สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เนื่องด้วยการฝึก กรรมฐาน นั้นผลที่ควรจะได้เป็นเบื้องแรกนั้นต้องคำนึงการระงับอารมณ์ที่จิตได้ผลในเบื้องต้น

เป็นเรื่องสำคัญ แต่เำพราะผู้ฝึกส่วนใหญ่ มักตั้งจิตไว้ผิด คือมักปฏิบัติกรรมฐาน เพื่อความสามารถพิเศษอันเรียกว่า

ฤทธิ์ มากเกินไป หรือ เจาะจงเลย ดังนั้นผู้ฝึกแบบนี้ จึงไม่สำเร็จในองค์กรรมฐาน เพราะวางเป้าหมายสูงเกิน

เป้าหมายในธรรม นั้น ไม่เหมือนเป้าหมาย ในโลก

 เพราะเป้าหมาย ยิ่งประกอบด้วยความอยาก ก็ยิ่งเสื่อม ถ้าประกอบด้วยจิตที่สงบระงับ ก็ยิ่งเจริญ

 ดังนั้นการวางอารมณ์ เป็นเรื่องที่สอนเป็นเรื่องแรก ในองค์กรรมฐาน

 โดยเฉพาะในสาย กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ครูอาจารย์ จะพูดข้อระวังนี้ก่อนเป็นอันดับแรก


 เจริญธรรม

  ;)

การรวมศูนย์จิต

 ผนวก พุทโธ ลงในฐาน จิต จนเป็นหนึ่งเดียว ( มีเท่านี้นะจ๊ะ )

 ;)

เนื่องด้วยการฝึก กรรมฐาน นั้นผลที่ควรจะได้เป็นเบื้องแรกนั้นต้องคำนึงการระงับอารมณ์ที่จิตได้ผลในเบื้องต้น

เป็นเรื่องสำคัญ แต่เำพราะผู้ฝึกส่วนใหญ่ มักตั้งจิตไว้ผิด คือมักปฏิบัติกรรมฐาน เพื่อความสามารถพิเศษอันเรียกว่า

ฤทธิ์ มากเกินไป หรือ เจาะจงเลย ดังนั้นผู้ฝึกแบบนี้ จึงไม่สำเร็จในองค์กรรมฐาน เพราะวางเป้าหมายสูงเกิน

เป้าหมายในธรรม นั้น ไม่เหมือนเป้าหมาย ในโลก

 เพราะเป้าหมาย ยิ่งประกอบด้วยความอยาก ก็ยิ่งเสื่อม ถ้าประกอบด้วยจิตที่สงบระงับ ก็ยิ่งเจริญ

 ดังนั้นการวางอารมณ์ เป็นเรื่องที่สอนเป็นเรื่องแรก ในองค์กรรมฐาน

 โดยเฉพาะในสาย กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ครูอาจารย์ จะพูดข้อระวังนี้ก่อนเป็นอันดับแรก


 เจริญธรรม

  ;)

(http://kid.madchima.org/images/Banner/soonjit2.jpg)

การรวมศูนย์จิต

 ผนวก พุทโธ ลงในฐาน จิต จนเป็นหนึ่งเดียว ( มีเท่านี้นะจ๊ะ )

 ;)

สาธุด้วยเจ้าข้า.........ที่ท่านอาจารย์ทั้งสองพูดมานั้นถูกต้องที่สุดแต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่า.....จริงๆแล้วผู้ปฎิบัติเกือบทุกคนก็ยังเป็นปุถุชนกันอยู่ดังนั้นไม่แปลกเลยที่จะมีความตั้งใจแบบโลกๆ(ยังมีที่ตั้งอยู่,ยังเจืออามิสอยู่).....ดังนั้นก็ต้องปล่อยให้เข้าไปอยู่ในความเป็นอย่างนั้นเสียให้อิ่ม(ให้เบื่อ)...เมื่อเห็นสิ่งเหล่านั้นจนเข้าใจในความเป็นอย่างนั้นแล้วเห็นโทษเห็นภัยในความเป็นอย่างนั้นแล้ว ก็จะก้าวข้ามความเป็นอย่างนั้นเสียได้........การพัฒจาของจิตก็จะสำฤทธิ์ผลได้ระดับหนึ่ง........แล้วค่อยมาปรับฐิทิกันอีกที.......
............................................................................
อ้อ .....ดิฉันลืมบอกไปว่า.....ตอนนี้.....ครอบครัวตุ๊กแก..ที่บ้านดิฉันได้เพิ่มสมาชิกมาอีก ......เป็นทั้งหมด ๑๐ ตัวแล้วค่ะ......
           พ่อ๑....เมียหลวง๑.......เมียน้อย๑......ลูก(generationที่๑)๒.....ลูก(generationที่๒)๒....ลูก(generationที่๓)๓.......
.............................................................................
ดิฉันแก้ปัญหาด้วยวิธี ในเวลากลางคืนจะไม่เปิดไฟไว้ เพื่อจำกัดแหล่งอาหารของตุ๊กแก.....ค่ะ....

องค์ฺสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงตรัสไว้ใน อานาปานสติสูตร มหาวารวรรค ความว่า

ดูก่อนภิกษุ เธอจงพอใจในธรรมอันเป็นความระงับ อันเป็นผลจากการเจริญอานาปานสติ

เมื่ออานาปานสติสมบูรณ์ ย่อมทำให้โพชฌงค์ สมบูรณ์


ดังนั้นผลการปฏิบัติ จริง ๆ นั้น

ให้ผู้ภาวนาวัดสภาวะจิตของตนเอง ที่สงบระงับจากกิเลสได้หรือไม่ ในขณะนั้น พึงพอกพูนความสงบระงับ

นั้นไว้ให้มาก จนยิ่ง จนจบพรหมจรรย์

อันนี้นำไว้ให้ท่านทั้งหลาย ผู้ปฏิบัติภาวนา ได้วางจิตให้ถูกตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสแสดงไว้ นะจ๊ะ

เจริญธรรม

 ;)

ดิฉันแก้ปัญหาด้วยวิธี ในเวลากลางคืนจะไม่เปิดไฟไว้ เพื่อจำกัดแหล่งอาหารของตุ๊กแก.....ค่ะ..

;)

(http://kid.madchima.org/images/Banner/soonjit2.jpg)

เห็นภาพแล้ว เหมือนจะเข้าใจ อะไรบางอย่าง แต่มันก็ติดอยู่ที่ เข้าใจอะไร... งง ๆ ตัวเอง ครับ

อาจจะเพราะบารมีธรรม ยังไม่พอครับ
 :s_good:

มีแต่พุทโธ   :)   ;) 

 :welcome: