สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

คนเกิดขึ้นมาแล้ว ถ้าพยากรณ์ โดยผู้มีความสามารถว่า...

 เช่น เด็กคนนี้จักฆ่า พ่อ และ ผู้มีพระคุณ ในอนาคต เหมือน พระยาพาล ( จากประวัติ พระประัโทณเจดีย์ )

      ต้องเข่นฆ่าคน เป็นจำนวนมาก เหมือน จอมโจรองคุลีมาล เป็นต้น

  อันนี้แสดงให้เห็นว่า ถ้าบุคคลใดเกิดมาได้รับพยากรณ์ แล้ว ก็ไม่สามารถ เปลี่ยนแปลง ชะตากรรมตนเองได้

ใช่หรือไม่ ครับ ?

 :25:

กรรมบางเรื่องหนีได้ครับ อย่างองคุลีมาล ฆ่าคนมานับพัน เป็นอรหันต์เข้านิพพานไปแล้ว

ไม่ต้องไปชดใช้กรรมในนรก เพียงแต่ได้รับเศษกรรม โดนชาวบ้านขว้างปาก้อนหินใส่เท่านั้น
 
จะพูดโดยสรุปก็คือ การหนีกรรมฝ่ายอกุศลทำได้ครับ โดยอาศัยผลของกุศลกรรมหนักๆ

เช่น อานิสงส์สังฆทาน อานิสงส์การภาวนา เป็นต้น

เปรียบเสมือนหมาล่าเนื้อ ตราบใดที่เนื้อยังสามารถรักษาระยะห่างเอาไว้ได้ หมาก็ไม่มีทางที่จะทำร้ายได้

การรักษาระยะห่างเอาไว้ ก็คือ อานิสงส์ของกรรมดีนั่นเอง แต่กรณีนี้เป็นวิธีเฉพาะหน้า

การแก้ไขปัญหาอย่างถาวร ต้องกระทำให้กรรมนั้นเป็นอโหสิกรรม นั่นคือ การเข้านิพพานนั่นเอง

ในสมัยพุทธกาล มีตัวอย่างที่หนีคำพยากรณ์ได้ เชิญคลิกลิงค์นี้ครับ

สมัยพุทธกาล มีการสวดมนต์ต่ออายุ ??!!
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=3099.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=3099.0)
 ;) :s_good: :25:

พระพุทธเจ้า พระองค์ตรัสแสดงไว้ว่า

คนจะดี จะเลว หาได้ ดีเลว จากชาติ กำเนิดไม่ หรือ ตระกูลก็ไม่
แต่คนจะดี จะเลว อยู่ที่การ ฝึกฝนอบรม ขัดเกลา

 อหิงสกะ ไม่ได้เลวแต่กำเนิด แต่ที่เลวฆ่าคนนั้นเป็นเพราะคนสอน

 พระยาพาล ก็ไม่ได้เลวแต่กำเนิด แต่เพราะการอบรมเสียใจที่ความจริงไม่เปิดเผยหลงฆ่าบิดาในสนามรบ

 ด้วยโทสะที่ตนเองต้องกระทำอนันตริยกรรม โดยมิรู้จึงหุนหันพลันแล่น รับสั่งให้ประหารยายหอมผู้ชุบเลี้ยงอีก

 แต่พอโทสะดับลง ความถูกผิด ก็เข้ามาพระยาพาลจึงตั้งใจอุทิศตนให้พระพุทธศาสนา ถึงแม้ว่าจะสายได้ทำการ

 บูรณะพระปฐมเจดีย์ และสร้าง พระประโทณเจดีย์

  ในสมัยก่อนที่ทำ อย่าคิดว่าเป็นเรื่องง่าย ๆ นะคร้า...

