หัวข้อ: “กินนร-กินรี-กินนารอน” อมนุษย์ที่ปรากฏในเทพนิยาย อาศัยในป่าหิมพานต์ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 27, 2023, 05:44:03 am (https://www.matichonweekly.com/wp-content/uploads/2023/02/ล้านนาคำเมือง-cover-2219-696x418.jpg) “กินนร-กินรี-กินนารอน” อมนุษย์ที่ปรากฏในเทพนิยาย อาศัยในป่าหิมพานต์ ตรงกับภาษาไทยว่า “กินนร-กินรี” หมายถึง อมนุษย์ที่ปรากฏในเทพนิยาย โดยกินนรเป็นเพศชาย ส่วนกินรีเป็นเพศหญิง มีถิ่นอาศัยในป่าหิมพานต์ ชื่อของ “กินนร-กินรี” ได้ตามรูปร่างลักษณะ คือมีลักษณะครึ่งคนครึ่งนก ท่อนบนเป็นคน ท่อนล่างเป็นนก จึงให้ศัพท์เป็น กิํํ + นร (กิํ – อะไร) เมื่อรวมเป็นคำตามหลักสนธิทางภาษาก็สำเร็จเป็น กินนร แปลว่าคนอะไร ประมาณความหมายว่า “คนอะไรมีตัวเป็นนก” (https://www.matichonweekly.com/wp-content/uploads/2023/02/กินนารอน-กินนารี-1-696x222.jpg) กินาฯนฯรอฯร กินาฯนฯรี อ่านว่า “กิ๋นนาลอน กิ๋นนาลี” กินนรและกินรีที่เป็นครึ่งคนครึ่งนกพบบ่อยๆ ในลักษณะของรูปปั้นหรือภาพเขียนทั่วไป กล่าวถึงกินนารอนและกินนารีในภาษาล้านนามักปรากฏในวรรณกรรมในฐานะของอมนุษย์ที่ชำนาญในการฟ้อนรำ ดังในวรรณกรรมเรื่อง เวสสันตระ ฉบับไผ่แจ้เรียวแดง ตอนที่พรรณนาปราสาทหรือเมรุบรรจุร่างพระนางมัทรีตอนหนึ่งว่า “…รูปนกเกรียนม่ายหัสสดีลิงค์แลการวีก แขกเต้าปีกเขียวสรี มีทังรูปกินนารีนารอนม่ายฟ้อน ปลายตีนอย่อนหากัน…” นอกจากนี้ ยังพบว่ามีอีกชนิดหนึ่งมีรูปเหมือนคนเวลาจะบินใส่ปีกใส่หางแล้วบินไป อย่างเช่นในวรรณกรรมเรื่อง สุธนชาดก นางมโนราห์เป็นนางกินนารีที่ใส่ปีกและหางบินจากเมืองทุมมราชมาเล่นน้ำแล้วถูกพรานปุณฑริกจับไปถวายพระสุธน เมื่ออยู่กับพระสุธนก็ถูกยึดปีกและหางไว้ ตอนที่นางจะถูกฆ่าบูชายัญนั้น นางได้อ้อนวอนขอปีกขอหางมาใส่โดยอ้างว่าจะฟ้อนรำให้ชมก่อนตาย และเมื่อได้แล้วนางก็รีบบินหนีกลับเมืองทุมมราช (https://www.matichonweekly.com/wp-content/uploads/2023/02/กินนารอน-กินนารี-3-672x1024.jpg) รูปกินาฯนฯรีแบบฯฯล้านฯนาฯที่วัดฯหางฯด฿งฯ ฮูปกิ๋นนาลีแบบล้านนาตี้วัดหางดง แปลว่า จิตรกรรมฝาผนังกินรีแบบล้านนาที่วัดหางดง ครั้นพระสุธนเดินทางติดตามไปจนพบ พญาทุมมราชราชบิดาของนางมโนราห์ได้เนรมิตปีกและหางให้พระสุธนสามารถบินได้อย่างนางกินนารี เพื่อจะได้พากันบินกลับยังเมืองอุตตรปัญจาลนครซึ่งเป็นเมืองเดิมของพระสุธน การที่พระสุธนบินได้เหมือนกินนารีก็แสดงว่าพระสุธนอยู่ในลักษณะของกินนารอน อนึ่ง การแสดงของชาวไทใหญ่ที่ใส่ปีกและหางอย่างนกแล้วฟ้อนรำ เรียกกันทั่วไปว่า “ก้านก” คือฟ้อนนก เรียกตัวผู้ฟ้อนว่า “กิงกะหร่า” จะเห็นได้ว่ากิงกะหร่า มีรากศัพท์มาจาก กึ + นรา เช่นกัน เพียงแต่สนธิต่างกัน กล่าวคือ แปลงนิคหิตเป็น ง สะกด แล้วใช้ ก เป็นตัวตาม ส่วน น หายไปเพราะออกเสียงไม่เข้ากัน นอกจากนี้ ในเอกสารโบราณหรือวรรณกรรมเก่าแก่เรื่องอื่นๆ ยังปรากฏคำว่า “กังรี” และ “กังขารี” ซึ่งถ้าพิเคราะห์ดูก็จะเห็นว่ามาจาก กํ + นรี (กํ – อะไร) ซึ่งมีความหมายไม่แตกต่างจาก กึ + นรี แต่ประการใด • ขอขอบคุณ :- ที่มา : มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 24 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม 2566 คอลัมน์ : ล้านนาคำเมือง เผยแพร่ : วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 URL : https://www.matichonweekly.com/culture/article_651022 (https://www.matichonweekly.com/culture/article_651022) |