หัวข้อ: เปิดสาเหตุ "ฝันบ่อยเกิดจากอะไร" พร้อม 5 วิธีแก้นอนฝันบ่อยง่ายๆ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 16, 2023, 06:47:47 am (https://static.thairath.co.th/media/dFQROr7oWzulq5Fa5BEjDJJMDPpkZTw9HxFWzZ8fGX1rYQYQpSgTDiv9XcEmYdoYRZo.webp) เปิดสาเหตุ "ฝันบ่อยเกิดจากอะไร" พร้อม 5 วิธีแก้นอนฝันบ่อยง่ายๆ ฝันบ่อยเกิดจากอะไร กลายเป็นคำถามเกี่ยวกับความฝันที่เชื่อมโยงกับศาสตร์ทางการแพทย์ เนื่องจากหลายคนมีอาการฝันทุกคืน นอนไม่พอ จนเกิดปัญหาด้านสุขภาพ ซึ่งจะมีวิธีแก้อย่างไรให้หายเป็นปกติ บทความนี้ ไทยรัฐออนไลน์ได้รวบรวมข้อมูล ไขข้อสงสัยฝันบ่อยเกิดจากอะไร พร้อมทั้งวิธีแก้นอนฝันบ่อยที่สามารถทำตามง่ายๆ ให้ได้ลองทำตามกัน ฝันบ่อยเกิดจากอะไร ตามปกติ ความฝันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกช่วงเวลาในการนอนหลับ โดยความฝันจะเกิดขึ้นเฉลี่ย 2 ชั่วโมงต่อคืนในช่วงวงจรการนอนหลับ หรือ REM Sleep ซึ่งใครที่ฝันบ่อยๆ หรือฝันทุกวัน อาจเกิดจากหลายสาเหตุ ดังนี้ - ความเครียดหรือวิตกกังวลเรื่องใดเรื่องหนึ่ง - มีเรื่องค้างคาใจ - มีความตื่นตัวทางอารมณ์ในช่วงก่อนนอน - มีปัญหาที่ยังไม่ได้แก้ - อยู่ในอารมณ์อ่อนไหว ฝันทุกคืน นอนไม่พอจริงหรือไม่ การนอนหลับพักผ่อนอย่างมีคุณภาพ ควรนอนให้ได้อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง หากใครที่นอนหลับตื้น หรือหลับๆ ตื่นๆ หรือสะดุ้งตื่นจากความฝันกลางดึก แน่นอนว่าจะส่งกระทบต่อสุขภาพ ทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลีย และเกิดอาการเหนื่อย เนื่องจากระบบหายใจและการทำงานของหลอดเลือดจะทำงานหนักกว่าเดิม ในขณะเดียวกันระบบประสาทและสมองก็ยังคงทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง (https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04aiHvXdXa3AjE9pbb4EXwSzfQ49TJUn.webp) 5 วิธีแก้นอนฝันบ่อย ทำตามได้ง่ายๆ หากใครที่กำลังเผชิญกับอาการฝันทุกครั้งที่นอน แนะนำให้ลองปฏิบัติตามข้อแนะนำดังต่อไปนี้ 1. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกาย นอกจากจะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงและมีภูมิต้านทานโรคต่างๆ แล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยผ่อนคลายร่างกาย ทำให้นอนหลับได้ง่ายและหลับสนิทยิ่งขึ้น ทั้งนี้ หากกำลังเริ่มต้นออกกำลังกาย แนะนำให้เริ่มจากท่าพื้นฐาน และไม่หักโหมจนเกินไป 2. ควบคุมอารมณ์และความรู้สึก บางครั้งปัญหาการนอนหลับไม่สนิทหรือหลับแล้วฝัน เกิดจากอารมณ์และความรู้สึกที่มีการตื่นตัว เช่น อารมณ์ตื่นเต้นเมื่อรู้ว่าในวันรุ่งขึ้นจะต้องเดินทางไกล อารมณ์เครียดหรือกังวล เมื่อรู้ว่ามีงานค้างที่จะต้องสะสาง การนับเลข ฝึกสมาธิ เพื่อกำหนดลมหายใจ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยควบคุมอารมณ์ได้ดียิ่งขึ้น 3. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน คาเฟอีน ทำหน้าที่กระตุ้นสมอง ทำให้ร่างกายสดชื่นและตื่นตัว ดังนั้น ผู้ที่ต้องการให้นอนหลับสนิทหรือหลับง่าย ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน โดนอาจจะเลือกดื่มเครื่องดื่มที่ช่วยให้นอนหลับสนิทแทน เช่น ชาดอกคาโมมายล์ ชาเปปเปอร์มินต์ หรือนมอัลมอนด์ 3. ปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม สภาพแวดล้อมเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะการเลือกเตียงที่คุณภาพดี หมอนที่มีลักษณะนุ่ม ตอบโจทย์ต่อสรีระ รวมไปถึงอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อให้นอนหลับสนิทตลอดทั้งคืน 4. ทำกิจกรรมผ่อนคลายสมอง การทำกิจกรรมผ่อนคลายสมอง ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือก่อนนอน การสวดมนต์ ลดการเล่นโทรศัพท์มือถือ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือการทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายความเครียดและความวิตกกังวล จะช่วยให้สามารถหลับได้อย่างสนิทและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น (https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04aiHvXdXa3AjE9pbbuwM6A6SJXzARkI.webp) ฝันทุกวันแปลกไหม ผิดปกติหรือเปล่า สถาบันโรคทางระบบประสาทและโรคหลอดเลือดสมองแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ระบุว่า มนุษย์ทุกคนฝันทุกคืนเป็นเรื่องปกติ โดยจะฝัน 4-6 ครั้ง เฉลี่ย 2 ชั่วโมงต่อคืน เพียงแต่ในบางคืนอาจจดจำความฝันไม่ได้เท่านั้นเอง ฝันทุกวันดีไหม แม้ว่าจะต้องตื่นจากความฝันบ่อยครั้ง แต่การฝันทุกวันก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยจัดการกับอารมณ์และความรู้สึกลึกๆ ในใจ ในบางครั้งความฝันอาจจะแสดงให้เห็นถึงมุมมอง ความคิด รวมถึงวิธีการแก้ปัญหารูปแบบใหม่ร่วมด้วย ฝันทุกคืน สัญญาณเตือนของอาการซึมเศร้าหรือไม่ ดังที่กล่าวมาในข้างต้น การฝันทุกคืนเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย แต่หากทุกครั้งที่นอนแล้วฝันร้ายบ่อยๆ หรือตื่นมาแล้วพบกับความรู้สึกดิ่งแบบเดิม อาจเป็นสัญญาณของความเครียด ความวิตกกังวล อาการซึมเศร้า รวมไปถึงโรคเครียดจากบาดแผลทางใจ (PTSD) (https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04aiHvXdXa3AjE9pbbL9xd6POX2tUcCh.webp) สุดท้ายนี้ อาการฝันบ่อยเกิดจากอะไร สามารถเช็กจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของตนเองได้ในเบื่องต้น เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวอาจส่งผลต่อการนอนหลับ ในขณะเดียวกัน หากมีอาการฝันบ่อย ฝันร้ายทุกคืน รู้สึกอ่อนเพลีย แนะนำให้ปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหาวิธีรักษาอย่างถูกวิธี ขอขอบคุณ :- ที่มา : สถาบันโรคทางระบบประสาทและโรคหลอดเลือดสมองแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา URL : https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2694138 (https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2694138) 15 พ.ค. 2566 15:04 น. | ไลฟ์สไตล์ > ไลฟ์ > ไทยรัฐออนไลน์ |