หัวข้อ: “ต้นพระศรีมหาโพธิ์” ที่เคารพนับถือของชาวพุทธฯ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ เมษายน 03, 2023, 05:25:33 am (https://gumlet.assettype.com/ejan%2F2023-04%2Ff856fafa-53ca-455a-b2d0-9e768927b1d4%2Fdcd91801-67ac-4e31-8147-db0099b4ba8a.jpg?auto=format%2Ccompress&fit=max&format=webp&w=768&dpr=1.0)
“ต้นพระศรีมหาโพธิ์” ที่เคารพนับถือของชาวพุทธฯ ประวัติ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ เเดนพระพุทธเจ้าตรัสรู้ ความสำคัญเเละศักดิ์สิทธิ์ของชาวพุทธ พ.ศ. 2357 พระสมณทูตไทยนำหน่อ 6 ต้นกลับมาปลูกที่ไทย “ต้นพระศรีมหาโพธิ์” ที่สำคัญที่ยังคงยืนต้นอยู่ในปัจจุบันนี้ มี 3 ต้น คือ 1.ต้นพระศรีมหาโพธิ์ อยู่ที่ พุทธคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย เป็นสถานที่ตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งยืนต้นอยู่เหนือพระแท่นวัชรอาสน์ หรือโพธิบัลลังก์ (https://gumlet.assettype.com/ejan%2F2023-04%2Fca7d6dff-7b1b-4dbe-ac49-c18259abaa7e%2FS__42164397.jpg?auto=format%2Ccompress&format=webp&w=768&dpr=1.0) ขอบคุณภาพเเละข้อมูล : วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร ในปัจจุบันนี้นับเป็น “ต้นพระศรีมหาโพธิ์” หน่อหรือต้นที่ 4 เป็น 1 ใน 2 หน่อที่แตกขึ้นมาจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นที่ 3 ที่ล้มตายไป โดยท่านเซอร์คันนิ่งแฮม ผู้เชี่ยวชาญทางโบราณคดีชาวอังกฤษ ได้บำรุงดูแลปลูกหน่อหนึ่งไว้ที่บริเวณต้นเดิม อีกหน่อหนึ่งแยกนำไปปลูกไว้ในที่ไม่ไกลจากต้นเดิมทางด้านทิศเหนือ ห่างกันประมาณ 250 ฟุต ปัจจุบันต้นพระศรีมหาโพธิ์ทั้ง 2 ต้นยังคงยืนต้นอยู่ มีอายุยืนถึงปัจจุบันนี้กว่า 137 ปี (นับจากเริ่มปลูกประมาณระหว่างปี พ.ศ. 2423-2560) ได้ชื่อว่าเป็นต้นโพธิ์ที่มีความสำคัญและศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวพุทธ ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ประเทศไทยได้พันธุ์ต้นพระศรีมหาโพธิ์จากพุทธคยา แดนตรัสรู้ โดยตรงเป็นครั้งแรก ทรงโปรดเกล้าฯ ให้นำไปปลูกไว้ ณ วัดเบญจมบพิตร และวัดอัษฎางคนิมิตร จ.ชลบุรี (https://gumlet.assettype.com/ejan%2F2023-04%2F2dbd9f16-8247-40c9-9b9f-3dfe0c0cd377%2FS__42164398.jpg?auto=format%2Ccompress&format=webp&w=768&dpr=1.0) ขอบคุณภาพเเละข้อมูล : วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร 2.ต้นอานันทโพธิ์ ณ วัดเชตวันมหาวิหาร เมืองสาวัตถี ประเทศอินเดีย ต้นนี้เป็นต้นดั้งเดิม โดยเป็นต้นโพธิ์ที่ได้ปลูกเป็นต้นแรกในสมัยพุทธกาล ที่ประตูหน้าวัดเชตวันมหาวิหาร เมืองสาวัตถี ชมพูทวีป (ปลูกจากเมล็ดของ “ต้นพระศรีมหาโพธิ์” ณ พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้) โดยพระอานนท์เป็นผู้ดำเนินการตามความปรารภของอนาถบิณฑิกเศรษฐี จึงเรียกชื่อว่า อานันทโพธิ์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นต้นโพธิ์ที่มีอายุยืนที่สุดในโลก ที่ยังคงยืนต้นอยู่มาจนถึงปัจจุบัน มีอายุกว่า 2,560 ปี (มีอายุมากกว่าพุทธศักราช) และชาวพุทธนับถือว่ามีความสำคัญและศักดิ์สิทธิ์เป็นอันดับสองรองจาก “ต้นพระศรีมหาโพธิ์” ณ พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้ รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย พุทธคยาในสมัยพุทธกาล หลังจากการตรัสรู้และเสวยวิมุตติสุขของพระพุทธเจ้าแล้ว ไม่ปรากฏหลักฐานว่าพระพุทธองค์ได้ทรงเสด็จมา ณ ที่แห่งนี้ แต่อย่างใด มีกล่าวถึงในอรรถกถา แต่เมื่อคราวพระอานนท์ได้มายังพุทธคยา เพื่อนำเมล็ดพันธุ์ของต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าทรงประทับตรัสรู้ กลับไปปลูก ณ วัดเชตวันมหาวิหาร ตามความปรารภของอนาถบิณฑิกเศรษฐี ซึ่งปรารถนาให้มีสิ่งเตือนใจเมื่อพระพุทธเจ้าทรงเสด็จไปประทับที่อื่น ประวัติความเป็นมาของ “ต้นอานันทโพธิ์” จากหนังสือปูชาวัลลิยะของสมาคมมหาโพธิ์ เมืองกัลกัตตา ประเทศอินเดีย กล่าวไว้ว่า “แม้ว่าพระเชตวันมหาวิหาร จะเป็นที่ยังความสะดวกและความสงบให้เกิดได้ ยิ่งกว่าสถานที่แห่งใดๆ อันเป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้า แต่พระองค์ได้ประทับพักตลอดปีไม่ แต่ละปีพระพุทธองค์ทรงประทับพัก เพียง 3 เดือนในพรรษาเท่านั้น ส่วนอีก 9 เดือนของปีนอกฤดูฝน พระองค์เสด็จจาริกออกไปแสดงธรรมในคามนิคมชนบทและหัวเมืองอื่น เมื่อพระพุทธเจ้าต้องเสด็จไปสู่ที่อื่นประมาณปีละ 9 เดือน ชาวนครสาวัตถีผู้เลื่อมใสในพระธรรม ใคร่จะทูลเฝ้าพระพุทธเจ้าอยู่เป็นนิจไม่ปรารถนาให้พระองค์เสด็จไปประทับแห่งใดๆ จึงพากันเกิดความเดือดร้อนใจ ปรึกษากันว่า จะทำไฉนหนอ จึงจะทูลเชิญพระองค์ให้ประทับอยู่ตลอดปีได้ เมื่อพระองค์ต้องเสด็จไป ก็ทำให้เกิดความอ้างว้างใจ จะหาสิ่งใดของพระองค์ให้ปรากฏอยู่เป็นเครื่องระลึกแทนองค์พระพุทธเจ้าได้” ความนั้นทราบถึง พระอานนท์เถระ พุทธอุปัฏฐาก เป็นต้น จึงนำกราบทูลให้ทรงทราบ พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงพระมหากรุณา จึงรับสั่งให้นำ ผลสุขแห่งโพธิ์ (เมล็ด) ที่ตำบลพุทธคยา มาปลูกไว้ที่หน้าวัดพระเชตวันมหาวิหาร เมืองสาวัตถี เพื่อเป็นเครื่องหมายแทนพระองค์ จักได้เป็นที่บูชากราบไหว้ของคนทั้งปวง ครั้งนั้น พระมหาโมคคัลลานะ อัครสาวกฝ่ายซ้าย ทราบความประสงค์ของพระพุทธเจ้าจึงทูลอาสาแสดงฤทธิ์ โดยเหาะไปในอากาศถึงตำบลพุทธคยา นำเอาผลสุขแห่งโพธิ์ (เมล็ด) กลับมายังพระเชตวันมหาวิหารได้ในวันเดียวกันนั้น ครั้นนำผลสุขแห่งโพธิ์ (เมล็ด) มาแล้ว ก็มีการปรึกษากันว่า ผู้ใดจักสมควรเป็นผู้ปลูก เบื้องต้นชาวเมืองและพระสงฆ์พร้อมใจกันถวายพระเกียรติแด่ พระเจ้าปเสนทิโกศล กษัตริย์ผู้ครองกรุงสาวัตถี ให้ทรงเป็นผู้ปลูก แต่ทรงปฏิเสธ โดยบอกว่าฐานะกษัตริย์ย่อมไม่มั่นคงถาวร ทายาทที่จะมาภายหลังจะให้ความคุ้มครอง บำรุงรักษาต้นโพธิ์ต่อไปนี้ได้หรือไม่ก็ไม่ทราบได้ จึงควรยกเกียรตินี้ให้แก่คนอื่น ในที่สุดก็ได้ตกลงให้ ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เป็นผู้ปลูก เพราะด้วยคิดกันว่า ต้นโพธิ์จะอยู่ภายในที่สาคัญของท่านอย่างหนึ่งและท่านมีบริวารข้าทาสหญิงชายมาก คงสืบตระกูลช่วยกันรักษาต้นโพธิ์ ต่อๆ กันไปได้อีกอย่างหนึ่ง เมื่อปลูกเสร็จก็ได้มีการฉลองต้นโพธิ์ และพระพุทธองค์ก็ได้เสด็จประทับนั่งอยู่ภายใต้ต้นโพธิ์ 1 ราตรี ตั้งแต่นั้นมา ชาวเมืองก็พากันกราบไว้ต้นโพธิ์เสมือนเครื่องระลึกแทนพระพุทธเจ้า ที่เรียกชื่อว่า อานันทโพธิ์ นั้นเป็นเพราะว่าพระอานนท์เป็นผู้จัดการดูแล เรื่องการปลูกและรดน้ำจนต้นโพธิ์เจริญเติบโตนั่นเอง อานันทโพธิ์ต้นนี้ยังคงยืนต้นอยู่ ณ ภายในวัดเชตวันมหาวิหาร นครสาวัตถี รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย ตราบเท่าถึงปัจจุบันนี้ (https://gumlet.assettype.com/ejan%2F2023-04%2F9440afa0-206a-45e8-a6c6-3614c5fb34b2%2FS__42164401.jpg?auto=format%2Ccompress&format=webp&w=768&dpr=1.0) ขอบคุณภาพเเละข้อมูล : วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร (https://gumlet.assettype.com/ejan%2F2023-04%2Fa1e17732-c5d0-43bd-8512-83e63417f633%2FS__42164392.jpg?auto=format%2Ccompress&format=webp&w=768&dpr=1.0) ขอบคุณภาพเเละข้อมูล : วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร อานันทโพธิ์ คือต้นโพธิ์ที่มาจาก ต้นพระศรีมหาโพธิ์ พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้ชาวพุทธทั่วโลกจึงให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่พุทธคยาถูกทำลายมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ที่วัดเชตวันมหาวิหารนี้ยังคงอยู่ เราจึงเชื่อว่า ต้นอานันทโพธิ์มีความศักดิ์สิทธิ์ไม่แพ้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่พุทธคยา 3.ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ณ เมืองอนุราธปุระ ประเทศศรีลังกา (เมืองอนุราธปุระ เป็นเมืองมรดกโลกและเมืองหลวงแห่งแรกของประเทศศรีลังกา) หลังพุทธกาลในรัชสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช เมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 3 พระนางสังฆมิตตาเถรี พระราชธิดาของพระเจ้าอโศกมหาราช พระภิกษุณีรูปสุดท้ายในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท ขณะทรงอัญเชิญพระคัมภีร์ทางพุทธศาสนามาเผยแผ่ในประเทศศรีลังกาเป็นครั้งแรก ได้ทรงนำ กิ่งด้านขวาของ “ต้นพระศรีมหาโพธิ์” ณ พุทธคยา ประเทศอินเดีย อันเป็นสถานที่ตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาพร้อมกันด้วย โดยทรงเดินทางลงเรือมามอบให้แด่ พระเจ้าเทวานัมปิยติสสะ เพื่อให้ประดิษฐาน (ทรงปลูก) ไว้ ณ เมืองอนุราธปุระ ประเทศศรีลังกา (https://gumlet.assettype.com/ejan%2F2023-04%2Ff0b64114-4df4-4ab3-978e-2efe98540b67%2FS__42164395.jpg?auto=format%2Ccompress&format=webp&w=768&dpr=1.0) ขอบคุณภาพเเละข้อมูล : วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร (https://gumlet.assettype.com/ejan%2F2023-04%2F9b302945-3177-4859-a14b-5b3bda5c7107%2FS__42164391.jpg?auto=format%2Ccompress&format=webp&w=768&dpr=1.0) ขอบคุณภาพเเละข้อมูล : วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นนี้ยังคงยืนต้นอยู่มาจนถึงปัจจุบัน (ปี พ.ศ. 2560) มีอายุกว่า 2,305 ปี อันเนื่องมาจากชาวศรีลังกาได้ทำนุบำรุงรักษาดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีตลอดมา มีการค้ำด้วยไม้ที่หุ้มด้วยทองคำ และทำรั้วกำแพงทองคำล้อมรอบไว้ ผู้ที่จะเข้าไปกราบสักการะต้องผ่านการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เพื่อความปลอดภัย ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ปี พ.ศ. 2357 พระสมณทูตไทยได้นำหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์ เมืองอนุราธปุระ มาด้วยจำนวน 6 ต้น โดยโปรดเกล้าฯ ให้ปลูกไว้ที่เมืองนครศรีธรรมราช 2 ต้น นอกนั้นปลูกไว้ที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ท่าพระจันทร์, วัดสุทัศนเทพวราราม,วัดสระเกศฯ และที่เมืองกลันตัน ประเทศมาเลเซีย แห่งละ 1 ต้น ขอบคุณภาพเเละข้อมูล : วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร Thank to : https://www.ejan.co/general-news/kjxltvnrow (https://www.ejan.co/general-news/kjxltvnrow) อีจัน 1| เผยแพร่เมื่อ : 1 เม.ย., 2023, 20:23 |