หัวข้อ: สงบ สบตา สัมผัส ภาวนา รับพร เคล็ดลับบูชาเจ้าแม่กวนอิมให้สมหวัง เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ เมษายน 05, 2023, 05:34:36 am (https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/04/%E0%B8%A7%E0%B8%B2-768x433.jpg) สงบ สบตา สัมผัส ภาวนา รับพร เคล็ดลับบูชาเจ้าแม่กวนอิมให้สมหวัง "องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม" เป็นหนึ่งในหลายพระโพธิสัตว์ตามคติความเชื่อของพุทธศาสนานิกายมหายาน มีสมญานามว่า “พระมหาโพธิสัตว์แห่งมหาเมตตาและมหากรุณา” รวมถึงยังมีความเชื่อที่หลากหลายเกี่ยวกับการบูชา อาจารย์กิตติพงศ์ธนา นุตาลัย ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์โรงเจฉื่อเต็กเจตั๊ว ตำบลหนองตีนนก อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา และผู้เชี่ยวชาญด้านศาสนพิธีและศิลปวัฒนธรรมจีน บอกเล่าให้ทราบถึงการบูชาองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม บูชาอย่างไรให้ถูกต้อง บูชาแบบไหนถึงจะสัมฤทธิผล “ศาสนิกชนที่นับถือองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะไม่นิยมบริโภคสัตว์ใหญ่ แต่จริง ๆ แล้ว ข้อห้ามก็ไม่ได้มีกำหนดตายตัว ผู้ศรัทธาที่ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ก็เพียงพอต่อการบูชา ในการกราบไหว้ขอพร” สิ่งสำคัญต้องเริ่มที่ “ใจ” หรือ “จิต” หากมี “จิตที่ตั้งมั่น” ร่วมกับ “ศรัทธา” แล้ว การกราบไหว้ย่อมสัมฤทธิผลทุกประการ ผู้ที่มีจิตตั้งมั่นระลึกถึงองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมด้วยความศรัทธา ย่อมจะได้รับความสำเร็จและสมปรารถนา (https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/04/03P04S1V05.jpg) อาจารย์กิตติพงศ์ธนา แนะนำเคล็ดลับการบูชาองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม ณ วิหารอี่ ทง เทียน ไท้ ให้ประสบผลสำเร็จแบบที่ทำได้ไม่ยาก นั่นคือ “สงบ สบตา สัมผัส ภาวนา รับพร” “สงบ” คือ การทิ้งเรื่องราวกลัดกลุ้มร้อนใจเพียงชั่วครู่ ดึงสติ สมาธิเข้าสู่จิตของเราให้นิ่ง “สบตา” หมายถึง การสบตาองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม มองให้เห็นถึงความเมตตาและกรุณาที่อยู่บนพระพักตร์ของท่าน “สัมผัส” เป็นการสัมผัสไปที่องค์พระโพธิสัตว์กวนอิมแกะสลักจากหยกขาว รับพลังธรรมชาติ พร้อมอธิษฐานในใจ “ภาวนา” สวดภาวนา งัน มา นี ปา มี ฮง/นะโมกวงซีอิมผ่อสัก/ขอนอบน้อมแด่พระโพธิสัตว์กวนอิม จำนวน 9 จบ และจบด้วยการ “รับพร” หมายถึง การรับพรอันเป็นมงคลกลับบ้านด้วยความอิ่มเอมใจ (https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/04/03P04S1V06.jpg) การที่องค์พระโพธิสัตว์กวนอิมที่ประดิษฐาน ณ วิหารอี่ ทง เทียน ไท้ ภายในสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์กบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรีประทับยืนบนหลังพญามังกรเวียนว่ายกลางมหาสมุทรนั้น พญามังกรเปรียบได้กับความมั่งคั่งรํ่ารวย สายนํ้าเปรียบได้กับความลื่นไหลราบรื่น สำเร็จ รํ่ารวย ดังนั้นคนที่มากราบไหว้บูชาอธิษฐานแล้วต้องไม่ลืมลูบพญามังกรด้วย เพื่อให้ได้ทั้งสมความปรารถนาและรํ่ารวย (https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/04/03P04S1V01.jpg) สำหรับองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมประทับยืนบนหลังพญามังกร หรือเจ้าแม่กวนอิมปางยืนบนมังกร “นํ่าไฮ้กวนซีอิมผ่อสัก” พระโพธิสัตว์แห่งทะเลใต้ผู้คอยรับฟังคำขอพรเป็นปางที่เกิดขึ้นในสมัยที่พระแม่กวนอิมอยู่ในแดนสุขาวดี มีพญาเต่าและพญามังกรบำเพ็ญมานานจนสามารถแปลงเป็นคนได้ครั้งหนึ่งลูกชายพญามังกรซึ่งมีนิสัยเกเรได้แปลงเป็นคนมาเที่ยวเมืองมนุษย์ เกิดหลงรักหญิงสาวในหมู่บ้านและได้ล่วงเกินก่อนฆ่าทิ้ง ชาวบ้านจับได้จึงฆ่าลูกพญามังกร พญามังกรโกรธมากจึงอาละวาดทำให้นํ้าท่วม เมืองจีนเกิดความวุ่นวาย ข้าวยากหมากแพง เจ้าแม่กวนอิมเห็นว่าถ้าให้ผู้อื่นไปปราบพญามังกรอาจถูกฆ่า ดังนั้นเจ้าแม่กวนอิมจึงอาสาลงมาปราบ จนพญามังกรสำนึกผิดยอมให้เจ้าแม่กวนอิมเหยียบพญามังกรขึ้นไปจองจำหรือบำเพ็ญบนสวรรค์ ว่ากันว่า เจ้าแม่กวนอิมปางยืนบนมังกรนี้ เหมาะสำหรับการอธิษฐานขอให้ได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง หรือขอให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล นับเป็นพระโพธิสัตว์องค์สำคัญของพุทธศาสนามหายาน และมีผู้เลื่อมใสศรัทธาในพระโพธิสัตว์องค์นี้มากมายทั่วโลกแทบในทุกทวีปก็ว่าได้ ด้วยทรงมีเมตตาอเนกอนันต์ประการ ทรงพระกรุณาต่อสรรพสัตว์ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ด้วยเชื่อกันว่าด้วยพระญาณบารมีของพระโพธิสัตว์กวนอิมจะคุ้มครองปกปักรักษาและให้ประสบความสำเร็จในทุกประการ อีกทั้งปลอดภัยจากอุบัติเหตุทั้งหลายทั้งปวง สมหวังในสิ่งที่ตนพึงปรารถนา องค์พระโพธิสัตว์กวนอิมประทับยืนบนหลังพญามังกรนี้แกะสลักจากหยกขาวชิ้นเดียวที่ได้มาจากเหมืองในป่าลึกของเมืองนับปีตรู ประเทศเมียนมา โดย อุทิศ ชัยลือกิจ เป็นผู้บริจาคเนื้อหยกขาว จากนั้นจึงชักลากด้วยช้างและรถยนต์ เดินทางผ่านเข้าสู่ประเทศจีนทางด่านมูเซไปยังกรุงปักกิ่ง เมื่อแกะสลักสำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงบรรทุกโดยรถยนต์ลงมายังเมืองท่าเทียนสิน เพื่อเดินทางโดยเรือเดินทะเล มาขึ้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง ประเทศไทย ในวันที่ 14 สิงหาคม 2557 (https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/04/03P04S1V08.jpg) เฉพาะองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมสูงถึง 2.62 เมตร หนัก 2.8 ตัน ฐานบัวสูง 0.45 เมตร หนัก 0.78 ตัน ฐานมังกรสูง 1.02 เมตร หนัก 4.95 ตัน และฐานแปดเหลี่ยมสูง 0.91 เมตร หนัก 5.9 ตัน แกะสลักโดยช่างชาวจีน โดยแกะเป็นองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมปางประทานพรประทับบนมังกร ที่มือของพระองค์ถือแจกันประทานนํ้าอมฤต นํ้ามนต์ศักดิ์สิทธิ์ และกิ่งหลิว ไว้คอยชะล้าง ขจัดปัดเป่าทุกข์โศกโรคภัยของผู้ที่มากราบไหว้ขอพร และยังเป็นเสมือนนํ้าทิพย์ที่ชโลมกายใจให้สะอาดบริสุทธิ์ชุ่มฉํ่าด้วยนํ้าพระทัยแห่งความเมตตาที่ยากจะหาใดเปรียบได้ ในส่วนของตัววิหารจำลองแบบมาจาก “วิหารเทียนถาน” กรุงปักกิ่ง ที่จักรพรรดิราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิง ใช้เป็นสถานที่บูชาฟ้า บวงสรวงเทพยดา เพื่อขอพรให้ฝนฟ้าตกตามฤดูกาล ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998 ปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังแห่งหนึ่งของจีน ด้วยความเชื่อที่ว่าวงกลมหมายถึงโลกมนุษย์ วิหาร “อี่ ทง เทียน ไท้” จึงออกแบบมาให้เป็นรูปทรงกลมตามอาคารต้นแบบ สร้างซ้อนขึ้นไป 3 ชั้น มุงด้วยกระเบื้องสีเขียว ที่หมายถึงความอุดมสมบูรณ์งอกงาม ภายในวิหารชั้นแรก มีเสา 12 ต้น เป็นตัวแทนของเดือนทั้ง 12 เดือน และ 12 ต้น อยู่ภายนอกสุดแทนความหมายของ 12 ชั่วยามในหนึ่งวัน (https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/04/03P04S1V09.jpg) ฝ้าเพดานเป็นรูปแมนดาลา ศิลปะภาวนาที่มีที่มาจากทิเบต อันเป็นเครื่องหมายแห่งจักรวาล มีภาพวาดพระโพธิสัตว์กวนอิมปางต่าง ๆ โดยรอบภายในวิหาร ส่วนหลังคาของวิหารมุงด้วยกระเบื้องหลังคาแบบเซรามิก โซลาร์เซลล์ เพื่อผลิตพลังงานทดแทน นับเป็นวิหารแห่งแรกในประเทศไทยที่ใช้กระเบื้องโซลาร์เซลล์ รวมถึงติดตั้งสายล่อฟ้า ที่เปรียบเสมือนการรับพลังจากเบื้องบน เชื่อกันว่าคนที่มากราบไหว้ขอพรจะมีสุขภาพดี มีโชคลาภ ภายในตัวอาคารยังได้เสริมความวิจิตรตระการตาด้วยภาพเขียนลายต่าง ๆ ที่สื่อให้เห็นถึงแนวคิดเรื่องจักรวาล ภพภูมิ ความสมบูรณ์ และมั่งมี รวมถึงภาพองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมปางต่าง ๆ วิหาร “อี่ ทง เทียน ไท้” นอกจากเป็นสถานที่สำหรับกราบไหว้ขอพรของผู้มีความศรัทธาในองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมแล้ว ชั้นใต้ดินของอาคารยังใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมสาธารณกุศลเป็นครั้งคราวอีกด้วย และทุกวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี จะเป็นวันทำบุญประจำปี (https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2023/04/03P04S1V02.jpg) ปัจจุบันองค์เจ้าแม่กวนอิมยังคงประทับอยู่ที่ศาลาชั่วคราวข้าง ๆ วิหาร เนื่องจากความใหญ่โตของอาคารและความกว้างของพื้นที่โดยรอบ ทำให้การก่อสร้างวิหารเจ้าแม่กวนอิม “อี่ ทง เทียน ไท้” ยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ โดยศาสนิกชนผู้ที่มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบุญสร้างวิหารแห่งนี้เพื่อให้อานิสงส์นี้ส่งผลให้กับทุกบุญที่เกิดขึ้น ด้วยการร่วมบริจาคกระเบื้องหลังคาที่จะนำไปเรียงประกอบเป็นหลังคาทั้ง 3 ชั้น แต่ละชั้นของหลังคาจะมีการแบ่งอายุของผู้ร่วมบริจาคดังนี้ ชั้นบนสำหรับผู้บริจาคที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป ชั้นกลางสำหรับผู้บริจาคที่มีอายุ 40-69 ปี ชั้นล่างสำหรับผู้บริจาคที่มีอายุไม่เกิน 40 ปี โดยเปิดรับบริจาคผ่านทางมูลนิธิ ดร.เทียม โชควัฒนา ซึ่งผู้ร่วมบริจาคสามารถติดชื่อที่กระเบื้องได้ด้วย. อธิชา ชื่นใจ ขอบคุณที่มา : https://www.dailynews.co.th/news/2171155/ (https://www.dailynews.co.th/news/2171155/) 3 เมษายน 2566 , 12:00 น. |