึกสงครามให้เอาไว้ด้านหน้าสารพัดศัตรู บีทาย่ำรุกไล่ให้เอาไว้ด้านหลัง หาเจ้าฟ้ามหากษัตริย์
เจ้าขุนมูลนาย ให้เอาไว้ด้านข้างขวา เมื่อหาหญิง หานางพญาไว้ข้างซ้าย สารพัดศาสตรามิต้องข้างกายเลย
ดุจฝนเสนห่า ข้าวปลาอาหารเป็นพิษ คางแข็ง เคี้ยวไม่กลืนเลยแล

- ปลิงก็ดี ทากร้ายก็ดี มีในป่ามืด ในน้ำห้วยหนอง คลองบึง มันไม่เก่าะกินเลือดทั้งวัวทั้งควาย ช้างม้า
ก็ดีแล แก้งูพิษ เขี้ยวขนอน แมวเซา เห่าแก้วก็ดีมิต้องกายมาขบกัดเลยแล

ที่มา  http://fwmail.teenee.com/strange/6764.html (http://fwmail.teenee.com/strange/6764.html)


หัวข้อ: Re: สรุปธรรมสัญจร วันที่ 20 ก.พ.2554
เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2011, 02:19:35 am
(http://www.baanjomyut.com/library/10buddha/mahachanoke.jpg)

ธรรมสัญจรคราวนี้ล้วนศิษย์ใกล้ชิดติดตามไปด้วยทั้งสิ้น ซึ่งก็คงตัดสินใจขึ้นรถอันมีพระอาจารย์เป็นสารถีขับเคลื่อนมุ่งสู่อมฤตมหานิพพานเป็นแน่

ผม (ธรรมธวัช) เพียงผู้เดียวมิได้ไปด้วย และก็รู้สึกเสียดายที่ไม่มีโอกาสไปกราบพระปฐมเจดีย์ เพราะในชีวิตนี้ยังไม่เคยได้ไปสักครั้ง คิดว่านี่คงเป็นการแสดงนิมิตอะไรบางอย่างว่า ผมคงเป็นศิษย์เพียงผู้เดียวที่ไม่ขึ้นรถคันนี้เหตุเพราะผมยังปรารถนาพุทธภูมิอยู่อย่างแข็งกร้าว

แต่ก็รู้สึกสัมผัสได้ในความตั้งมั่นแน่วแน่บางอย่าง เช้าวันที่ 21 ฝนตกแต่รุ่งสาง ผมนั้นได้นิมิตฝันว่าได้ไปทำบุญ ณ วัดแห่งหนึ่งพบพระเถราจารย์รูปหนึ่ง รูปร่างท้วม ผิวขาวผ่อง ใบหน้าอิ่มเอิบ ยืนยิ้มให้ ทั้งยังมอบ เจดีย์ไม้ไผ่ ขนาดความสูง 1 ฟุตครึ่ง (ไม้ไผ่ถากคล้ายกระบอกข้าวหลาม แต่มีกลีบซ้อนเป็นชั้นๆสวยงามมาก) และรูปภาพพระ มหาชนก (ทศชาติชาดก) ให้ผมนำกลับมาด้วย ในนิมิตฝันนั้น พระเถราจารย์รูปนี้มีราชทินนามว่า “พระราชธรรมสมาธิ”

นี่ก็เป็นเพียงนิมิตฝันที่แปลก ชัด และผมสามารถจดจำได้ละเอียด มันอะไร ? หมายความว่าอย่างไร ? จะมีนัยซ้อนอะไรไหม ? ผมคงต้องขบคิดต่อไป
(http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcT6hbAUrLGPTZYpOqNj3RmY4xZ9OOFx2lpi36j-Hm1iwinXu-KX)(http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTdaFWu4YY0dCOfnmiy23L33yhVtaOjCoT8soWUkUWTCoRZAG_t_g)


หัวข้อ: Re: สรุปธรรมสัญจร วันที่ 20 ก.พ.2554
เริ่มหัวข้อโดย: somchit ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2011, 04:12:56 am
อ้างถึง
ผม นั้นได้นิมิตฝันว่าได้ไปทำบุญ ณ วัดแห่งหนึ่งพบพระเถราจารย์รูปหนึ่ง รูปร่างท้วม ผิวขาวผ่อง ใบหน้าอิ่มเอิบ ยืนยิ้มให้ ทั้งยังมอบ เจดีย์ไม้ไผ่ ขนาดความสูง 1 ฟุตครึ่ง (ไม้ไผ่ถากคล้ายกระบอกข้าวหลาม แต่มีกลีบซ้อนเป็นชั้นๆสวยงามมาก) และรูปภาพพระ มหาชนก (ทศชาติชาดก) ให้ผมนำกลับมาด้วย ในนิมิตฝันนั้น พระเถราจารย์รูปนี้มีราชทินนามว่า “พระราชธรรมสมาธิ”

