หัวข้อ: ที่มา “สุรินทร์” ผู้ซื่อตรงต่อพระเจ้าแผ่นดิน เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ธันวาคม 27, 2022, 05:28:10 am :25: :25: :25: ที่มา “สุรินทร์” ผู้ซื่อตรงต่อพระเจ้าแผ่นดิน | สุจิตต์ วงษ์เทศ สุรินทร์ได้ชื่อจากนามเจ้าเมืองว่า “สุรินทรภักดี” หมายถึง ซื่อตรงต่อพระเจ้าแผ่นดิน [สุรินทร์ แปลว่า พระอินทร์ หมายถึง พระเจ้าแผ่นดิน] จ.สุรินทร์ มีความเป็นมาโดยสรุปสั้นๆ ง่ายๆ ดังนี้ @@@@@@@ 1. ชุมชนเกษตรกรรมสมัยแรกเริ่ม บริเวณสุรินทร์เป็นชุมชนเกษตรกรรมสมัยแรกเริ่ม 3,000 ปีมาแล้ว หรือราว 500 ปีก่อนพุทธศักราช พบหลักฐานจำนวนมากของคนหลายเผ่าพันธุ์กระจัดกระจายทั่วไปตลอดลุ่มน้ำมูล และเลียบทิวเขาพนมดงรัก นับถือศาสนาผี คนหลายเผ่าพันธุ์เหล่านั้น มีกวย (กุย) เป็นกลุ่มสำคัญที่สืบเนื่องจนทุกวันนี้ 2. ชุมชนเมืองน้อยสมัยการค้าโลกเริ่มแรก บริเวณสุรินทร์เป็นชุมชนเมืองน้อย ซึ่งเป็นเครือข่ายรัฐใหญ่สมัยการค้าโลกเริ่มแรก ราว 1,500 ปีมาแล้ว หรือหลัง พ.ศ.1000 [เคยเรียกสมัยวัฒนธรรมทวารวดี หรือวัฒนธรรมเจนละ] พบคูน้ำคันดินรูปคล้ายกลมไม่สม่ำเสมอ ล้อมรอบบริเวณศักดิ์สิทธิ์ ส่วนชุมชนคนทั่วไปอยู่เป็นกลุ่มกระจัดกระจายภายนอกคูน้ำคันดิน และมีเครือข่ายทั่วไป โดยไม่พบหลักฐานว่าชื่อเมืองอะไร? นับถือศาสนาผีปนศาสนาพราหมณ์และพุทธ เติบโตจากการค้าภายใน เป็นเครือข่ายรัฐพิมาย (วงศ์มหิธร) และรัฐเจนละ (วงศ์จิตรเสน) 3. เมืองใหญ่สมัยการค้าสำเภาจีน บริเวณสุรินทร์เป็นเมืองใหญ่สมัยการค้าสำเภาจีน ราว 1,000 ปีมาแล้ว หรือหลัง พ.ศ.1500 [เคยเรียกสมัยวัฒนธรรมขอม] พบคูน้ำคันดินรูปสี่เหลี่ยมครอบคูน้ำคันดินรูปคล้ายกลมไม่สม่ำเสมอ (ที่มีมาก่อน) โดยไม่พบหลักฐานว่าเมืองชื่ออะไร? และพบปราสาทขนาดต่างๆ จำนวนมากเป็นศูนย์กลางชุมชนกระจายอยู่ที่ต่างๆ แสดงความมั่งคั่งและจำนวนประชากรคับคั่ง ชุมชนบ้านเมืองเหล่านั้นเติบโตและมั่งคั่งจากการค้า ซึ่งเป็นเครือข่ายเมืองพิมาย (จ.นครราชสีมา) และรัฐใหญ่แถบโตนเลสาบในกัมพูชา ที่มีการค้าขายกับจีนแต่งสำเภามาถึงอ่าวไทย ทำให้มีชุมชนบ้านเมืองน้อยใหญ่กระจายทั่วไปกว้างขวางมาก จึงพบซากปราสาทนับไม่ถ้วน นับถือศาสนาผีปนศาสนาพราหมณ์ 4. เมืองเครือข่ายของรัฐอยุธยา บริเวณสุรินทร์ (ยังไม่ชื่อสุรินทร์) เป็นเมืองเครือข่ายของเมืองนครราชสีมา สังกัดรัฐอยุธยา ราว 500 ปีมาแล้ว หรือหลัง พ.