หัวข้อ: บุญ “เข้าวัสสา” ผลานิสงส์ยิ่งใหญ่ของคนล้านนา เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 17, 2023, 07:26:39 am (https://www.matichonweekly.com/wp-content/uploads/2023/06/phenkhao_1515593960_590-696x432.jpg) บุญ “เข้าวัสสา” ผลานิสงส์ยิ่งใหญ่ของคนล้านนา (https://www.matichonweekly.com/wp-content/uploads/2023/06/เข้าวัสสามติชน-1.jpg) เข้าวัสสฯา ภาพข้างบน อ่านเป็นภาษาล้านนาว่า “เข้าวัสสา” คำว่า “วัสสา” สะกดตามภาษาบาลี ตรงกับภาษาไทยว่า “เข้าพรรษา” หมายถึงการที่พระสงฆ์อยู่ประจำที่ใดที่หนึ่งในช่วงฤดูฝน เมื่อถึงฤดูฝนแล้วพระสงฆ์ต้องหยุดเดินทางไปในที่ต่าง ๆ และพักอาศัยอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่นภายในระยะเวลาที่กำหนด 3 เดือน การเข้าวัสสา หรือเข้าพรรษา หากกล่าวในเชิงประเพณีแล้ว ชาวล้านนามีวัตรปฏิบัติและกิจกรรมหลายอย่างที่แตกต่างจากชาวไทยภาคอื่นๆ ซึ่งมิได้หมายเอาเฉพาะกิจของสงฆ์เท่านั้น หากแต่ชาวบ้านเองก็มีกิจอันเป็นส่วนของคฤหัสถ์เช่นกัน ในส่วนของวันเข้าวัสสา พระสงฆ์จะเริ่มเข้าวัสสาในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ส่วนชาวบ้านจะถือเอาวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ซึ่งตรงกับวัน “อาสาฬหบูชา” เป็นวันเริ่มต้นและไปสิ้นสุดเอาวันเดียวกัน คือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 กิจกรรมหลักของพระสงฆ์นั้น เป็นไปตามพระวินัยที่เคยปฏิบัติมา แต่กิจกรรมของชาวบ้านจะตั้งใจปฏิบัติกันเป็นกรณีพิเศษ เริ่มตั้งแต่วันแรก คือวันขึ้น 15 ค่ำ วันนี้ถือเป็นวัน “เข้าวัสสา” ชาวบ้านจะไปทำบุญแต่เช้าตรู่ เริ่มด้วยการ “ตานขันเข้า” คือ “ทานขันข้าว” หมายถึง การทำบุญให้ทานแด่พระสงฆ์ด้วยอาหารเป็นสำรับ ซึ่งส่วนใหญ่จะมุ่งหวังอุทิศส่วนกุศลข้ามภพข้ามภูมิไปหาเจ้าที่เจ้าทาง แม่พระธรณี หรือเทพยดา อันรักษาบ้านเรือน ตลอดจน “ผีต๋ายเก่าเน่าเมิน” คือดวงวิญญาณของญาติที่เสียชีวิตไปแล้ว อันมีบิดามารดา เป็นต้น เสร็จจากทำบุญที่วัด จะมีการ “ตานขันเข้าคนเถ้า” โดยนำสำรับอาหารไปมอบแด่ผู้เฒ่าผู้แก่ตามละแวกบ้าน นัยว่าเป็นกตเวทิตาธรรมที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา ผู้เฒ่ารับทานนั้นแล้วก็ให้พรเป็นสิริมงคล จนบ่ายคล้อยจะพากันไปฟังพระธรรมเทศนาที่วัด แล้วช่วยจัดสถานที่สำหรับเป็นที่นอนให้ผู้เฒ่าผู้แก่ที่จะอยู่บำเพ็ญศีลภาวนา และค้างคืนที่วัดต่อไป (https://www.matichonweekly.com/wp-content/uploads/2023/06/เข้าวัสสามติชน-3-1536x1217.jpg) ฅ฿นฯเถั้าเขั้าวัดฯยามฯเขั้าวัสสฯา คนเถ้าเข้าวัดยามเข้าวัสสา แปลว่า คนแก่ไปวัดช่วงเข้าพรรษา กล่าวถึงกิจกรรมของคฤหัสถ์ในช่วงเข้าพรรษานั้น ดูจะเคร่งครัดทั้งการให้ทาน การรักษาศีลและบำเพ็ญภาวนา ซึ่งการให้ทานนิยมทำบุญตักบาตรทุกเช้าของวันธรรมสวนะ การรักษาศีลชาวบ้านทั่วไปจะรักษาศีลห้า ผู้เฒ่าชรานิยมถือศีลแปด ส่วนการบำเพ็ญภาวนาจะมีการทำวัตรสวดมนต์ ทำสมาธิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ชราส่วนใหญ่นิยมไปนอนค้างคืนที่วัดในวันธรรมสวนะเพื่อบำเพ็ญธรรม นอกจากนี้ยังมีการฟังพระธรรมเทศนาทุกวันพระช่วงกลางวันตลอดพรรษาด้วย บุญเข้าวัสสาเป็นผลานิสงส์อันยิ่งใหญ่ของคนล้านนา ตลอดระยะเวลาแห่งไตรมาสอันสำคัญนี้ จะไม่มีการประพฤตินอกลู่นอกทางแห่งคลองศีลคลองธรรม ไม่มีงานเลี้ยงฉลอง ไม่มีการแต่งงาน ไม่มีการดื่มสุรา อุปกรณ์การทำมาหากินที่เป็นอันตรายต่อชีวิตสัตว์ถูกเก็บเข้าที่ หิ้งผีครูถูก “ปลงขัน” คือเชิญวิญญาณครูอาจารย์ที่ตนนับถือลงจากหิ้งที่สถิต แล้วยกพานเครื่องสักการะลงมา ด้วยหวังว่าผีครู ผีปู่ย่าจะวางภาระและบำเพ็ญศีลภาวนาเช่นกัน วันเข้าวัสสาเป็นวันเข้าสู่มรรคญาณตามคติของพระพุทธศาสนา ชาวล้านนาจึงอยู่เย็นเป็นสุข สังคมไร้ทุกข์ เพราะอาศัยโอกาสเวลานี้บ่มเพาะภูมิคุ้มกันอกุศลกรรมมาอย่างต่อเนื่องและยาวนานนั่นเอง • ขอขอบคุณ :- ที่มา : มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 16 - 22 มิถุนายน 2566 คอลัมน์ : ล้านนาคำเมือง เผยแพร่ : วันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ.2566 website : https://www.matichonweekly.com/culture/article_684130 (https://www.matichonweekly.com/culture/article_684130) |