  แค่สมัยปัจจุบัน รัฐบาลทำการสำรวจ พระปฐมเจดีย์ ถึง 9 ปี แล้วบูรณะซ่อมแซมอีก 6 ปี ใช้เงิน 24 ล้านกว่า

 ขนาดยุคปัจจุบันที่มีเทคโนโลยีสูงยังใช้เวลา ถึง 15 ปี แล้วในสมัยก่อน ๆ นั้่นจะใช้เวลากี่ปี


 สรุป คนจะดี จะเลว ก็ไม่ได้ ดี เลว มาแต่ ชาติกำเนิด

      แต่จะดี เลว มาจากการฝึกฝน อบรม สิ่งแวดล้อม

---

 อภิปราย เพิ่มในยุคนี้ มีความเข้าใจว่า พวกเทวดา ลงมาเกิดน้อยแล้ว คงมีแต่พวก อสูร วินิปากสัตว์ และ ดิรัจฉาน มากำเนิดเกิดเป็นคน จึงอาจจะเป็นไปได้ว่า นิสัยเดิม ๆ ยังติดมาด้วยทุกภพ ทุกชาติ


 เหมือนพระภิกษุ รูปหนึ่งที่มักจะเรียกคนอื่น ๆ ว่า เจ้าถ่อย เป็นต้น


 :25:

 

เชื่อมั่นในตนเองครับ ดีที่สุด เชื่อมั่นในการตัดสินใจ ที่ประกอบด้วยความรักเมตตา ผมว่า ดวงดาวก็บังคับเราไม่ได้

 :67:

ผมว่าเรื่อง วาสนา เฮง โชค ยังมีอยู่ครับ ผมก็คิดว่าเราก็เก่งสอบก็ได้ เกรด 4 มาตลอดแต่พอไปสอบ เอ็น
เป็นปุ๋ยครับ แพ้เด็กฝากครับ ชวด มาแล้วครับ

  ถ้าบอกว่า ดวงดาว ไม่ได้กำหนดเรามานั้น ไ่ม่น่าจะใช่ กรรม กำหนดเรามาเรียบร้อยแล้วครับ รวย จน หล่อ สวย
ฉลาด โง่ ใครเป็นคนปั้น ก็กรรมที่เราทำนั่นแหละที่เป็นคนปั้นเรามาอย่างนี้ไงละครับ

 แต่ เมื่อได้มาอย่างนี้แล้ว ก็อย่าไปโทษดวงดาว หรือ ชะตา เพราะทุกอย่างนั้นเกิดจากกรรมของเราเองครับ

 :13:

เรื่องของศาสตร์ แห่งดวงดาวนั้น ใน มหาศีล ของชาวพุทธแล้วพึงต้องยกออกนะครับ เพราะชาวพุทธสอนให้ยอมรับ
กรรมด้วยใจที่มีปัญญาครับ ไม่ต้องไปพะวงกับเรื่อง ดวง หรือ เคราะห์ ส่วนตัวผมเห็นด้วยครับแต่สำหรับชาวพุทธที่ยังมีหลักธรรมยังไม่มั่นคง พอยังอ่อนไหวต่อโลกอยู่ ต้องการที่พึ่งให้มีความสุขชั่วคราว ผ่านพ้นเคราะห์ไปได้ ก็จำเป็นที่จะต้องฟัง หรือ ศึกษา ทางหนี ทีไล่ ไว้บ้างครับ

แต่คนจะเลว จะดีเพราะชาติกำเนิด  นั้นไม่ใช่ ครับ
แต่คนจะเลว จะดีเพราะกรรมที่ทำเป็นอุปนิสัย ติดมาหลายภพ หลายชาติ ครับ

บางคนเกิดมากองมรดก แต่เลวมหาเลว เลยครับ ทั้ง ๆ ที่รอบข้างนั้นมีแต่คนดี มีธรรมะ พ่อ แม่ เป็นคนมีบุญใฝ่ธรรม แต่ลูกกับมองเห็นขัดแย้ง มัวเมาในวิถีโลก ผมเองก็พบมาหลายคน แล้วโดยเฉพาะเรื่องนี้จัดได้ว่าเป็นความทุกข์อันดับหนึ่งของคนรวยเลยครับ ที่ผมเข้าไปรับฟังและแก้ไขกันมา

 :67: