สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ มีนาคม 09, 2011, 09:28:26 am



หัวข้อ: เทวดาตายเพราะหมดบุญใช่ไหม ???
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มีนาคม 09, 2011, 09:28:26 am
 
(http://i1045.photobucket.com/albums/b453/alongkot_r/010653/f3.jpg)

เทวดาตายเพราะหมดบุญใช่ไหม
          ถาม  เทวดาท่านตายเพราะหมดบุญใช่ไหม ถ้าไม่หมดบุญก็ไม่ตายใช่ไหม

          ตอบ  เทวดาท่านมิได้ตายเพราะหมดบุญเพียงอย่างเดียว แต่เทวดาตายด้วยเหตุ ๔ ประการด้วยกันคือ

          ๑. ตายเพราะสิ้นอายุ คืออายุในสวรรค์ชั้นนั้นมีกำหนดเท่าใด เช่น ๕๐ ปีทิพย์ ท่านก็อยู่ในสวรรค์ชั้นนั้นจนครบอายุแล้วจึงตาย ภาษาธรรมะเรียกการตายว่าจุติ ซึ่งหมายถึงการเคลื่อนจากภพ

          ๒. ตายเพราะสิ้นบุญ คือเทวดาบางองค์ทำบุญไว้น้อย เมื่อมาเกิดเป็นเทวดา ก็เกิดอยู่ได้ไม่นาน คืออยู่ไม่ครบอายุขัยของเทวดา ก็หมดบุญที่นำเกิด จึงต้องจุติคือตายลง เช่นขึ้นไปเกิดในสวรรค์ได้เพียง ๗ วันก็ตายเป็นต้น อย่างนี้เรียกว่าตายเพราะหมดบุญ

          ๓. ตายเพราะอดอาหาร ที่ว่าอดอาหารนี้ไม่ใช่ว่าเทวดาไม่มีอาหารกิน ท่านมีอาหารทิพย์กินแต่เมื่อได้รับความสุขอันเป็นทิพย์ก็เพลิดเพลินยินดี เพราะเหตุที่ไม่เคยพบพานมาก่อนก็หลงไหลยินดีจนลืมบริโภคอาหารทิพย์ เพียงลืมบริโภคอาหารครั้งเดียวเท่านั้นร่างกายก็ทนไม่ได้ ทั้งนี้เพราะไฟธาตุที่ย่อยอาหารของเทวดามีกำลังเผาผลาญมาก เมื่อไม่มีอาหารให้ย่อย ก็เผาผลาญร่างกายให้ทำลายไป เทวดานั้นจึงต้องตายเพราะลืมบริโภคอาหาร

          ๔. เทวดาตายเพราะโกรธ ความโกรธเผาผลาญใจเขาจนแตกสลายตายไป เทวดาพวกนี้มักมีความริษยาแรงกล้า ทั้งนี้เพราะทนเห็นเทวดาองค์อื่นมียศ มีรัศมี มีสมบัติยิ่งกว่าตนไม่ได้เป็นต้น แต่การตายของเทวดาต่างกับมนุษย์ตรงที่ตายแล้วไม่มีซากศพปรากฎแต่หายไปทั้งร่าง เพราะฉะนั้นเมื่อเทวดาจุติ เพื่อนเทวดาด้วยกันก็ไม่ทราบ

          เทวดาก่อนที่จะจุติจะต้องมีนิมิต ๕ ประการปรากฏขึ้น คือ
                    ๑. ดอกไม้ทิพย์เครื่องประดับเหี่ยวแห้ง
                    ๒. ผ้าทรงเศร้าหมอง
                    ๓. มีเหงื่อไหลออกจากรักแร้สองข้าง
                    ๔. ทิพยอาสน์ คือที่นั่งที่นอนที่เคยสบาย กลับแข็งกระด้าง
                    ๕. ร่างกายเศร้าหมอง รัศมีกายก็พลอยเศร้าหมองด้วย

(http://i1045.photobucket.com/albums/b453/alongkot_r/010653/f30.jpg)

ที่มา อ้างอิง และแนะนำ :-
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๑  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๓ ปาฏิกสูตร
http://84000.org/tipitaka/book/v.php?B=11&A=1&Z=707 (http://84000.org/tipitaka/book/v.php?B=11&A=1&Z=707)
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ จวมานสูตร         
http://84000.org/tipitaka/book/v.php?B=25&A=6074&Z=6109 (http://84000.org/tipitaka/book/v.php?B=25&A=6074&Z=6109)