สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

สงฆ์แก้ปัญหาสงฆ์ : แนวทางที่ถูกต้อง

ในปัจจุบัน ปัญหาในวงการสงฆ์ได้เกิดขึ้นมากมาย ทั้งที่เป็นปัญหาเล็กน้อยเช่น พระภิกษุออกเรี่ยไร และจับเงินจับทอง ซื้อของด้วยตนเอง ซึ่งเป็นอาบัติเล็กน้อย แต่เป็นโลกวัชชะ และทำความผิดร้ายแรงถึงขั้นปาราชิกขาดจากความเป็นพระเช่น อวดอุตริมนุสธรรม และเสพเมถุน หรือแม้กระทั่งร่วมกันฉ้อโกงเงินวัดร่วมกับคฤหัสถ์ ดังที่เกิดขึ้นในกรณีเงินทอนวัดเป็นตัวอย่าง

ทุกครั้งที่มีข่าวเกี่ยวกับพฤติกรรมของพระภิกษุสงฆ์ทำผิดวินัย โดยเฉพาะความผิดที่เป็นโลกวัชชะ ชาวพุทธจะรู้สึกเสื่อมศรัทธา และทำตัวเหินห่างศาสนา ทั้งๆ ที่พุทธศาสนามิได้เสื่อม คำสอนยังอยู่ครบถ้วน ทั้งในส่วนของพระธรรมและวินัย แต่คนส่วนใหญ่แยกไม่ออกระหว่างปัจเจกบุคคลกับองค์กรทางศาสนา จึงรวมว่า เมื่อพระภิกษุมีพฤติกรรมเสื่อมเสีย พุทธศาสนาก็เสื่อมเสียไปด้วย ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง พระภิกษุในประเทศไทยมีจำนวนแสนองค์ และส่วนใหญ่เป็นพระปฏิบัติดีอยู่ในกรอบแห่งพระธรรมวินัย โดยเฉพาะพระฝ่ายอรัญวาสีหรือพระป่า ส่วนที่ไม่ดีมีเพียงส่วนน้อย

@@@@@@@

ดังนั้น ถ้านับโดยจำนวนแล้วก็ถือได้ว่าดีอยู่ แต่จะเป็นส่วนน้อย ก็ทำให้ศาสนาพุทธมัวหมองได้ ทั้งนี้เนื่องจากเหตุปัจจัยดังต่อไปนี้

1. ถึงแม้จะเป็นพระส่วนน้อยที่ปฏิบัติไม่ดี แต่บังเอิญส่วนน้อยนี้เป็นพระที่มียศ มีตำแหน่งสูงหรือเป็นพระที่ชาวบ้านศรัทธาเลื่อมใส เช่น พระนักเทศน์ที่มีชื่อเสียง เป็นต้น

2. ถึงแม้จะเป็นส่วนน้อย แต่ปล่อยไว้โดยที่หน่วยงานที่รับผิดชอบในการปกครองคือ สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และสงฆ์ฝ่ายปกครองนับตั้งแต่เจ้าอาวาส เจ้าคณะตำบลขึ้นไปจนถึงเถรสมาคม ไม่แก้ไข ปล่อยปละละเลยนานจนกลายเป็นจำนวนมาก และความผิดที่ทำจนเคยชินก็จะกลายเป็นความถูกเช่น การจับเงิน และทอง รวมไปถึงการฉันนมในยามวิกาล เป็นต้น ทั้งๆ ที่ผิดพระวินัย แต่ก็กลายเป็นถูกไปแล้วในหมู่ภิกษุที่ทำสิ่งนี้จนเคยชิน และชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นว่าเป็นความผิด

3. ในการให้อุปสมบทแก่ผู้มีจิตศรัทธามาขอบวช ถ้ายึดตามหลักพระวินัยอย่างเคร่งครัด ผู้ที่มีความเบี่ยงเบนทางเพศคือ บัณเฑาะก์หรือกะเทยไม่สามารถบวชได้

@@@@@@@

แต่ในปัจจุบันมีให้เห็นดาษดื่น ทั้งที่บวชแล้วมีพฤติกรรมไม่เป็นที่เลื่อมใสของผู้พบเห็น แต่ไม่เห็นสำนักพุทธศาสนาและสงฆ์ฝ่ายปกครองดำเนินการแก้ไข และป้องกันแต่อย่างใด จะมีจัดการบ้างก็ในกรณีที่ทำผิดโจ่งแจ้ง และเป็นข่าวกันเช่นกรณีของหลวงเจ๊ เป็นต้น ที่ฝ่ายปกครองสงฆ์มีมติให้สึก แต่ก็ยังตามตัวไม่เจออยู่ในขณะนี้

จากการที่วงการสงฆ์แปดเปื้อนด้วยกิเลสของคนกลุ่มน้อยนี้เอง ได้เปิดช่องให้คนทำสื่อถือโอกาสหาข่าวหรือแม้กระทั่งพยายามสร้างข่าว ความเสื่อมเสียในวงการพระพุทธศาสนา เพื่อนำไปเป็นเครื่องมือทำมาหากิน ดังที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้

เพื่อให้พุทธศาสนานิกายเถรวาทในประเทศไทยมั่นคง แข็งแรง เป็นองค์กรให้ความรู้ และให้การอบรมทางจริยธรรมแก่คนไทยต่อไปนานๆ และเป็นศูนย์กลางพุทธศาสนานิกายเถรวาทของโลก ผู้เขียนเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่ศาสนจักรและอาณาจักรร่วมมือกันกำจัดสิ่งแปลกปลอมในวงการสงฆ์ให้หมดไป แล้วชำระพระธรรมวินัย โดยยึดต้นแบบของสังคายนาครั้งที่ 3 เป็นแบบอย่าง




Thank : https://mgronline.com/daily/detail/9650000051245
เผยแพร่ : 30 พ.ค. 2565 13:20 ,ปรับปรุง : 30 พ.ค. 2565 13:20 ,โดย : สามารถ มังสัง
Photo : pinteerest