น่าสนใจครับ นิมิตเกี่ยวกับ พระ อันนี้ผมก็เคยมี แต่ยังไม่กล้าเล่าขนาดนี้

ถึงเป็นความฝัน แต่ก็เป็นนิมิตหมายในใจเราอย่างดี

 :25:


หัวข้อ: Re: สรุปธรรมสัญจร วันที่ 20 ก.พ.2554
เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2011, 07:57:10 am
เรียนถามสมาชิก นะครับว่า รูปแบบกิจกรรม ที่ไปมีอย่างไรครับ และมีวัตถุประสงค์อะไรครับ
ใครเป็นผู้ดำเนินกิจกรรมนี้ครับ ค่าใช้จ่ายกิจกรรมจริง ๆ เท่าไหร่ พอเปิดเผยได้หรือไม่ครับ
และกิจกรรมนี้ จะมีอีกเมื่อไหร่ครับ


ถ้าจะให้สมาชิกที่ไปตอบ เกรงว่าจะไ่ม่มีคน ตอบ ด้วยสาเหตุประการนี้
1.กลุ่มที่ไป ไม่ใคร่ที่จะเข้ามาดูเว็บ และไม่ชอบโพสต์ อีกต่างหาก
2.กลุ่มที่ไป ก็เป็นผู้มีศรัทธาในธรรม ในการทำบุญ เป็นหลัก
3.กลุ่มที่ไป ไม่ชอบการถ่ายภาพ จึงไม่มีภาพใด ๆ มาแสดง ที่มีก็มาจากกล้อง มือถือ พระอาจารย์มีเท่านี้แหละ
  เพราะพระอาจารย์ก็ไม่นิยมถ่ายภาพ รักษาภาพพจน์ของพระด้วย ภาพที่ถ่ายเป็นลูกศิษย์ถือ ไปถ่ายให้เป็นส่วน
  ที่พระอาจารย์ถ่ายเองมีรูปเีดีัยวคือพระปฐมเจดีย์ นะจ๊ะ

ตอบคำถามให้
รูปแบบกิจกรรม ที่ไปมีอย่างไรครับ ?
  มีรูปแบบ เดินทางโดยรถตู้ วีไอพี ไปเช้ากลับเย็น ไปเท่าที่จะไปได้ กำหนดเป้าหมายโดยพระอาจารย์

วัตถุประสงค์เพื่อ ?
  ตามเส้นทางประวัติ พระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ มุ่งไปวัดที่เกี่ยวข้องในตำนานพระกรรมฐาน และศิษย์
ที่ปฏิบัติ ตามแนวพระกรรมฐาน

ใครเป็นผู้ดำเนินกิจกรรม ?
  คนที่ไปด้วย ก็คงคิดว่าเป็นหน้าที่ของพระอาจารย์ผู้ดำเินินกิจกรรม แต่ความเป็นจริงปล่อยอิสระในการเดินชม
ไม่จำเป็นต้องติดตามพระอาจารย์ ลงรถแล้วนัดเวลาแล้วแต่ใครจะไป ตามศรัทธา และจริต พบกันที่รถ

ค่าใช้จ่ายกิจกรรมจริง ๆ เท่าไหร่ ?
 ค่าใช้จ่ายกิจกรรม ที่ไปคราวนี้เป็นค่าเดินทาง คนละ 300 บาท  หรือใครจะร่วมมากตามศรัทธาไม่ว่ากัน
ให้ไปแบบแชร์จ่ายกันตามจริง จึงไม่มีภาระค่าโดยสารมาก ถูก ๆ ถ้าเีทียบกับเดินทางไปเองแล้ว หรือไปคณะทัวร์

