สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2023, 06:45:43 am



หัวข้อ: ที่มาของ “ครุฑยุดนาค” หรือ “ครุฑจับนาค”
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2023, 06:45:43 am


(https://www.silpa-mag.com/wp-content/uploads/2017/10/Garuda-1-696x434.jpg)
เสาโคมไฟรูป “ครุฑยุดนาค” ประดับพระเมรุมาศ รัชกาลที่ ๙ ตามคติความเชื่อของไทย พระมหากษัตริย์เปรียบเสมือนพระนารายณ์อวตารลงมาจุติบนโลกมนุษย์ เสารูป “ครุฑยุดนาค” จึงสื่อถึงครุฑในฐานะเทพพาหนะแห่งพระนารายณ์



ที่มาของ “ครุฑยุดนาค” หรือ “ครุฑจับนาค”

ครุฑยุดนาค หรือครุฑจับนาค ในหนังสือ “สัตว์หิมพานต์” ของ ส.พลายน้อย ให้ข้อมูลว่า

“ตามตำนานกล่าวว่าครุฑกับนาคเป็นพี่น้องกัน คือเป็นโอรสของพระกัศยป แต่ต่างมารดา พญาครุฑเป็นลูกนางวินตา พญานาคเป็นลูกนางกัทรุ ซึ่งทั้งสองนี้ไม่ค่อยจะลงรอยกัน

เหตุที่บาดหมางกันจนเป็นศึกสายเลือด ครุฑยุดนาค ก็คือ นางวินตาแม่พญาครุฑริษยานางกัทรุจึงขอพรต่อพระกัศยปให้ลูกของตนกินพวกนาคลูกนางกัทรุ พระกัศยปก็หลับหูหลับตาให้พรตามที่ขอ ทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่าเป็นลูกของตนทั้งสองฝ่าย ด้วยเหตุนั้นครุฑก็เลยกินนาคเป็นอาหาร ล้างผลาญกันเอง

อาการที่ครุฑกินนาคนั้น ไม่ใช่ครุฑจับนาคได้แล้วก็ขม้ำกลืนกินเข้าไปทั้งตัว ความจริงครุฑเลือกกินเฉพาะมันเหลวเท่านั้นอย่างอื่นไม่ปรารถนา เรื่องนี้มีหลักฐานกล่าวไว้ในเรื่องภูริทัตชาดก ตอนหนึ่งว่า ‘เมื่อครุฑพานาคไปถึงต้นงิ้ว ก็จิกด้วยจะงอยปากฉีกท้องนาคกินมันเหลว แล้วทิ้งร่างลงไปในท้องมหาสมุทร’

@@@@@@@

ชั้นแรกที่เดียวครุฑก็จับเฉพาะนาคที่ตัวเล็ก หรือที่มีขนาดพอที่จะจับลากขึ้นมาจากน้ำได้ และต้องอาศัยกำลังความรวดเร็วเป็นสำคัญ เริ่มด้วยกระพือปีกให้น้ำแหวกเป็นช่องมองเห็นตัวนาค แล้วรีบจู่โจมขยุ้มตัวนาคบินขึ้นสู่อากาศ

พวกนาคเมื่อถูกครุฑโฉบเฉี่ยวเอาไปกินอยู่เนืองๆ ก็หาวิธีป้องกันได้นัดแนะกันให้กลืนก้อนหินเข้าไปไว้ในท้องทำตัวให้หนักนอนอยู่ เวลาครุฑมาก็ยื่นหน้าแยกเขี้ยวคอยขบกัดครุฑก็จ้องจับที่ศีราะ พยายามฉุดขึ้นให้พ้นน้ำ แต่เนื่องจากความหนักของก้อนหินถ่วงไว้กว่าครุฑจะหิ้วนาคขึ้นไปได้ก็ถูกคลื่นชัดจมน้ำตายเสียมาก

พวกครุฑได้ประชุมคิดแก้ปัญหานี้อยู่นาน ในที่สุดไปได้อาจารย์ดีซึ่งเป็นอาจารย์ของพวกนาคด้วย ครุฑก็อ้อนวอนให้อาจารย์ไปลวงถามความลับจากพวกนาค ชั้นแรกนาคไม่ยอมบอก แต่อาจารย์เซ้าซี้ถามอยู่สามครา และรับปากว่าจะไม่บอกใครนาคจึงยอมบอกความลับให้ แต่อาจารย์ทุศีลนำความลับไปบอกครุฑ พวกครุฑก็เลยเปลี่ยนแผน กระพือปีกให้น้ำแตกเป็นช่องแล้วก็จู่โจมลงไปจับหางนาค ปล่อยให้หัวนาคห้อยลงมา นาคก็สำรอกอาหารและหินออกหมด ครุฑจึงจับนาคได้โดยสะดวก

ด้วยเหตุนี้ เมื่อเขียนภาพครุฑจับนาค หรือแกะสลักรูปครุฑตามหน้าบันโบสถ์วิหาร จึงให้ครุฑจับหางนาค ปล่อยหัวนาคอยู่ข้างล่าง อันเป็นวิธีจับนาคที่ถูกวิธีและเป็นแบบอย่างของการเขียน หรือแกะสลักรูปครุฑจับนาคที่ถูกต้องต่อมา”




ขอขอบคุณ :-
บทความ : จาก เว็บศิลปวัฒนธรรม
เผยแพร่ : วันพฤหัสที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2563
เผยแพร่ครั้งแรกในระบบออนไลน์ : เมื่อ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2560
website : https://www.silpa-mag.com/history/article_12192 (https://www.silpa-mag.com/history/article_12192)