หัวข้อ: ข้ามคาบสมุทรหลายพันปีมาแล้ว เขาสามแก้ว ชุมพร เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 06, 2023, 06:48:16 am (https://www.matichonweekly.com/wp-content/uploads/2023/11/สุจิตต์-2255-696x365.jpg) ข้ามคาบสมุทรหลายพันปีมาแล้ว เขาสามแก้ว ชุมพร เขาสามแก้ว (บ้านสามแก้ว ม.1 ต.นาชะอัง อ.เมือง จ.ชุมพร) แหล่งโบราณคดีราว 2,500 ปีมาแล้ว สืบเนื่องถึงสมัยหลังซึ่งอยู่บนเนินเขาสามแก้ว ซึ่งเป็นกลุ่มภูเขาเล็กๆ 3-4 ลูกสลับกับที่ราบริมคลองท่าตะเภา โบราณวัตถุสำคัญที่พบ ได้แก่ กลองทอง (มโหระทึก) สำริด, ลูกปัด, กำไล, ตุ้มหู, จี้ห้อยคอสำริด, แก้วและลูกปัดชนิดต่างๆ อีกจำนวนมาก น่าจะเป็นเมืองท่า ถึงแม้จะอยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดิน แต่ก็มีเส้นทางน้ำที่ใช้ออกสู่ทะเลได้ โดยใช้แนวลำน้ำท่าตะเภาออกสู่ทะเลอ่าวไทยที่ปากน้ำชุมพร ลักษณะของเนินที่พบโบราณวัตถุจำนวนมากนั้นอยู่ใกล้กับที่ลุ่ม ปัจจุบันชาวบ้านเรียกอู่ตะเภา มีเส้นทางข้ามคาบสมุทรที่สำคัญ 2 สาย คือ (1.) จาก อ.หลังสวน ไปตามแม่น้ำหลังสวนต่อไปยัง อ.พะโต๊ะ และข้ามเทือกเขาไปยัง จ.ระนอง (2.) จาก อ.เมือง ไปยังกระบุรี ปากจั่น จ.ระนอง มีการสำรวจเส้นทางจากกระบุรี (ระนอง) ถึงเขาสามแก้ว (ชุมพร) ของนายเยี่ยมยง ส.สุรกิจบรรหาร ระหว่าง พ.ศ.2515-2521 พบว่าเป็นเส้นทางน้ำตลอดสาย มีแหล่งโบราณคดีตลอดทาง เริ่มจากฝั่งทะเลอันดามันทางตอนล่างของแม่น้ำกระบุรี ผ่านแหล่งโบราณคดีเขาพระขยางค์ บ้านลำเลียง อ.กระบุรี จ.ระนอง ถึงปากจั่น ทวนน้ำตามคลองจั่นเข้าสู่คลองเหล็ก ผ่านเขาหินซอง คลองหิน ถึงสันปันน้ำ จปร. จึงเดินบกข้ามช่องเขาเข้าเขต จ.ชุมพร แล้วล่องตามคลองชุมพร ผ่านท่าไม้ลาย ท่าไม้รวก แหล่งโบราณคดีถ้ำสนุกสุขารมย์ บ้านเสียบญวน บ้านนาเหนือ บ้านยางด้วน บ้านวัดประเดิม แล้วเดินบกมาที่ท่าตะเภา ลงคลองท่าตะเภา ผ่านแหล่งโบราณคดีเขาสามแก้ว แล้วลงทะเลอ่าวไทยที่ปากน้ำชุมพร (https://www.matichonweekly.com/wp-content/uploads/2023/11/1698902122752.jpg) ชาวบ้านขุดหาของมีค่าที่เขาสามแก้ว อ.เมือง จ.ชุมพร บนพื้นที่ซึ่งนักโบราณคดีเคยขุดพบโบราณวัตถุอายุ 2,500 ปีมาแล้ว (พันธุ์ทิพย์ ธีระเนตร ถ่ายภาพ วันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคม 2566) (https://www.matichonweekly.com/wp-content/uploads/2023/11/1698902148803.jpg) แผนที่แสดงเมืองท่าสำคัญบนเส้นทางข้ามคาบสมุทรไทย ระหว่างฝั่งอันดามันกับฝั่งอ่าวไทย [เมืองโบราณ ฉบับมกราคม-มีนาคม 2563 หน้า 29] “แลนด์บริดจ์” เป็นโครงการของรัฐบาลก่อสร้างเส้นทางขนส่งขนาดใหญ่เชื่อมอ่าวไทยกับอันดามัน บริเวณคอคอดกระ (ชุมพร-ระนอง) ที่เคยมีดำริขุดคลองเชื่อมตั้งแต่ครั้งพระนารายณ์สมัยอยุธยา และเคยเป็นเส้นทางขนถ่ายเคลื่อนย้ายทรัพยากรเมื่อ 2,500 ปีมาแล้ว หรือตั้งแต่ราว พ.