หัวข้อ: ธรรมะของพระพุทธองค์ ที่นำมาสอน 45 ปีนั้น จนถึงดับขันธปรินิพพาน "มีแค่กำมือเดียว" เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มีนาคม 08, 2011, 03:50:33 pm (http://www.rmutphysics.com/charud/scibook/buddhist1/buddhist1pic/pic2/110.jpg) ธรรมะกำมือเดียว ภาพนี้พระองค์ทรงแสดงธรรมโปรดภิกษุที่ป่าประดู่ลาย โดยทรงหยิบใบไม้ขึ้นมากำมือหนึ่ง แล้วถามภิกษุว่า ใบไม้ในกำมือของพระองค์ กับใบไม้ทั้งหมดในป่าประดู่นี้ ใบไม้ที่ไหนมีมากกว่ากัน ภิกษุก็ได้ตอบว่า ใบไม้ในป่านี้ทั้งหมดมีมากกว่าในกำมือของพระองค์ พระองค์จึงทรงตรัสต่อไปว่า เรื่องที่เรารู้น่ะเท่ากับใบไม้ทั้งป่า แต่ที่นำมาสอนเธอเท่ากับใบไม้ในกำมือ คือสอนแต่เรื่องทุกข์กับเรื่องดับทุกข์เท่านั้น ส่วนเรื่องอื่น ๆ นั้น ปรากฏว่ามีคนสอนกันมากมาย ฉะนั้นพระองค์จึงมุ่งไปสอนแต่เรื่องทุกข์กับเรื่องดับทุกข์ ส่วนสูตรอื่นวิชาอื่นมีคนสอนแล้ว ที่มา http://www.rmutphysics.com/charud/scibook/buddhist1/index/2/indexpic110.htm (http://www.rmutphysics.com/charud/scibook/buddhist1/index/2/indexpic110.htm) พระไตรปิฎกเล่ม ๑๙ พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๑๑ สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค สีสปาปรรณวรรคที่ ๔ สีสปาสูตร เปรียบสิ่งที่ตรัสรู้มีมากเหมือนใบไม้บนต้น [๑๗๑๒] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ สีสปาวัน ใกล้เมืองโกสัมพี ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคทรงถือใบประดู่ลาย ๒-๓ ใบด้วยฝ่าพระหัตถ์ แล้วตรัสเรียกภิกษุ ทั้งหลายมา แล้วตรัสถามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ใบประดู่ลาย ๒-๓ ใบที่เราถือด้วยฝ่ามือกับใบที่บนต้น ไหนจะมากกว่ากัน? ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ใบประดู่ลาย ๒-๓ ใบที่พระผู้มีพระภาคทรงถือด้วยฝ่าพระหัตถ์มีประมาณน้อย ที่บนต้นมากกว่า พระเจ้าข้า. พ. อย่างนั้นเหมือนกัน ภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่เรารู้แล้วมิได้บอกเธอทั้งหลายมีมาก ก็เพราะเหตุไรเราจึงไม่บอก เพราะสิ่งนั้นไม่ประกอบด้วยประโยชน์ มิใช่พรหมจรรย์เบื้องต้น ย่อมไม่เป็นไปเพื่อความหน่าย ความคลายกำหนัด ความดับ ความสงบ ความรู้ยิ่ง ความตรัสรู้นิพพาน เพราะเหตุนั้น เราจึงไม่บอก. [๑๗๑๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งอะไรเราได้บอกแล้ว เราได้บอกแล้วว่า นี้ทุกข์ ... นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา ก็เพราะเหตุไรเราจึงบอก เพราะสิ่งนั้นประกอบด้วยประโยชน์ เป็นพรหมจรรย์เบื้องต้น ย่อมเป็นไปเพื่อความหน่าย ... นิพพาน เพราะฉะนั้น เราจึงบอก ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงกระทำความเพียร เพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา. อ้างอิง เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๙ บรรทัดที่ ๑๐๓๗๖ - ๑๐๓๙๒. หน้าที่ ๔๓๔. http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=19&A=10376&Z=10392&pagebreak=0 (http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=19&A=10376&Z=10392&pagebreak=0) ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=19&i=1712 (http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=19&i=1712) หัวข้อ: Re: ธรรมะของพระพุทธองค์ ที่นำมาสอน 45 ปีนั้น จนถึงดับขันธปรินิพพาน "มีแค่กำมือเดียว" เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ พฤษภาคม 17, 2017, 12:31:45 pm สัพพัญญุตญาณ ของพระพุทธเจ้า ไม่ได้มีแค่ พุทธวจนะ ในพระไตรปิฏก เท่านั้นมีมากกว่า นั้น แต่พระไตรปิฏกนั้นไม่ได้ครอบคลุม ความรู้ทั้งหมดของพระพุทธเจ้า ไว้เลย พระอรหันต์ ผู้ทำสังคายนา ครั้งแรก 500 รูป เป็นครูอาจารย์ที่ชั้นเลิศ ชั้นยอด เป็นพระเนื้อนาบุญ ที่ประเสริฐ แต่ถึงกระนั้นการทำสังคายนา รวบรวมเป็นพระไตรปิฏก ถึง 3 ตระกร้า มีพระสูตร พระวินัย และ พระอภิธรรม ว่าได้รวบรวมความรู้ที่พระพุทธเจ้าได้แสดงไว้ 45 ปี ได้หมด ดังนั้นคนที่บอกว่า ศึกษาเผยแผ่พุทธวจนะ อย่าได้ตาบอด ยึดอยู่แค่ วจนะในพระไตรปิฏก เท่านั้น เพราะวิธีการที่พระพุทธเจ้าสอนนั้น ที่เป็นส่วนคำอธิบายนั้น ส่วนใหญ่อยู่นอกพระไตรปิฏก เหตุที่ไม่สามารถนำวิธีการต่าง ๆ มารวมเป็นเล่มอย่างพระไตรปิฏกได้ เพราะว่า ญาณ และ วิธีการนั้น มีมากกเกินบันทึก ซึ่งแตกออกไปตามปฏิปทา และ ปฏิสัมภิทาญาณ ของพระอรหันต์ ที่สำเร็จคุณธรรมได้
หัวข้อ: Re: ธรรมะของพระพุทธองค์ ที่นำมาสอน 45 ปีนั้น จนถึงดับขันธปรินิพพาน "มีแค่กำมือเดียว" เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ พฤษภาคม 17, 2017, 12:36:43 pm ดังนั้นถ้าว่ากันตามจริงแล้ว พุทธวจนะ ไม่ได้มีแค่ในพระไตรปิฏก แต่ พุทธวจนะ นั้นล้วนสืบทอดมาในปัจจุบันได้ ถึงเราตอนนี้ได้ก็เพราะว่า พระอรหันต์ ท่านเป็นผู้สือทอดมา จนถึงเรา ในหลักธรรม ไม่มีข้อบังคับ มีแต่ข้อพึงปฏิบัติ หมายความว่า บังคับให้ปฏิบัติไม่ได้ ผู้ที่ปฏิบัติตามล้วนต้องสมัครใจตาม
ซึ่งขึ้นอยู่กับจริต กับ ความชอบของแต่ละท่านด้วย หัวข้อ: Re: ธรรมะของพระพุทธองค์ ที่นำมาสอน 45 ปีนั้น จนถึงดับขันธปรินิพพาน "มีแค่กำมือเดียว" เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ พฤษภาคม 17, 2017, 12:41:48 pm ส่วนวิธีการที่อยู่นอกพระไตรปิฏก นั้น ครูอาจารย์ ท่านได้แยกออกมาเพื่อไม่ให้ปนกับ เนือ้หาพระสูตร เรียกว่า อรรถกถา คือคำอธิบาย ประมาณนี้
ดังนั้น เนื้อหาพระสูตร ก็เป็น สูตร ที่ต้องนำมาประมวลผล โดยผู้ภาวนาตาม ส่วนที่เป็นวิธีการ บางครั้งไม่สามารถนำเรียบเรียงให้เป็น บัญญัติได้ ก็มีอยู่จำนวนมากเพราะคุณธรรม และหลักธรรมที่ ได้บรรลุนั้น บางครั้งก็เป็นปัจจัตตัง ( รู้ได้เห็นได้ ด้วยตนเอง ) ที่จะอธิบายได้ ก็ต้องได้ ปฏิสัมภิทาด้วย ;) |