สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

 :25: :25: :25:

ศุกร์ (สุข) ละวัด ไหว้ ‘พระศาสดา’ ชมความงามจิตรกรรมฝาผนัง ที่ ‘วัดสุวรรณาราม’

วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร หรือนิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า “วัดสุวรรณาราม” เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร ปัจจุบันวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 32 ถนนจรัญสนิทวงศ์ ตรงข้ามกับแยกบางขุนนนท์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กทม.

วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร (https://www.facebook.com/watsuwannaramBKK/?locale=th_TH) เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อ “วัดทอง” มีลักษณะเป็นลานกว้างขวาง ในสมัยกรุงธนบุรี เป็นสถานที่ซึ่ง สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี มีพระราชดำรัสให้นำเชลยศึกพม่าจากค่ายบางแก้วไปประหารชีวิต

(https://www.thebangkokinsight.com/wp-content/uploads/2023/03/3F23ED1D-D672-4CBE-8912-21813E05B6EC.jpg)

ต่อมา พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ทรงรับเข้ามาอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสถาปนาขึ้นใหม่ ทั้งพระอาราม และพระราชทานนามว่า “วัดสุวรรณาราม” เนื่องจากพระองค์มีพระนามเดิมว่า “ทองด้วง” เช่นเดียวกับชื่อวัด

นอกจากนี้ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ได้มีพระราชศรัทธาสร้างเมรุหลวงสำหรับใช้ในการพระราชทานเพลิงศพเจ้านาย และขุนนางผู้ใหญ่ ซึ่งตามประเพณีต้องนำไปฌาปนกิจนอกกำแพงพระนครชั้นนอก โดยเมรุหลวงนี้ใช้มาจนถึงในสมัยรัชกาลที่ 5

(https://www.thebangkokinsight.com/wp-content/uploads/2023/03/5ACED177-6814-4326-996A-4E4C02BBADCC.jpg)

(https://www.thebangkokinsight.com/wp-content/uploads/2023/03/B3E41400-E833-452E-8DF6-8C3FC9D33BCC.jpg)

ในสมัยรัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์วัดสุวรรณาราม และให้ช่างเขียนภาพฝาผนังในพระอุโบสถด้วย มีงานของหลวงวิจิตรเจษฎา (ทองอยู่) ผู้เขียนเนมิราชชาดก กับหลวงเสนีย์บริรักษ์(คงแป๊ะ) ผู้เขียนมโหสถชาดก ซึ่งเป็นจิตรกรขึ้นชื่อในยุคนั้นทั้งคู่

ทั้งคู่เขียนภาพด้วยวิธีประชันกัน โดยใช้ผ้าคลุมภาพเอาไว้ และเปิดออกให้เห็นเมื่องานเสร็จแล้ว นับเป็นจิตรกรรมฝาผนังในยุครัตนโกสินทร์ที่สวยงาม มีความละเอียดอ่อนของลายเส้น มีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ และมีความสมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร และประเทศไทย

(https://www.thebangkokinsight.com/wp-content/uploads/2023/03/EC7367FC-06B7-4E8C-A535-3DC7EB4022CD.jpg)

พระอุโบสถของวัด สร้างตามแบบแผนศิลปกรรมสมัยรัชกาลที่ 1 มีเสาทรงสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง มีระเบียงทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ช่อฟ้าใบระกาประดับกระจก หน้าบันจำหลักลายรูปเทพนม และรูปนารายณ์ทรงครุฑปิดทอง

ภายในพระอุโบสถ นอกจากภาพจิตรกรรมฝาผนังแล้ว ยังเป็นที่ประดิษฐานของ“พระศาสดา” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปหล่อปางมารวิชัย ฝีมือช่างเดียวกันกับพระศรีศากยมุนีที่วัดสุทัศน์ สันนิษฐานว่าเป็นพระพุทธรูปที่เชิญมาแต่กรุงสุโขทัย ในสมัยรัชกาลที่ 1

(https://www.thebangkokinsight.com/wp-content/uploads/2023/03/DCDF61D6-4DF1-4D8C-B448-28534F63D277.jpg)

มีความเชื่อ และความศรัทธาในพระศาสดาว่า มีความศักดิ์สิทธิ์ และดลบันดาลให้สมประสงค์ได้ในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการเกณฑ์ทหาร ผู้คนจึงนิยมมาแก้บนด้วยการนำผ้าขาวม้ามาผูกเอวและวิ่งวนรอบพระอุโบสถ 3 รอบ พร้อมกับส่งเสียงเหมือนม้าร้องไปด้วย เรียกว่า “วิ่งม้า” เนื่องจากมีเรื่องเล่าว่าในอดีต มีผู้พบเห็นม้าสีขาวตัวหนึ่งวิ่งวนรอบพระอุโบสถ จึงเชื่อกันว่าพระศาสดาคงโปรดม้า

(https://www.thebangkokinsight.com/wp-content/uploads/2023/03/688FA4B0-01E8-4A53-86BE-95A754EF21AC.jpg)

(https://www.thebangkokinsight.com/wp-content/uploads/2023/03/2A8FF6E6-1BDB-44FE-BF5D-504E6B561A78.jpg)

สถาปัตยกรรมอื่น ๆ ภายในวัดได้แก่ *พระวิหาร* สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 ซึ่งมีมุขขวางทั้งด้านหน้า และด้านหลัง กับ *หมู่กุฏิสงฆ์* ที่เป็นเรือนไม้ฝาปะกน เก่าแก่และงดงามมาก โดยเป็นหมู่ตึก 6 หลัง มีหอฉันอยู่กลาง และมีหอเล็กติดกำแพง 2 หอพร้อมทั้งหอระฆังและหอไตร

ใครผ่านวัดนี้ ลองแวะมาดูความสวยงามของจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถกันสักครั้ง

(https://www.thebangkokinsight.com/wp-content/uploads/2023/03/BBE8FF0F-ED32-4CA4-B1CD-06ECE42A62BF.jpg)

(https://www.thebangkokinsight.com/wp-content/uploads/2023/03/1A4D7282-71E8-4237-9FE8-977B3C48C6BB.jpg)




Thank to : https://www.thebangkokinsight.com/news/lifestyle/travel/1061929/ (https://www.thebangkokinsight.com/news/lifestyle/travel/1061929/)
โดย PRASERT THEPSRI