หัวข้อ: พุทธะ (ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน) มี ๓ ประเภท | ใช้ระยะเวลาบำเพ็ญบารมี นานแค่ไหน เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กรกฎาคม 14, 2022, 06:59:13 am (http://www.dhammajak.net/board/files/1_605.jpg) พุทธะ (ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน) มี ๓ ประเภท | ใช้ระยะเวลาบำเพ็ญบารมี นานแค่ไหน .? “พุทธะ” แปลว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน มี ๓ ประเภท - พระสาวกพุทธะ / พระสาวิกาพุทธะ - พระปัจเจกพุทธะ - พระสัมมาสัมพุทธะ @@@@@@@ ๑. พระสาวกพุทธะ / พระสาวิกาพุทธะ พระสาวกพุทธะ/พระสาวิกาพุทธะ บางทีเรียกว่า พระอนุพุทธะ หมายถึง ภิกษุ ภิกษุณี ที่บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ รวมถึงอุบาสก อุบาสิกา บรรลุธรรมถึงขั้น “อรหัตตผล” เป็นอรหันตบุคคล เราเรียกว่าเป็นพระสาวกพุทธะและสาวิกาพุทธะด้วย เพราะเราเชื่อโดยทั่วไปว่า อุบาสก อุบาสิกาที่บรรลุธรรมถึงขั้นอรหัตตผล ล้วนต้องมีสถานะเป็นพระทั้งนั้น พระสาวกพุทธะและพระสาวิกาพุทธะนี้ แบ่งเป็นผู้มีฐานะธรรมดาทั่วไปกับมีฐานะ เป็น “อัคระ” เช่น พระสารีบุตรเป็นพระอัครสาวกเบื้องขวา พระโมคคัลลานะเป็นพระอัครสาวกเบื้องซ้าย พระเขมาเถรีเป็นพระอัครสาวิกาเบื้องขวา พระอุบลวรรณาเถรีเป็นพระอัครสาวิกาเบื้องซ้าย ที่น่าสนใจคือ คนที่จะได้เป็นพระสาวก/พระสาวิกาธรรมดาต้องบำเพ็ญบารมีโดยใช้เวลา ๑ แสนกัปเป็นอย่างน้อย ส่วนคนที่จะได้ฐานะเป็นพระอัครสาวก พระอัครสาวิกานี้ ต้องบำเพ็ญบารมีโดยใช้เวลา ๑ อสงไขยแสนกัปเป็นอย่างน้อย @@@@@@@ ๒. พระปัจเจกพุทธะ พระปัจเจกพุทธะ หมายถึง ผู้ตรัสรู้เป็นพระอรหันต์เฉพาะตน ไม่สั่งสอนผู้อื่น เราเชื่อว่า พระปัจเจกพุทธะมีฐานะเป็นพระพุทธเจ้ารักษาการในยุคที่ไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือพระศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสื่อมลง เรื่องพระปัจเจกพุทธะนี้น่าสนใจควรศึกษาอย่างยิ่ง ข้อความในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเหมือนจะบอกว่า พระปัจเจกพุทธะแม้ในปัจจุบันก็ยังมีชีวิตอยู่ ท่านเหล่านั้นดำรงอยู่ตลอดเวลาทุกยุคทุกสมัย แต่ท่านดำเนินชีวิตเฉพาะที่เฉพาะแห่ง ไม่ปรากฏตัวให้เห็นทั่วไป เช่น ที่ภูเขาคันธมาทน์ แม้ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี สมัยพุทธกาลก็เป็นที่อยู่ของพระปัจเจกพุทธะ เพราะคำว่า “อิสิปตนะ” แปลว่า เป็นที่ตกไปของฤาษี คำว่า “ฤาษี” ท่านหมายเอาพระปัจเจกพุทธะนั่นเอง หรือภูเขาอิสิคิลิก็เป็นที่อยู่ของพระปัจเจกพุทธะเหมือนกัน สมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่ภูเขาอิสิคิลิ เขตพระนครราชคฤห์ ตรัสถามภิกษุทั้งหลายว่าภิกษุทั้งหลาย พวกเธอเห็นภูเขาอิสิคิลินี้หรือไม่ ภูเขาอิสิคิลินี้มีชื่อก็เช่นนี้ มีบัญญัติก็เช่นนี้ เรื่องเคยมีมาแล้ว พระปัจเจกพุทธะ ๕๐๐ องค์ได้อาศัยอยู่ที่ภูเขาอิสิคิลินี้มานาน ในเวลาที่พระปัจเจกพุทธะเหล่านั้นเข้าไปสู่ภูเขาอิสิคิลิ ทุกคนมองเห็นท่านเดินเข้าไป แต่พอเข้าไปถึงแล้ว ไม่มีใครมองเห็นท่านเหล่านั้น คนทั้งหลายจึงพูดกันว่า ภูเขานี้กลืนกินฤาษีเหล่านี้ จึงตั้งชื่อภูเขานี้ว่า “อิสิคิลิ” แปลว่า กลืนกินฤาษี ต่อจากนั้น พระพุทธเจ้าตรัสระบุชื่อพระปัจเจกพุทธะ เช่น พระปัจเจกพุทธะชื่ออริฏฐะ, อุปริฏฐะ,ตครสิขี, ยสัสสี, สุทัสสนะ, ปิยทัสสี, คันธาระ, ปิณโฑละ, อุปาสภะ, นิถะ, ตถะ, สุตวา, ภาวิตัตตะ,สุมภะ, อัสสุเมฆะ คนที่จะได้ตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธะนี้ต้องบำเพ็ญบารมีโดยใช้เวลา ๒ อสงไขยแสนกัปเป็นอย่างน้อย เรื่องเกี่ยวกับพระปัจเจกพุทธะนี้ เป็นที่รู้จักคุ้นชินของพุทธศาสนิกชนก็จริง แต่ไม่ค่อยมีใครสนใจศึกษาอย่างจริงจัง และไม่มีการตั้งข้อสังเกตให้เราเกิดความคิดสงสัยเพิ่มเติม พระปัจเจกพุทธะที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันมีหรือไม่.? พระปัจเจกพุทธะที่ปรากฏนามในคัมภีร์พระไตรปิฎกและอรรถกถาฝ่ายเถรวาทมีจำนวนมากนั้น เมื่อไม่ทำหน้าที่เทศนาสั่งสอนชาวโลกแล้วอยู่กันอย่างไร.? ทำอะไร.? หรืออยู่เฉยๆไปวันๆ.? ถ้าเราใช้สามัญสำนึกพิจารณาดู เป็นไม่ได้เลยที่พระปัจเจกพุทธะเหล่านั้นจะอยู่เฉยๆโดยไม่ทำอะไรเลย ท่านต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขแก่ชาวโลก พระปัจเจกพุทธ เป็นบุคคลพิเศษที่คอยสอดส่องดูแลชาวโลกเมื่อยามเกิดทุกข์ยากเข็ญใจ ถ้าพอแก้ปัญหาได้ก็ให้ชาวโลกใช้กาลังสติปัญญาของตนเองแก้ไข ถ้าปัญหาทุกข์ยากเหลือกาลัง ท่านก็จะมาช่วยบรรเทาทุกข์ @@@@@@@ ๓. พระสัมมาสัมพุทธะ พระสัมมาสัมพุทธะมี ๓ ประเภท คือ - พระปัญญาธิกะ - พระสัทธาธิกะ - พระวิริยาธิกะ ๓.๑ พระปัญญาธิกะ หมายถึงพระสัมมาสัมพุทธะที่มีปัญญามาก ทรงใช้เวลาในการบำเพ็ญบารมี ๒๐ อสงไขยแสนกัป โดยแบ่งเป็นช่วง (๑) มโนปณิธาน ช่วงตั้งความปรารถนาทางใจ ๗ อสงไขย (๒) วจีปณิธาน ช่วงตั้งความปรารถนาทางวาจา ๙ อสงไขย (๓) กายวจีปณิธาน ช่วงตั้งความปรารถนาทางกายและวาจา ๔ อสงไขย ๓.๒ พระสัทธาธิกะ หมายถึงพระสัมมาสัมพุทธะที่มีศรัทธามาก ทรงใช้เวลาในการบำเพ็ญบารมี ๔๐ อสงไขยแสนกัป โดยแบ่งเป็นช่วง (๑) มโนปณิธาน ช่วงตั้งความปรารถนาทางใจ ๑๔ อสงไขย (๒) วจีปณิธาน ช่วงตั้งความปรารถนาทางวาจา ๑๘ อสงไขย (๓) กายวจีปณิธาน ช่วงตั้งความปรารถนาทางกายและวาจา ๘ อสงไขย ๓.๓ พระวิริยาธิกะ หมายถึงพระสัมมาสัมพุทธะที่มีความเพียรมาก ทรงใช้เวลาในการบำเพ็ญบารมี ๘๐ อสงไขยแสนกัป โดยแบ่งเป็นช่วง (๑) มโนปณิธาน ช่วงตั้งความปรารถนาทางใจ ๒๘ อสงไขย (๒) วจีปณิธาน ช่วงตั้งความปรารถนาทางวาจา ๓๖ อสงไขย (๓) กายวจีปณิธาน ช่วงตั้งความปรารถนาทางกายและวาจา ๑๖ อสงไขย อย่างไรก็ตาม เนื้อหาในคัมภีร์ฝ่ายเถรวาทโดยเฉพาะคัมภีร์ระดับอรรถกถา มุ่งพรรณนาเฉพาะช่วงที่ ๓ คือ กายวจีปณิธาน โดยเริ่มนับเฉพาะจากตอนที่ได้รับการพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ยังทรงพระชนม์อยู่ เช่น กรณีของพระสัมมาสัมพุทธะพระนามว่าโคตมะของเราทั้งหลาย ตอนที่เป็นพระโพธิสัตว์สุเมธดาบส ได้รับการพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธะพระนามว่าทีปังกรว่า จะได้มาตรัสรู้เป็นพระโคตมะในอนาคต เพราะฉะนั้น พระสัมมาสัมพุทธะ ประเภท :- - พระปัญญาธิกะ จึงบรรลุถึงความเป็นพระสัมมาสัมพุทธะโดยใช้เวลาบำเพ็ญบารมี ๔ อสงไขยแสนกัป - พระสัทธาธิกะ บรรลุถึงความเป็นพระสัมมาสัมพุทธะโดยใช้เวลาบำเพ็ญบารมี ๘ อสงไขยแสนกัป - พระวิริยาธิกะ บรรลุถึงความเป็นพระสัมมาสัมพุทธะโดยใช้เวลาบำเพ็ญบารมี ๑๖ อสงไขยแสนกัป ขอขอบพระคุณ มา ณ โอกาสนี้ บางส่วนจากบทความ เรื่อง “พระสัมมาสัมพุทธะ” ในคัมภีร์ฝ่ายเถรวาท โดย พระเทพวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. , อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย URL : https://www.mcu.ac.th/article/detail/35363 (https://www.mcu.ac.th/article/detail/35363) Photo : http://www.dhammajak.net/ (http://www.dhammajak.net/) |