กิจกรรมนี้ชดเชยกิจกรรม พบกันประจำเดือน ก.พ.2554

 ซึ่งคณะศิษย์ต้องการให้มีการพบปะพระอาจารย์ใน
ช่วงออกปลีิกวิเวก ซึ่งมีโอกาสพบกันเดือนละครั้ง ซึ่งที่จริงทุกครั้งที่ผ่านมา 1 ปี ไม่มีโอกาสพบกับพระอาจารย์เลย แม้สักครั้งเดียวก็ไม่มี เพื่อรักษาศรัทธาคณะศิษย์ และแนะนำกรรมฐานเพิ่มเติมจึงให้มีการพบกันประจำเดือนทุกเดือน
ซึ่งต่อไปพระอาจารย์จะกำหนดให้เป็น 2 - 3 เดือนพบกันครั้งหนึ่ง

คงจะไม่ไปทุกเดือน
แล้ว ซึ่งจากวันที่ 5 มีนาคม 2554

ไปก็จะให้นับไปประมาณ 2 - 3 เดือน

ใครจะพบกันก็วันนั้นวันเดียวนะจ๊ะ
ขอปลีกวิเวกก่อน ก่อนในช่วงนี้

เจริญธรรม

 ;)


Aeva Debug: 0.0005 seconds.


หัวข้อ: Re: สรุปธรรมสัญจร วันที่ 20 ก.พ.2554
เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2011, 08:00:35 am
มีภาพให้ชมชื่นใจน้อยจังคะ ใครถ่ายภาพ คะ ทำไมมีภาพน้อยจัง

อนุโมทนากับ คณะที่เดินทางธรรมสัญจร ด้วยคะ

 :25:
ภาพที่พอจะให้ชมได้ ก็มีเท่านี้นะจ๊ะ นอกนั้นถ่ายมาแล้ว เบอล ๆ เนื่องด้วยประสิทธิภาพของกล้องถ่ายจาก
โทรศัพท์ทำได้เท่านี้ นะจ๊ะ ก็ยังมีภาพบางส่วนที่สมาชิกถ่ายไว้ แต่ไม่ทราบว่าเจ้าตัวจะมาให้ชมหรือไม่ต้องรอ
กันก่อนนะจ๊ะ

เจริญธรรม
 ;)


หัวข้อ: Re: สรุปธรรมสัญจร วันที่ 20 ก.พ.2554
เริ่มหัวข้อโดย: อัจฉริยะ ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2011, 08:57:01 am
อ้างถึง
กิจกรรมนี้ชดเชยกิจกรรม พบกันประจำเดือน ก.พ.2554

ประจำเดือน ม.ค.2554 จัดไปวันที่เท่าไหร่ครับ ไม่เห็นมีภาพบรรยากาศงานให้ชมเลยครับ

ประจำเดือน มี.ค.2554 กำหนดไว้วันที่เท่าไหร่ครับ ไม่เห็นมีประกาศเลยครับ


 :03:
 


หัวข้อ: Re: สรุปธรรมสัญจร วันที่ 20 ก.พ.2554
เริ่มหัวข้อโดย: สาวิตรี ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2011, 09:18:01 am
อ้างถึง
กิจกรรมนี้ชดเชยกิจกรรม พบกันประจำเดือน ก.พ.2554

ประจำเดือน ม.ค.2554 จัดไปวันที่เท่าไหร่ครับ ไม่เห็นมีภาพบรรยากาศงานให้ชมเลยครับ

ประจำเดือน มี.ค.2554 กำหนดไว้วันที่เท่าไหร่ครับ ไม่เห็นมีประกาศเลยครับ


 :03:
เราเสริช์ข้อมูลให้เธอแล้วนะ โพสต์โดยคุณ ธรรมธวัช

อันนี้ วันที่ 23 มกราคม 2554 ครั้งที่ 1/2554
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=2875.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=2875.0)

อันนี้ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2554 ครั้งที่ 2/2554
สรุปธรรมสัญจร วันที่ 20 ก.พ.2554
ก็คือ กระทู้นี้

(http://www.madchima.org/madchima/images/banner/bg-1.png)
มีประกาศอยู่ที่หน้าแรก www.madchima.org (http://www.madchima.org) เลยนะจ๊ะอันนี้

ส่วนอันนี้ วันที่ 5 มีนาคม 2554 ครั้งที่ 3/2554
ถ้าพบพระอาจารย์ยังไม่ได้ช่วงนี้ อยากทราบศิษย์เอกพระอาจารย์มีใครพอสนทนาได้บ้างครับ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=2991.msg10926#msg10926 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=2991.msg10926#msg10926)

ส่วนประกาศจริง ๆ นั้น ต้องเป็นสมาชิกที่มีสี ชมพู ขึ้นไปนะถึงจะเข้าไปอ่านได้นะจ๊ะ
จึงเข้าใจว่าเธอ จึงไม่ทราบข่าวบ้างนะจ๊ะั


