สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

.
(https://ichef.bbci.co.uk/news/800/cpsprodpb/a41e/live/48cc75e0-285e-11ee-b1d7-8fdc93c2782e.png)
ที่มาของภาพ : FERDINAND SCHMUTZER
คำบรรยายภาพ : อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ขณะบรรยายที่สถาบันแห่งหนึ่งในกรุงเวียนนา เมื่อปี 1921


ไอน์สไตน์สอนครูวิชาศาสนา “วิทยาศาสตร์เข้ามาแทนที่แนวคิดเรื่องพระเจ้า”

จุดยืนและท่าทีของนักฟิสิกส์ชื่อก้องโลก “อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์” ต่อศาสนาและความเชื่อต่าง ๆ นั้น เป็นที่สนใจใคร่รู้ของผู้คนทั่วโลกมาทุกยุคทุกสมัย

ล่าสุดบริษัท “ราอับ คอลเล็กชัน” (The Raab Collection) ตัวแทนจำหน่ายเอกสารและลายเซ็นของบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ ได้นำจดหมายที่ไอน์สไตน์เขียนตอบคำถามเรื่องศาสนากับวิทยาศาสตร์ ซึ่งส่งถึงครูสอนศาสนาชาวยิวผู้หนึ่งในปี 1950 ออกมาเสนอขายในสนนราคา 125,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 4,300,000 บาท

เนื้อความในจดหมายภาษาเยอรมันดังกล่าว เน้นย้ำถึงจุดยืนสมัยใหม่ของไอน์สไตน์ต่อแนวคิดที่เชื่อว่า โลกและจักรวาลนั้นมี “ผู้สร้าง” (creationism) หรือความเชื่อในพระเจ้าของหลายศาสนานั่นเอง ซึ่งเขามองว่าพระเจ้าไม่ใช่บุคคลที่มีตัวตนอยู่จริงเหมือนที่ระบุไว้ในคัมภีร์ แต่เป็นภาวะทางธรรมชาติอย่างหนึ่งที่อธิบายได้ด้วยหลักการวิทยาศาสตร์

ในจดหมายลงวันที่ 11 เม.ย. 1950 ที่ส่งถึงมาร์ธา มังค์ ภรรยาของแรบไบชาวยิวและครูสอนวิชาศาสนาในสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งของนครนิวยอร์ก นักฟิสิกส์ชื่อก้องโลกได้ตอบคำถามเชิงปรัชญาของเธอ ซึ่งก็เป็นผู้อพยพที่ลี้ภัยนาซีมาจากเยอรมนีเช่นเดียวกันกับเขา โดยก่อนหน้านั้นมังค์ถามไอน์สไตน์ว่า

“ในฐานะตัวแทนของนักเรียนวิชาศาสนศึกษา ฉันอยากถามความเห็นของคุณว่า มันจะเป็นไปได้ไหมที่นักวิทยาศาสตร์สมัยใหม่จะสามารถยอมรับแนวคิดเรื่องพระเจ้าสร้างโลก ยอมรับแนวคิดที่ว่ามีอำนาจเบื้องบนซึ่งสรรค์สร้างสรรพสิ่งด้วยความรู้ทางวิทยาศาสตร์”

(https://ichef.bbci.co.uk/news/800/cpsprodpb/2121/live/64682dd0-285e-11ee-b1d7-8fdc93c2782e.png)
ที่มาของภาพ : THE RAAB COLLECTION
คำบรรยายภาพ : ซองจดหมายที่ไอน์สไตน์ส่งถึงครูผู้สอนวิชาศาสนศึกษาชาวยิว


ไอน์สไตน์เขียนตอบไปว่า “คนที่ถูกฝึกให้มีตรรกะความคิดแบบวิทยาศาสตร์มาบ้างไม่มากก็น้อย จะรู้สึกแปลกแยกต่อความเชื่อทางศาสนาแบบดั้งเดิมที่มองว่ามีบุคคลผู้สร้างจักรวาล เนื่องจากเขาจะใช้มาตรฐานในการคิดแบบเป็นเหตุเป็นผลกับทุกเรื่อง”

“สิ่งนี้ไม่ใช่การปฏิเสธความเชื่อทางศาสนา แต่เป็นการใช้วิทยาศาสตร์เข้ามาแทนที่แนวคิดเรื่องพระเจ้า”

“ตราบใดที่เรายังตีความเรื่องราวในคัมภีร์ไบเบิลแบบยึดถือตรงตามตัวอักษร เราย่อมรู้ดีถึงผลที่ติดตามมาว่า ผู้อ่านคัมภีร์จะเกิดศรัทธาความเชื่อแบบไหน”

(https://ichef.bbci.co.uk/news/800/cpsprodpb/d025/live/78b3a4e0-285e-11ee-b1d7-8fdc93c2782e.png)
ที่มาของภาพ : THE RAAB COLLECTION
คำบรรยายภาพ : ข้อความในจดหมายที่ไอน์สไตน์เขียนถึงครูผู้สอนวิชาศาสนศึกษาชาวยิว


“หากคุณตีความไบเบิลในเชิงสัญลักษณ์หรือในเชิงอุปมาอุปไมย มันจะเริ่มไม่แน่ชัดว่า พระเจ้าเป็นบุคคลที่คล้ายกับมนุษย์ หรือเป็นเทพสูงสุดเพียงหนึ่งเดียวจริงหรือไม่ ในกรณีเช่นนี้ มันยากที่จะประเมินได้ว่าศาสนาแบบดั้งเดิมจะหลงเหลืออะไรให้จับต้องได้อยู่อีก”

จดหมายฉบับนี้เป็นหลักฐานสำคัญอีกชิ้นหนึ่งที่ยืนยันว่า ไอน์สไตน์ไม่เชื่อในพระเจ้าตามการตีความแบบดั้งเดิมของศาสนายูดาห์ แต่เขาเชื่อใน “พระเจ้าของสปิโนซา” ซึ่งเป็นแนวคิดของนักปรัชญาชาวดัตช์ในศตวรรษที่ 17 โดยมองว่าพระเจ้าเปิดเผยแสดงตนออกมาในรูปของโลกและธรรมชาติ อันมีความประสานสอดคล้องและกลมกลืนกันตามกฎเกณฑ์ที่แน่นอน ไม่ใช่พระเจ้าที่สนใจแต่เรื่องชะตากรรมและการกระทำของมนุษย์




Thank to : https://www.bbc.com/thai/articles/cern0ev7e2vo (https://www.bbc.com/thai/articles/cern0ev7e2vo)
22 กรกฎาคม 2023