ศ.1 โครงการแลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง เชื่อมระหว่างฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน มีเป้าหมายเป็นประตูการค้านำเข้า-ส่งออกของไทยและประเทศในภูมิภาคอาเซียน รองรับสินค้าจากจีน, ลาว, อินเดีย ไปยังยุโรป หรือสินค้าจากยุโรปมายังอาเซียน แลนด์บริดจ์ช่วยย่นระยะทาง และลดระยะเวลาในการขนส่ง เป็นเส้นทางเดินเรือใหม่เชื่อมฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ใช้รถไฟและมอเตอร์เวย์เชื่อมระหว่างท่าเรือทั้งสองฝั่ง โครงการนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาคใต้เพิ่มจีดีพี (ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ) จาก 2% เป็น 10% สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ราว 5 แสนล้านบาท เกิดการสร้างงาน เพิ่มอาชีพใหม่ๆ และพัฒนาคุณภาพชีวิต จุดก่อสร้างท่าเรือที่ศึกษาแล้วพบว่าเหมาะสม ในฝั่งทะเลอ่าวไทย อยู่ที่แหลมริ่ว อ.หลังสวน จ.ชุมพร และฝั่งทะเลอันดามัน อยู่ที่แหลมอ่าวอ่าง อ.เมือง จ.ระนอง (จากบทความเรื่อง “แลนด์บริดจ์เพื่อใคร?” ของ ทวีศักดิ์ บุตรตัน ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 6-12 ตุลาคม 2566) • (https://www.matichonweekly.com/wp-content/uploads/2023/11/681.jpg) เขาสามแก้วตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.นาชะอัง เป็นกลุ่มเนินเขา 4 ลูกที่มีลักษณะเป็นเขาหินกรวดผสมดิน มีความสูงจากระดับน้ำทะเลราว 20-30 เมตร เนินเขาแต่ละเนินจะมีพื้นที่ราบด้านบน ส่วนเชิงเขาโดยรอบเป็นพื้นที่ราบกว้างใหญ่ เหมาะแก่การทำเกษตรกรรม ด้วยทางทิศตะวันตกมีคลองท่าตะเภา ซึ่งมีต้นน้ำจากเทือกเขาตะนาวศรีเป็นลำน้ำสายสำคัญพาดผ่าน แล้วไหลไปลงทะเลอ่าวไทยที่บ้านปากน้ำ กลายเป็นแม่น้ำชุมพร ขณะเดียวกันก็มีลำน้ำแยกออกจากคลองท่าตะเภาทางตอนใต้ คือคลองพนังตัก เป็นลำน้ำสำคัญอีกสายหนึ่งที่สามารถออกสู่ทะเลอ่าวไทยได้เช่นกัน นอกจากนี้ ด้วยตำแหน่งที่ตั้งซึ่งอยู่ในอาณาบริเวณคอคอดกระ อันเป็นเส้นทางข้ามคาบสมุทรระหว่างฝั่งอันดามันทางด้านตะวันตกกับอ่าวไทยทางด้านตะวันออก จึงทำให้ชุมชนเขาสามแก้วอยู่บนเส้นทางการค้าทางทะเลและทางบกที่พ่อค้าจากโลกตะวันตกกับตะวันออกมาพบกัน ปรากฏโบราณวัตถุจำนวนมาก เช่น ลูกปัด เหรียญตรา เครื่องถ้วย เครื่องกระเบื้อง ภาชนะสำริด เครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำด้วยเหล็ก ซึ่งมีรูปแบบและวัสดุที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ชุมชนเขาสามแก้วจึงเป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญแห่งหนึ่งของชุมพรและคาบสมุทรไทย-มลายู [เมืองโบราณ ฉบับมกราคม-มีนาคม 2563 หน้า 2] ขอขอบคุณ :- ที่มา : มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 3 - 9 พฤศจิกายน 2566 คอลัมน์ : สุจิตต์ วงษ์เทศ เผยแพร่ : วันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ.2566 website : https://www.matichonweekly.com/column/article_723755 (https://www.matichonweekly.com/column/article_723755) |