หัวข้อ: Re: สรุปธรรมสัญจร วันที่ 20 ก.พ.2554
เริ่มหัวข้อโดย: suchin_tum ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2011, 11:33:55 am
ท่านธรรมธวัชอย่าน้อยใจไปเลย ก็เหมือนกับทุกครั้งที่ไปกันนั่นแหละไม่มีอย่างนั้น-อย่างนี้ ไม่มีอะไรทั้งนั้น ไม่มีเราดีกว่าเขา-ไม่มีเราแย่กว่าเขา-ไม่มีเราเสมอเขา ทุกคราวที่ไป ครูบาอาจารย์ก็ได้พาเก็บเกี่ยวแต่(พุทธานุสสติ)หากสร้างจิตไว้บ่อยๆๆๆ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ก็ลงรวมที่กาย-ใจ เก็บทุกความรู้สึก เอามาเดินจิตรเดินใจในพระกรรมฐานที่เราทํา เพื่อเพิ่ม ศรัทธาธิกะและวิริยาธิกะเท่านั้น ไม่มีอะไร....ที่มาของคําตอบ...อ้างอิงคําสอน-ตําราของครูบาอาจารย์.


หัวข้อ: Re: สรุปธรรมสัญจร วันที่ 20 ก.พ.2554
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยจ้า ที่ กุมภาพันธ์ 23, 2011, 02:44:27 am
อนุโมทนากับคณะ ด้วยคร้า..

การได้เที่ยวชมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และได้กราบไหว้ ทำบุญญ ย่อมทำให้เกิดความสุข

ส่วนเรา ได้แต่ชื่นชม คร้า...

 :25:


หัวข้อ: Re: สรุปธรรมสัญจร วันที่ 20 ก.พ.2554
เริ่มหัวข้อโดย: patra ที่ กุมภาพันธ์ 28, 2011, 09:11:33 am
รูปภาพจากคุณ Natnapit2706 ส่งมาเพิ่มเติมนะครับ

(http://kid.madchima.org/images/Gen/my01.jpg)(http://kid.madchima.org/images/Gen/my02.jpg)
อัฏฐิธาตุ ของครูบาอาจารย์ในสายหลวงปู่มั่น ที่เจดีย์ วัดป่าภูริฑัต และจุดกราบพระปฐมเจดีย์จุดที่ 1
(http://kid.madchima.org/images/Gen/my03.jpg)(http://kid.madchima.org/images/Gen/my04.jpg)
รูปภาพพระปฐมเจดีย์องค์ที่ 4 ที่ซ้อนอยู่ภายใน อันมีองค์ปัจจุบันหุ้มอยู่
(http://kid.madchima.org/images/Gen/my05.jpg)(http://kid.madchima.org/images/Gen/my06.jpg)
ถ่ายภาพหลังจากทำประทักษิณาวัตรกันแล้ว หน้าตาแช่มชื่นไปด้วยบุญ
(http://kid.madchima.org/images/Gen/my07.jpg)(http://kid.madchima.org/images/Gen/my08.jpg)
พระร่วงโรจนฤทธิ์ จุดที่มีคนมาขอพรกันมากเป็นพิเศษ
(http://kid.madchima.org/images/Gen/my09.jpg)(http://kid.madchima.org/images/Gen/my10.jpg)
พระปฐมเจดีย์ก่อนไปวัดพระประโทณเจดีย์ บรรยากาศในโบสถที่เงียบเหงาต่างจากพระปฐมเจดีย์อย่างสิ้นเชิง
(http://kid.madchima.org/images/Gen/my11.jpg)(http://kid.madchima.org/images/Gen/my12.jpg)
พระประโทณเจดีย์ ยาม 11.00 น.
(http://ttp://kid.madchima.org/images/Gen/my13.jpg)(http://kid.madchima.org/images/Gen/my14.jpg)
และที่วัดกลางคูเวียง (ที่เหลือภาพหมดเนื่องจาก แบตหมด)





หัวข้อ: Re: สรุปธรรมสัญจร วันที่ 20 ก.พ.2554
เริ่มหัวข้อโดย: kobyamkala ที่ มีนาคม 03, 2011, 05:56:34 am
(http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y10261404/Y10261404-0.jpg)

(http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y10261404/Y10261404-1.jpg)

คืนมาฆบูชา