ศ.2000 [เคยเรียกสมัยอยุธยา] ภาษาไทย อักษรไทย แพร่หลายเป็นหลักของรัฐอยุธยา คนในรัฐอยุธยาเรียกตนเองว่าไทยเป็นครั้งแรก กวย (กุย) เป็นพ่อค้าขนสินค้าไปขายในตลาดอยุธยา มีฐานะทางสังคมอยู่ร่วมกับพ่อค้านานาชาติ ได้แก่ แขก, ฝรั่ง, แกว ฯลฯ สมัยนี้คนสุรินทร์ซึ่งพูดภาษาเขมร เป็นกวยและอื่นๆ แต่รู้จักและเริ่มใช้ภาษาไทย เป็นภาษากลางทางการค้ากับคนหลายกลุ่มในเมืองเครือข่ายรัฐอยุธยา นับถือศาสนาผีปนศาสนาพุทธและพราหมณ์ (https://www.matichonweekly.com/wp-content/uploads/2019/10/สุรินทร์5.jpg) เมืองโบราณ จ. สุรินทร์ (ภาพจาก สารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคอีสาน เล่ม 14 มูลนิธิสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ จัดพิมพ์ พ.ศ. 2542) 5. เมืองสุรินทร์ เมืองสุรินทร์มีชื่อครั้งแรกตามชื่อเจ้าเมืองว่า “สุรินทรภักดี” (หมายถึงซื่อตรงต่อพระเจ้าแผ่นดิน) ราว 200 ปีมาแล้ว หรือหลัง พ.ศ.2300 [เคยเรียกสมัยปลายอยุธยา, สมัยกรุงธนบุรี, สมัยรัตนโกสินทร์] วีรบุรุษในตำนาน (เชียงปุม, ตากะจะ, เชียงฆะ, เชียงขัน, เชียงสี, เชียงไชย) เป็นคำบอกเล่าการโยกย้ายของคนพูดภาษาตระกูลมอญ-เขมร กับกลุ่มพูดภาษามลายู บริเวณเมืองโคตรบองกับเมืองเรอแดว์ ทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง เข้าไปตั้งหลักแหล่งทางลุ่มน้ำชีและมูล แล้วอยู่ร่วมกับคนดั้งเดิม ซึ่งทั้งหมดจะถูกเรียกอย่างรวมๆ ต่อไปข้างหน้าว่า “ส่วย” มีเหตุจากถูกเกณฑ์ส่วย แล้วต้องส่งส่วยเข้ากรุงเทพฯ [ส่วย หมายถึง สิ่งของที่รัฐเก็บจากราษฎรแทนแรงงาน หรือเก็บจากประเทศราช แต่ในที่นี้หมายถึงขี้ข้า] ภาษาไทย และอักษรไทย ใช้เป็นทางการในวงแคบๆ ของเมืองสุรินทร์ คนทั่วไปพูดภาษาเขมรท้องถิ่น เรียกภาษากวย (ต่อมาเรียกภาษาส่วย) คนสุรินทร์ ถูกทำให้เป็นคนไทย เมื่อเปลี่ยนชื่อประเทศสยาม เป็นประเทศไทย ราว 80 ปีมาแล้ว หรือ พ.ศ.2482 (https://www.matichonweekly.com/wp-content/uploads/2019/10/สุรินทร์1-572x1024.jpg) ภาชนะใส่กระดูกคนตาย ราว 2,500 ปีมาแล้ว ขุดพบที่บ้านโนนสวรรค์ ต. ดู่นาหนองไผ่ อ. ชุมพลบุรี จ. สุรินทร์ (https://www.matichonweekly.com/wp-content/uploads/2019/10/สุรินทร์3-640x420.jpg) คูเมืองโบราณ ใกล้วัดพรหมสุรินทร์ อ. เมืองฯ จ. สุรินทร์ (https://www.matichonweekly.com/wp-content/uploads/2019/10/สุุรินทร์4-646x420.jpg) คูเมืองโบราณ ที่ได้รับการบูรณะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวสุรินทร์ บริเวณด้านเหนือวัดจุมพลสุทธาวาส อ. เมืองฯ จ. สุรินทร์ (ภาพจาก สารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคอีสาน เล่ม 14 มูลนิธิสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ จัดพิมพ์ พ.ศ. 2542) ขอขอบคุณ :- ที่มา : มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 4 - 10 ตุลาคม 2562 คอลัมน์ : สุจิตต์ วงษ์เทศ เผยแพร่ : วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2565 website : https://www.matichonweekly.com/column/article_236543 (https://www.matichonweekly.com/column/article_236543) |