สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ กันยายน 09, 2022, 06:45:31 am



หัวข้อ: สุขใจทุกครั้ง เมื่อคิดเป็นกุศล
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 09, 2022, 06:45:31 am

(https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2022/09/Website-Template-1100x620-81-768x433.jpg)


สุขใจทุกครั้ง เมื่อคิดเป็นกุศล

ความทุกข์ ความไม่สบายกายไม่สบายใจที่เกิดขึ้น หรือ เรื่องราวที่มากระทบกับอารมณ์ความรู้สึก เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของความทุกข์เท่านั้นเอง แต่ไม่ใช่ “ส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดความทุกข์”

แท้จริงแล้วความทุกข์ ความไม่สบายกายไม่สบายใจที่เกิดขึ้น หรือ เรื่องราวที่มากระทบกับอารมณ์ความรู้สึก เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของความทุกข์เท่านั้นเอง แต่ไม่ใช่ “ส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดความทุกข์” แล้วอะไรเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้มนุษย์เกิดความทุกข์

มีวัดแห่งหนึ่ง วัดนี้มีพระอยู่ 2 รูป ทั้งสองรูปนี้เป็นพี่น้องกัน รูปแรกเป็นพี่ชาย ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ตั้งใจศึกษาธรรมะเป็นอย่างมาก รูปที่สองเป็นน้องชาย เป็นรองเจ้าอาวาส ไม่ค่อยตั้งใจศึกษาธรรมะ ก่อนมาบวชท่านเป็นนักเลงมาก่อน ชอบการชกต่อยทะเลาะวิวาท จนทำให้ท่านตาบอดไปข้างหนึ่ง โดยวัดนี้มีกฎกติกาของวัดว่า ถ้าพระรูปไหนจะมาพักต้องตอบปัญหาธรรมะให้ได้หนึ่งคำถาม จึงจะมีสิทธิพักที่วัดนี้ได้

มีอยู่วันหนึ่งพระธุดงค์ ออกเดินธุดงค์เพื่อแสวงหาทางพ้นทุกข์ เดินมาถึงวัดนี้พอดี เห็นท้องฟ้ามืดครึ้มดูท่าว่าฝนจะตก จึงคิดว่า วันนี้จะขอพักที่วัดนี้สักคืน เพื่อจะได้หลบฝนไปด้วย พระธุดงค์จึงเดินเข้าไปในวัด พบเจ้าอาวาสจึงขออนุญาตพักค้างคืนสักหนึ่งคืน ท่านเจ้าอาวาส ตอบว่า “ท่านต้องตอบปัญหาธรรมะ ให้ได้หนึ่งคำถาม ถ้าตอบถูกจึงจะได้พักตามกฎของวัดนี้” พระธุดงค์ตอบตกลงว่า พร้อมจะตอบปัญหาธรรมะ ท่านเจ้าอาวาสจึงให้พระธุดงค์ไปรอที่โบสถ์ หลังจากนั้นจึงสั่งให้น้องชายซึ่งเป็นรองเจ้าอาวาสไปถามปัญหาธรรมะพระธุดงค์ที่โบสถ์สักหนึ่งข้อ

@@@@@@@

ท่านรองเจ้าอาวาสเดินไปถึงโบสถ์จึงนั่งลง พร้อมกับพูดแบบกวนๆ ว่า
    “เอาท่านถามก่อนก็แล้วกัน แต่ห้ามใช้ปากถามนะ ให้ใช้มือถาม (คือใช้ภาษาใบ้)”
     พระธุดงค์นั่งคิดสักครู่ จึงยกนิ้วขึ้นหนึ่งนิ้ว
     รองเจ้าอาวาสไม่รอช้า ยกนิ้วขึ้นสองนิ้ว
     พระธุดงค์เห็นท่าไม่ดี จึงยกนิ้วขึ้นสามนิ้ว
     รองเจ้าอาวาสไม่ยอม หน้าดำคร่ำเครียดรีบยกกำปั้นขึ้น
     ขณะนั้นเอง พระธุดงค์รีบกราบพระประธานในโบสถ์แล้วเดินออกจากโบสถ์ไป

เจ้าอาวาสเห็นพระธุดงค์กำลังเดินออกจากวัด จึงได้เรียก และเดินเข้าไปถามว่า “อ้าว! ท่านไม่พักแล้วหรือคืนนี้”… “จะพักได้ยังไงครับ น้องชายท่านเก่งจริงๆ”

พระธุดงค์ตอบ “เก่งยังไง ไหนลองเล่าให้ผมฟังซิ” เจ้าอาวาสเอ่ยขึ้น… “ก็น้องชายท่านให้ผมถามก่อน แล้วบอกว่าให้ถามเป็นภาษาใบ้

ผมก็ยกนิ้วขึ้นหนึ่งนิ้ว หมายความว่า ในโลกนี้มีพระพุทธเจ้าเป็นศาสดาเอกของโลกเพียงองค์เดียว
น้องชายท่านยกนิ้วขึ้นสองนิ้ว หมายความว่า มีพระพุทธก็ต้องมีพระธรรม
ผมก็ยกนิ้วตอบสามนิ้ว หมายความว่า มีพระพุทธ พระธรรม ก็ต้องมีพระสงฆ์

น้องชายท่านเก่งมาก ยกกำปั้นขึ้นมา หมายความว่า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ รวมเรียกว่า พระรัตนตรัย น้องชายท่าน เก่งจริงๆ ผมขอยอมแพ้” พูดเสร็จพระธุดงค์ก็เดินออกจากวัดไปทันที

@@@@@@@

ฝ่ายรองเจ้าอาวาสเดินออกมาจากโบสถ์ ด้วยความกระวนกระวาย
จึงถามพี่ชายว่า “พระองค์เมื่อกี้ไปไหนแล้ว”…
“อ้าว! เขาแพ้ท่านเขาก็ไปนะซิ” เจ้าอาวาสตอบ
รองเจ้าอาวาสจึงพูดขึ้นว่า “จะแพ้ได้ยังไง เขาด่าผม”…
“เขาด่าท่านว่ายังไง” เจ้าอาวาสถาม

รองเจ้าอาวาสตอบว่า “ผมให้เขาถามก่อน แต่ให้ถามเป็นภาษาใบ้ เขากลับยกนิ้วขึ้นหนึ่งนิ้ว หาว่าผมมีตาเดียว ผมก็ไม่ยอม ยกนิ้วขึ้นสองนิ้ว หมายความว่า ถึงผมจะมีตาเดียว แต่ท่านนะมีสองตา เขายังไม่ยอมด่าผมอีก ด้วยการยกนิ้วขึ้นสามนิ้ว หมายความว่า เราสองคนมีสามตา ผมก็เลยโมโห ยกกำปั้นขึ้น ว่าจะต่อยสักหน่อย เขารีบลุกออกไปก่อน”

เจ้าอาวาสหัวเราะชอบใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่ได้เป็นสาเหตุของความทุกข์ แต่ตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดความทุกข์ ก็คือ การที่เราเอาใจไปยึดกับเรื่องนั้นๆด้วยกุศล หรือ อกุศลต่างหาก…





ขอขบอคุณ :-
คอลัมน์ : ลานธรรม
โดย : พระครูปลัดบัณฑิต อินฺทเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสังข์กระจายวรวิหาร รองประธานเครือข่ายธรรมะอารมณ์ดี website : https://www.dailynews.co.th/news/1446251/ (https://www.dailynews.co.th/news/1446251/)
8 กันยายน 2565 , 12:25 น.